มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 552
“ข้ารู้ว่าพวกเจ้าอยู่ในแดนปริศนานี้มานาน และจะอึดอัดตายอยู่แล้ว แต่ในไม่ช้าพวกเจ้าจะมีโอกาสได้ออกไปดูโลกภายนอกแล้วล่ะ” หลัวซิวพูดเสียงดังขณะยืนอยู่กลางอากาศ
“สามารถออกไปยังโลกภายนอกได้จริงหรือ?” อสูรกายทั้งหมดมองหน้ากันและกัน ข้างในใจอยากจะออกไปมาก
…
ตั้งแต่หลัวซิวออกจากสำนักเขาไท่เสวียน เวลาผ่านไปอย่างเงียบ ๆ ชั่วขณะก็ผ่านไปหนึ่งปีกว่าแล้ว
ตอนนี้ทั่วทั้งประเทศเทียนหวู มีเพียงไท่เสวียนเท่านั้นที่มีผู้แข็งแกร่งระดับแดนมกุฎเฝ้าอยู่
ด้วยการสนับสนุนจากสำนักไท่เสวียน เมื่อก่อนตระกูลสวีซึ่งเคยอยู่ลำดับสุดท้ายของตระกูลสิบอันดับแรกของประเทศเทียนหวู ได้กลายมาเป็นผู้ที่มีอำนาจในดินแดนแห่งนี้ เวลาเพียงปีเดียว พวกเขาก็ได้ขยายอำนาจอย่างรวดเร็วและกลายเป็นตระกูลอันดับหนึ่ง ในประเทศเทียนหวู
อ่อนแอกว่าตระกูลสวีเล็กน้อยก็คือตระกูลเหยียน เพราะจักรพรรดิยุทธ์เทียนเฟิ่ง เหยียนเยว่เอ๋อร์จากตระกูลเหยียนเป็นผู้หญิงของเจ้าสำนักไท่เสวียน!
วันนี้ มีตำหนักที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ในเมืองเทียนหวู มีรูปปั้นหงส์เหินนวสวรรค์สองรูปวางอยู่ที่หน้าประตู ซึ่งเป็นสำนักใหญ่ของตระกูลเหยียนในเมืองเทียนหวู
ในห้องใต้หลังคาที่อยู่ลึกเข้าไปในตำหนัก เจ้าตระกูลเหยียนมองดูคนสามคนที่นั่งอยู่ข้างหน้าเขา สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา
สามคนนี้มีเครื่องหมายเปลวเพลิงพิเศษอยู่บนคิ้วของพวกเขา คนหนึ่งเป็นหญิงชุดขาว คนหนึ่งเป็นชายชราในชุดสีเขียว และอีกคนเป็นชายวัยกลางคนในชุดแดง
“ตั้งแต่สมัยโบราณ ตระกูลเหยียนเป็นหนึ่งในตระกูลแยกของเผ่าหงส์เรา ในเมื่อตระกูลเหยียนของพวกเจ้ามีผู้ปสามารถปลุกสายเลือดของเผ่าหงส์ คนที่เก่งกาจเช่นนี้ จะต้องกลับไปสู่สำนักใหญ่เผ่าหงส์ของเราโดยธรรมชาติ”
คนแรกที่พูดคือชายชราชุดเขียว
ชายชราในชุดสีเขียวผู้นี้ชื่อเฟิ่งหลิง เป็นผู้คุมกฎของสำนักใหญ่เผ่าหงส์ ความแข็งแกร่งของเขาโดดเด่นในบรรดาผู้แข็งแกร่งมกุฎยุทธ์จำนวนมากในสำนักใหญ่ของเผ่าหงส์
ครั้งนี้ได้รู้มาว่า ในประเทศเทียนหวูอาณาจักรใต้ มีผู้มีความสามารถคนหนึ่งได้ปลุกสายเลือดเผ่าหงส์ เขาเลยรับคำสั่งมาที่นี่
เผ่าหงส์ที่แยกออกมามีหลายตระกูล ผู้คนในสำนักใหญ่แค่มีสายเลือดที่ค่อนข้างเข็มและสูงส่งเล็กน้อยเท่านั้น และผู้ที่สามารถปลุกเลือดหงส์โบราณได้นั้นก็มีเพียงไม่กี่คน
แตกต่างจากมารที่มีสายเลือดเผ่าพันธุ์มารบริสุทธิ์ ผู้คนของเผ่าหงส์ ครึ่งมนุษย์ครึ่งมาร ทันทีที่สามารถปลุกเลือดหงส์โบราณ ก็จะสามารถมีข้อดีของทั้งเผ่าพันธุ์มนุษย์และเผ่าพันธุ์มารในเวลาเดียวกัน หลังจากที่ได้วิวัฒนาการสายเลือดไม่รู้จมาหลายปี จะทรงพลังยิ่งกว่ามารหงส์สายเลือดบริสุทธิ์
เพียงว่าในเผ่าหงส์ ผู้ที่สามารถปลุกเลือดหงส์โบราณได้อย่างแท้จริงนั้น น้อยเกินไป
และในประเทศเทียนหวูอาณาจักรใต้ มีคนๆหนึ่งที่ปลุกสายเลือดหงส์สำเร็จ สำนักใหญ่ของเผ่าหงส์ จะต้องดึงเข้าไปอยู่แล้ว
และผู้ที่ปลุกสายเลือดหงส์สำเร็จ ก็คือเหยียนเยว่เอ๋อร์
“ด้วยเหตุผลบางอย่าง นับได้ว่านางได้ออกจากตระกูลเหยียนของเราไปแล้ว ตอนนี้นางอยู่ที่สำนักไท่เสวียน ” เจ้าตระกูลเหยียนพูดช้าๆ หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง
“สำนักไท่เสวียน?” ชายชราในชุดเขียวอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว “ในสมัยโบราณ สำนักไท่เสวียนได้ถูกทำลายไปแล้วไม่ใช่หรือ?”
“ไม่ใช่ไท่เสวียนโบราณ แต่เป็นมีคนได้รับการสืบทอดของไท่เสวียนโบราณ และได้สร้างสำนักเขาไท่เสวียนขึ้นใหม่” เจ้าตระกูลเหยียนอธิบาย
“แล้วความแข็งแกร่งของสำนักไท่เสวียนเป็นอย่างไร?” ชายชราชุดเขียวถามต่อ พวกเขาทั้งสามคนรีบมา ไม่ได้สืบข่าวของที่นี่
สำนักใหญ่ของเผ่าหงส์ รวมถึงตระกูลจำนวนมากที่แยกออกไป ถือได้ว่าเป็นกองกำลังระดับแดนศักดิ์สิทธิ์ในโลกแสงดาว
“ในสำนักไท่เสวียน มีมกุฎยุทธ์ท่านหนึ่ง หนึ่งปีที่แล้วเพิ่งจัดพิธีก่อตั้งสร้างสำนัก เจ้าสำนักชื่อหลัวซิว พรสวรรค์ด้านยุทธ์ ของเขานั้นยอดเยี่ยมมาก ในเวลาเพียงไม่กี่ปี เขาก็ถึงแดนจักรพรรดิยุทธ์ และเคยสังหารมกุฎยุทธ์มาก่อน!” เจ้าตระกูลเหยียนได้พูดในสิ่งที่เขารู้เกี่ยวกับสำนักไท่เสวียนออกมา
สำหรับความแข็งแกร่งของสำนักไท่เสวียน ชายชราชุดเขียวเย้ยหยันไม่วางไว้ในสายตา แค่กองกำลังที่มีเพียงมกุฎยุทธ์คนหนึ่งที่เฝ้าอยู่ สำหรับเผ่าหงส์ เป็นแค่คนอ่อนแอฐานะต่ำเท่านั้น