มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 537
ในสมัยโบราณ มีว่าจะมีเพียงอัจฉริยะผู้สืบทอดของสายเทพเสวียนเท่านั้นที่มีคุณสมบัติฝึกวิชาฝึกจิตไท่เสวียน แต่ศิษย์ภายในสำนัก ล้วนจะได้รับวิธีพิเศษอย่างหนึ่ง เท่ากับเป็นวิชาฝึกจิตไท่เสวียนฉบับย่อ สามารถเขามาล่าเอาลูกแก้วโลหิตภายในแดนปริศนา เพิ่มระดับผลการฝึกตนและร่างเนื้อ
มหาจักรพรรดิยุทธ์เสวียนดำเองก็เคยใช้ที่นี่เป็นสถานที่เพิ่มระดับผลการฝึกตนอย่างรวดเร็วเช่นกัน ทว่าต่อให้เป็นเขาเอง หลังจากที่ผลการฝึกตนได้บรรลุถึงจักรพรรดิยุทธ์ขั้นเก้า ก็เคยเข้าไปในส่วนลึกของเขตที่ห้ามาก่อนเลย
“เริ่มจากเขตที่ห้า ไม่ว่าผลการฝึกตนของเจ้าจะสูงเพียงใด หลังจากที่เข้าไป ผลการฝึกตนจะถูกกดให้ต่ำลง ต่อให้เป็นผู้แข็งแกร่งแดนนิรันกาลเมื่อเข้ามาในเขตที่ห้า ผลการฝึกตนก็จะถูกกดลงมาที่ระดับจักรพรรดิยุทธ์”
เรื่องของแดนนานาอสูร นับเป็นหนึ่งในใจกลางความลับใหญ่ของสำนักไท่เสวียน มหาจักรพรรดิยุทธ์เสวียนดำรู้เรื่องราวเหล่านี้ นั่นเพราะเขาเป็นหนึ่งในสามผู้อาวุโสใหญ่
สำหรับความลับของแดนนานาอสูร สำหรับห้าพื้นที่ตั้งแต่เขตที่ห้าขึ้นไป ก็มีความเข้าใจเพียงคร่าว ๆ ไม่อาจรู้ทั้งหมดได้
พื้นที่ของเขตที่หานั้นกว้างขวางมาก จากที่มหาจักรพรรดิยุทธ์เสวียนดำได้กล่าวมา อสูรกายของที่นี่แบ่งออกเป็นสามประเภทใหญ่ ๆ นั่นคืออสูรบก อสูรปีก และอสูรเกล็ดกระดอง หลัวซิววาร์ปเข้ามายังเขตที่ห้า เป็นป่าเขาแห่งหนึ่ง ทันทีที่ปรากฏตัวขึ้น ก็ได้มีตัวสำนึกที่แข็งแกร่งจำนวนมากกวาดเข้ามา
“เอ๊ะ? หลังจากผ่านไปหลายหมื่นปี มีมนุษย์เข้ามาอีกแล้วเช่นนั้นหรือ?” เสียงเหมือนกับฟ้าร้องดังอู้อี้ลอยมา จากนั้นแผ่นดินก็ได้สั่นสะเทือน อสูรขนาดมหึมาตัวหนึ่งได้พุ่งออกมาจากป่าในหุบเขา
นี่คือหมูป่าที่สวมเกาะดำเอาทุกส่วนตัวหนึ่ง เขี้ยวยาว ลมหายใจสีขาวพ่นฟูดฟาดออกมาจากจมูก ร่างกายใหญ่โต สูงสิบกว่าเมตร ราวกับภูเขาเล็ก ๆ ลูกหนึ่ง
ได้รับผลกระทบจากวิชาห้ามค่ายกลของแดนปริศนา อสูรกายของที่นี่สามารถฟื้นคืนชีพได้ ความสามารถล้วนถูกกำหนดเอาไว้ ไม่อาจก้าวหน้าได้ แต่พวกมันกลับมีอายุขัยที่ไม่สิ้นสุด ไม่มีวันที่จะตายลงจริง ๆ
อสูรกายหมู่ป่าเกาะดำที่ปรากฏอยู่ที่ด้านหน้าของหลัวซิวตนนี้ก็เป็นเช่นนั้น แม้ว่าจะเป็นอสูรปฐมภูมิขั้นหก กับดำรงอยู่มาเป็นเวลานับหมื่นปีแล้ว มีชีวิตยืนยาวกว่าผู้แข็งแกร่งระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์ผู้หนึ่งเสียอีก
อสูรขั้นหกนั้นได้มีความคิดอ่านเป็นของตัวเองแล้ว อสูรกายหมู่ป่าเกาะดำก้มลงมองหลัวซิว แล้วตะคอกกล่าว: “เจ้าหนุ่ม เกิดเรื่องอะไรขึ้นที่โลกภายนอก ทำไมหลายหมื่นปีมานี้ถึงมีเจ้ามาที่นี่เพียงคนเดียว?”
หลัวซิวหลุดหัวเราะออกมา “เจ้าอสูรหมูตนนี้ ทำไมข้าต้องบอกเจ้าด้วยล่ะ?”
อสูรหมูป่าถลึงตาดั่งโคมไฟของมัน “เชื่อไม่ว่าท่านปูหมูของเจ้าสามารถเหยียบเจ้าให้ตายได้ภายในเท้าเดียว?”
แม้ว่าอสูรหมูป่าจะข่มขู่ด้วยท่าทางดุร้าย แต่หลัวซิวกลับรู้สึกว่ามันตลก ขาหมูขนาดใหญ่ที่แกว่งไปมานั้น ทำให้คนอดที่จะหัวเราะไม่ได้
หลัวซิวไม่ได้สนใจมัน และกว่าวขึ้นมาโดยตรง “ข้าถามเจ้า ที่ใจกลางของเขตที่ห้าแห่งนี้ มีความลับอะไรอยู่กันแน่?”
มหาจักรพรรดิยุทธ์เสวียนดำได้เคยบอกกับเขา เริ่มจากเขตที่ห้า เมื่อมีคนต้องการที่จะเข้าไปในส่วนลึก ก็จะถูกอสูรกายนับไม่ถ้วนต่อต้านและกีดขวางอย่างสุดชีวิต ดังนั้นหลัวซิวจึงอยากรู้เป็นพิเศษว่า ในนั้นมีความลับอะไรอยู่กันแน่
ทว่าทันทีที่หลัวซิวได้กล่าวถึงเรื่องนี้ อสูรกายหมูป่าเกาะดำที่อยู่ตรงข้ามก็มีท่าทางดุร้ายขึ้นมาทันที “มนุษย์อย่างพวกเจ้าไม่มีคนดีอยู่เลยจริง ๆ”
กล่าวไป มันก็ได้ขยับรูปร่างอันใหญ่โตของมัน และกระโจนเข้าหาหลัวซิวอย่างดุร้าย
ดวงตาข้างหนึ่งของมันใหญ่กว่าหลัวซิวอีกหลายเท่า รูปร่างของทั้งสองไม่อาจเทียบสัดส่วนกันได้เลยสักนิด ราวกับช้างตัวหนึ่ง พุ่งเข้าชนมดตัวเล็ก ๆ
หลัวซิวสงบนิ่งไม่ขยับ ยกมือขึ้นกดลงในอากาศ วิชาสังหารไท่เสวียนถูกขับเคลื่อนออกมา
ภูขาวสูงใหญ่ขาวดำลูกหนึ่งลอยปรากฏขึ้นมาในอากาศ เสียงดังกระหึ่มและทับลงไปบนหลังของอสูรกายหมู่ป่า
ครืนนนน!
แผ่นดินสั่นสะเทือน ฝุ่นลอยกระจัดกระจาย อสูรกายหมูป่าถูกทับจนลงไปนอนคว่ำอยู่บนพื้น หอบหายใจฟูดฟาด แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ลุกขึ้นมาไม่ได้ ภูเขาที่อยู่บนหลังหนักอย่างไร้ที่เปรียบ อาศัยพลังของมัน ไม่สามารถขยับได้เลยแม้แต่นิดเดียว
หลัวซิวลอยตัวขึ้นสู่อากาศ ร่อนลงบนจมูกของอสูรกายหมู่ป่า และยิ้มกล่าว: “ตอนนี้เจ้าจะบอกได้หรือยัง?”