มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 660
อย่างไรก็ตาม ทุกคนก็มองออกว่าหลัวซิวต่อสู้กับศัตรูด้วยมือเดียว มืออีกข้างจับเจียงหวูจี้ไว้
“ปล่อยศิษย์น้องของข้าไป เรื่องนี้ก็จบลง” กุ่ยโยตะคอก ขมวดคิ้ว
“เจ้าบอกให้ปล่อยก็ปล่อยหรือ? เจียงหวูจี้คนแอบลักลอบโจมตีข้าก็ช่างแล้วหรือ?” หลัวซิวเยาะเย้ย
“เจ้าได้สั่งสอนบทเรียนให้กับเขาแล้ว อย่ามากเกินไปนะ” ดวงตาของกุ่ยโยวเย็นเฉียบ
หลัวซิวไม่แยแส “อยากให้ข้าปล่อยเขาไม่ใช่ว่าไม่ได้ แต่อย่างน้อยเจ้าต้องแสดงความจริงใจบ้าง?”
หลัวซิวก็รู้ว่าร่างยุทธ์แดนศักดิ์สิทธิ์ขั้นปฐมภูมินั้นไม่ใช่พลังทั้งหมดของกุ่ยโยว อีกฝ่ายเพียงแค่ไม่ต้องการเปิดเผยความแข็งแกร่งของตนต่อหน้าหวูหยุนและคนอื่น ๆ ดังนั้นเขาจึงสงวนไว้
อย่างน้อยรัศมีอันตรายในร่างกายของเจียงหวูจี้ ทำให้เขารู้สึกว่าถูกคุกคาม ไพ่ตายของกุ่ยโยวจะต้องแข็งแกร่งกว่า
“กล้าต่อรองกับข้า กุ่ยโยว ข้าต้องชื่นชมความกล้าหาญของเจ้า” กุ่ยโยวหัวเราะอย่างโกรธจัด “เจ้าต้องการความจริงใจแบบไหน?”
“ยากลายร่างมังกรหนึ่งเม็ด” หลัวซิวพูดด้วยความโลภ
เดิมทีคิดว่าถ้าเขาขอยากลายร่างมังกรหนึ่งเม็ด กุ่ยโยวจะต้องต่อว่าเขาโลภอย่างโมโห แต่สิ่งที่หลัวซิวคาดไม่ถึงก็คือกุ่ยโยวเพียงแค่โยนขวดหยกมาให้อย่างง่ายดาย
สิ่งนี้ทำให้หลัวซิวตะลึงเล็กน้อย อัจฉริยะจากแดนศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ ร่ำรวยและใจป้ำเช่นนี้เลยหรือ?
เอื้อมมือไปรับขวดหยก ตัวสำนึกของหลัวซิวตรวจสอบ ยืนยันว่ายากลายร่างมังกรอย่างไม่ต้องสงสัย แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่อีกฝ่ายหนึ่งจะทำเล่ห์เหลี่ยมภายใต้สายตาของปรมาจารย์กลั่นยาของเขา ไม่ต้องพูดถึงตำแหน่งของกุ่ยโยว ไม่ถึงกับทำแบบนี้
ในเมื่อได้ยากลายร่างมังกรหนึ่งเม็ดมาแล้ว หลัวซิวก็โยนเจียงหวูจี้ในมือออกไปทันที
“ไอ้สารเลว ข้าจะฆ่าแก!” ดวงตาของเจียงหวูจี้แดงก่ำ เจตนาฆ่าน่ากลัว แสงสีเลือดสองสว่างจากจุดตันเถียน จะใช้ไพ่ตายของเขาเพื่อฆ่าหลัวซิว
“หุบปาก!” ทำให้ทุกคนประหลาดใจก็คือ กุ่ยโยวเงื้อมมือตบหน้าเจียงหวูจี้ ร้อมตะคอก “เจ้ายังขายหน้าไม่พออีกหรือ?”
เจียงหวูจี้ถูกตบหน้าจนงุงงงไปเล็กน้อย “ศิษย์พี่ ทำไมเจ้าถึงตบข้า?”
กุ่ยโยวเยาะเย้ย “เจ้าคิดว่าเจ้าใช้ไพ่ตายก็สามารถจัดการเขาได้หรือ? เขาไม่มีไพ่ตายหรือไง? นี่ไม่ใช่ภายนอก แต่เป็นประตูแห่งความโกลาหลที่เชื่อมต่อแดนศักดิ์สิทธิ์ ถ้าเจ้าตายอยู่ที่นี่ อย่าโทษข้าที่ไม่ได้เตือนเจ้า!”
หลังจากพูดจบ กุ่ยโยวก็หันหลังและจากไป
สีหน้าของเจียงหวูจี้เปลี่ยนไปมา มองหลัวซิวด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความแค้นชั่วร้าย จากนั้นเดินตามกุ่ยโยวไปทันที
ในประตูแห่งความโกลาหลที่นำไปสู่แดนศักดิ์สิทธิ์ หลัวซิวและกุ่ยโยวต่อสู้กันในเวลาสั้น ๆ ทำให้ผู้สืบทอดที่ผยองเหล่านี้จากแดนศักดิ์สิทธิ์ ต้องประเมินความแข็งแกร่งของหลัวซิวอีกครั้ง
“เป็นไปได้ไหมว่าเขาซ่อนความแข็งแกร่งของเขาไว้ในระหว่างการแข่งขัน?” ร่างของซิงหลิงถูกปกคลุมไปด้วยแสงของดวงดาวหลากสีสัน ความปั่นป่วนในอวกาศนับไม่ถ้วนพุ่งเข้าหาเขา แต่ถูกแสงดาวขวางอยู่ด้านนอกไม่สามารถทำร้ายเขาได้แม้แต่น้อย
หลายคนรอบตัวเขาพยักหน้า และไม่มีใครคิดว่าผลการฝึกตนของหลัวซิวจะเพิ่มขึ้นมากภายในเวลาเพียงสองเดือน
“น่าสนใจขึ้นเรื่อยๆแล้ว” หวูหยุนยิ้มเบา ๆ ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
ต้าวหวูซินจ้องไปที่ร่างของหลัวซิว หลังจากผ่านไปสองเดือน นางพบว่าความรู้สึกอันตรายที่หลัวซิวให้มานั้น รุนแรงขึ้น
ทุกคนเดินไปที่ส่วนลึกของประตูแห่งความโกลาหลต่อไป กระแสโซนที่ปั่นป่วนวุ่นวายไม่สามารถขัดขวางเหล่าอัจฉริยะทั้ง 20 คนได้