มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 494
ในช่วงเวลาสั้นๆ เพียงไม่กี่ปี ฐานะของประเทศเทียนหวู ได้เปลี่ยนแปลงไปราวฟ้ากับดิน
ในอดีต นำโดยราชวงศ์ของตระกูลฟาน ตระกูลใหญ่สิบตระกูลเป็นใหญ่อยู่ในทุกด้านของประเทศเทียนหวู และล้อมรอบด้วยกองกำลังขนาดใหญ่ทั้งสามคือตำหนักจื่อ สำนักเสวียนหยางและสำนักฉางเหอ
แต่ในปัจุบัน ตระกูลฝานสูญเสียสิทธิ์ในการปกครองกองกำลังต่าง ๆ ในประเทศเทียนหวู แล้วยังถูกขับไล่ออกจากเมืองหลวง เมืองเทียนหวู ตอนนี้ในตระกูล มีเพียงราชายุทธ์ไม่กี่คนเป็นผู้นำ
นอกจากนี้ สิบตระกูลในอดีต เหลือเพียงตระกูลเหยียนและตระกูลสวีเท่านั้น และตำหนักจื่อ ซึ่งเป็นหนึ่งในสามกองกำลังที่ใหญ่ที่สุด ก็ถูกทำลายลงเช่นกัน
หลังจากที่หลัวซิวกล่าวในเมืองเทียนหวูเมื่อไม่นานมานี้ว่าเขาต้องการจัดตั้งกองกำลัง กองกำลังทุกฝ่ายและนักยุทธ์หลายคน ต่างจับจ้องการเคลื่อนไหวของเขาอยู่
จู่ๆ ข่าวเรื่องหนึ่งก็แพร่ระบาดออกไปและทำให้ทุกคนตกตะลึง
อาจารย์เสวียนหยางเชิญมกุฎยุทธ์สองท่านไปโจมตีสำนักฉางเหอ แต่ในที่สุดกลับถูกอาจารย์สำนักฉางเหอที่พึ่งค่ายพิทักษ์เขาได้ฆ่ามกุฎยุทธ์สองคนและได้รับบาดเจ็บหนึ่งคน เพียงอาจารย์เสวียนหยางคนเดียวที่หลบหนีไปได้
ก่อนหน้านี้ เป็นที่ทราบกันดีว่าอาจารย์เสวียนหยางได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการลอบโจมตี ตามหลักแล้วอาการบาดเจ็บจะไม่สามารถฟื้นตัวได้เร็วขนาดนี้
ในเมืองเทียนหวู ตาเฒ่าประหลาดฉิวและจอมยุทธ์แดนจักรพรรดิยุทธ์อื่น ๆ อีกหลายคนที่อยู่ในการฝึกตนแบบไน้สำนัก ได้รวมตัวกัน
“จากข่าวที่เชื่อถือได้ อาจารย์สำนักฉางเหอสามารถฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บได้ เพราะหลัวซิวได้ส่งยารักษาตัวระดับ 7หนึ่งเม็ดไปให้”
“ยารักษาตัวระดับ 7? หลัวซิวคนนั้นจะมียาระดับนี้ได้อย่างไร?”
เหล่าจักรพรรดิยุทธ์มีสีหน้าที่แตกต่างกันออกไป สายตาต่างมองไปที่ตาเฒ่าประหลาดฉิวพร้อมเพียงกัน
เพราะก่อนหน้านี้ หลัวซิวเคยพูดว่าถ้าแก่ตาเฒ่าประหลาดฉิวเข้าร่วมกองกำลังของเขา เขาจะสามารถถึงแดนจักรพรรดิยุทธ์ได้ภายในสิบปี
หากหลัวซิวสามารถเอายารักษาตัวระดับ 7 สมบัติแบบนี้ออกมาได้ งั้นคำพูดของเขาย่อมไม่พูดเกินความเป็นจริงอย่างแน่นอน แต่เพราะเขามีความสามารถและความมั่นใจ
นักยุทธ์ผู้ฝึกฝนที่ไม่เข้าร่วมกองกำลังใดๆ ไม่มีกองกำลังใหญ่อยู่เบื้องหลัง ทรัพยากรทั้งหมดสำหรับการฝึกฝนต้องพึ่งพาตนเอง และผลการฝึกตนให้ถึงแดนจักรพรรดิยุทธ์ เห็นได้ว่าเขามีความสามารถสูง
บนสมมติฐานที่ว่ามีพรสวรรค์ที่ตามความต้องการ และที่มีทรัพยากรการฝึกตนที่เพียงพอ จะเป็นเรื่องที่ง่ายดายที่จะให้ผลการฝึกตนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
“ข้าได้ยินมาว่า การปิดล้อมโจมตีสำนักฉางเหอของมกุฎยุทธ์ทั้งสาม ท้ายในที่สุดมีมกุฎยุทธ์สองคนที่ล่วงลับไป หลัวซิวมีส่วนเกี่ยวข้องในนั้นด้วย”
“แดนตำหนักจื่อในอดีต ถูกเขาครอบครอง และได้ก่อตั้งสำนักที่ชื่อ ไท่เสวียน”
“ไท่เสวียนโบราณเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เป็นไปได้มากว่าในตอนนั้นเขาได้รับการสืบทอดจากผู้แข็งแกร่งสำนักไท่เสวียน ดังนั้นเขาจึงคิดที่จะสืบทอดสำนักไท่เสวียนต่อไป”
ช่วงนี้ เหล่าผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิยุทธ์ ต่างก็ได้เฝ้าดู ในอดีตเหตุผลที่พวกเขาไม่เต็มใจที่จะเข้าร่วมกองกำลัง เป็นเพราะพวกเขาไม่ต้องการถูกผูกมัด
แต่หลังจากที่ผลการฝึกตนมาถึงแดนปัจจุบันแล้ว เป็นเรื่องยากมากที่จะเพิ่มการฝึกตนไปต่อ แม้ว่าจะเข้าร่วมกองกำลัง ตามกำลังในประเทศเทียนหวู ก็ไม่มีกองกำลังใดที่สามารถจัดหาทรัพยากรให้เพียงพอสำหรับการฝึกตนให้พวกเขาได้
ก่อนหน้านี้หลัวซิวเคยสัญญาไว้ว่าจะให้จักรพรรดิยุทธ์ช่วงกลางมีผลฝึกตนถึงช่วงปลายภายในสิบปี ซึ่งเป็นสิ่งล่อใจที่ใหญ่มากสำหรับผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิยุทธ์คนหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย
…
หลังจากสิ้นสุดการต่อสู้บนยอดเขาเทียนเหอ เกาเหลียนหงกลับมาที่สำนักไท่เสวียน แต่เมื่อเขากลับมา หลัวซิวยังคงปิดกั้นรักษาอาการบาดเจ็บอยู่ในหอคอยฝึกฝนกลางแดนตำหนักจื่อ
ด้วยการกระตุ้นพลังผู้เป็นอมตะ วงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพทำงานอย่างอัตโนมัติ พลังสองระดับความเป็นตายซ่อมแซมลายเส้นชีวิตที่เสียหายควบคู่กับทานยารักษาตัวไปด้วย อาการบาดเจ็บของหลัวซิวกลับมาหายดีเป็นปกติภายในเวลาไม่ถึงเจ็ดวัน
ไม่เพียงเท่านั้น ในสถานะพลังผู้เป็นอมตะถูกกระตุ้น ความแข็งแกร่งแห่งผลการฝึกตนโดยรวมของเขายังได้เพิ่มขึ้นอย่างครอบคลุม อย่างแรกคือผลการฝึกตนของพลังจิตแท้ จากราชายุทธ์ขั้น 5 เพิ่มขึ้นถึงราชายุทธ์ขั้น 7 โดยตรง ถึงราชายุทธ์ช่วงปลาย
ต่อมาคือแดนร่างเนื้อของเขา ก็ถึงขั้นร่างยุทธ์ระดับจักรพรรดิช่วงปลายแล้ว แค่พลังทางร่างกาย เขาก็สามารถต่อสู้กับผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิยุทธ์ช่วงปลายได้ด้วย
นอกจากนี้ยังมีตัวสำนึกของเขา ซึ่งดูดซับพลังวิญญาณบริสุทธิ์จำนวนมากจากเทพจิตไม่แท้ มาถึงระดับจักรพรรดิยุทธ์ขั้น 9แล้ว อีกนิดหนึ่งก็จะเทียบเท่ากับผู้แข็งแกร่งระดับมกุฎยุทธ์อย่างสมบูรณ์แบบ
สิ่งที่หลัวซิวสนใจมากที่สุดก็คือความเข้าใจกับผังกฎดั้งเดิมแผ่นที่สามที่ได้มีความก้าวหน้าครั้งใหม่