Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 1057 ข้าชอบปีกไก่ย่าง

ตอนที่ 1057 ข้าชอบปีกไก่ย่าง

ตอนที่ 1057 ข้าชอบปีกไก่ย่าง
พลังของเข็มร้อยสวรรค์ทำอะไรเขาไม่ได้หรือ

นี่เป็นไปได้อย่างไร

เข็มร้อยสวรรค์ สมบัติโบราณพิทักษ์เผ่าของเผ่าหงส์เขียว เกือบจะไร้การสืบทอดต่อกันมา สมบัตินี้ผสานรวมพลังสังหารจิตวิญญาณ มหัศจรรย์เกินคาดเดา เหี้ยมโหดอัศจรรย์

ผู้ที่ถูกโจมตี แม้มีสมบัติจิตวิญญาณก็ต้องได้รับบาดเจ็บสาหัส!

นี่ก็คือที่พึ่งและความมั่นใจที่ทำให้ชิงเหวินเจวี้ยนกล้าเข้าใกล้หลินสวินโดยไม่เกรงกลัวสิ่งใดเช่นนี้

เพียงแต่…

ขณะนี้ยามสบตาหลินสวิน ชิงเหวินเจวี้ยนกลับรู้ว่าคราวนี้เกิดเรื่องไม่คาดฝันแล้ว!

เขาไม่ลังเลแม้แต่น้อย เงาร่างกระโจนถอย ความสามารถในการเปลี่ยนแปลงเรียกได้ว่าน่าตกตะลึง

แต่หลินสวินที่พร้อมจู่โจมนานแล้วมีหรือจะปล่อยให้เหยื่อตรงหน้าหนีไป ขณะที่ชิงเหวินเจวี้ยนเพิ่งกระโจนถอย เขาก็ชิงลงมือก่อนแล้ว

ตูม!

แรงหมัดที่รวมพลังทั้งหมดของหลินสวินซัดลงมาจากเบื้องบน พลันปะทุระเบิดแสงบริสุทธิ์ไร้ขีดจำกัด ไม่เพียงแค่เร็ว พลังยังน่าหวาดกลัวหาใดเปรียบ

เสียงปังดังสนั่น ทั้งตัวชิงเหวินเจวี้ยนถูกอัดกับพื้นอย่างหนักหน่วง กระดูกไหล่แตกละเอียด เลือดเนื้อสาดกระจาย พื้นดินต่างถูกกระเทือนจนสั่นระรัวพักหนึ่ง

สีหน้าผู้ชมการประลองตื่นตะลึงและประหลาดใจ

ก่อนหน้านี้ต่างคิดว่าหลินสวินจะได้รับบาดเจ็บ มีโอกาสสูงที่จะถูกกำราบ แต่เพียงชั่วพริบตาเขากลับเปิดฉากเอาคืน!

เห็นชิงเหวินเจวี้ยนถูกหมัดเดียวซัดติดพื้น ผู้คนไม่น้อยต่างรู้สึกเจ็บแทนทันที การโจมตีนี้ร้ายกาจเกินไปแล้ว

ทว่าไม่อาจไม่พูดถึง พลังตอบสนองของชิงเหวินเจวี้ยนไม่ธรรมดายิ่ง หลังถูกซัดติดพื้นเขาแทบไม่สนอาการบาดเจ็บ กระโจนถอยทันที

ขณะเดียวกันปากเขาพ่นเปลวอัคคีแดงชาดออกมาต้านการสังหารของหลินสวิน

ตูม!

เพียงแต่หลังหลินสวินช่วงชิงโอกาส มีหรือจะล่าช้าอีก เงาร่างเขาพุ่งไปข้างหน้าราวมีอานุภาพไม่อาจทัดเทียม พลังหมัดไหลรุนแรง จู่โจมสังหารดุดันและเผด็จการ

พรูด!

ไม่ทันไรชิงเหวินเจวี้ยนถูกซัดอีกครั้ง ริมฝีปากพลันกระอักเลือดออกมา

เขาทั้งตระหนกระคนขุ่นเคือง หวีดร้องตะโกนลั่น โคจรวิชาแยกฟ้าและเข็มร้อยสวรรค์เต็มกำลัง

น่าเสียดาย ทันทีที่เสียโอกาส แต่ละก้าวก็ตกเป็นฝ่ายถูกกระทำ บุคคลระดับหลินสวินย่อมไม่มีทางพลาดโอกาสกำราบคู่แข่งเช่นนี้แน่

ชั่วขณะก็เห็นบนสนามประลองโชควาสนานั่น ชิงเหวินเจวี้ยนกระโจนถอยหลีกหลบไม่หยุด หนีหัวซุกหัวซุนไปมา เห็นได้ว่าน่าอเนจอนาถหาใดเปรียบ

ตรงกันข้ามหลินสวินกลับไล่ต้อนให้จนมุมทีละก้าว ตั้งท่าไล่กวดไม่ยั้ง โจมตีจนชิงเหวินเจวี้ยนได้รับบาดเจ็บไม่หยุด

มวลชนนอกสนามต่างสั่นสะท้าน ตกตะลึงอ้าปากค้าง

ทุกอย่างพลิกผันเร็วมาก!

ก่อนหน้านี้ทั้งคู่ยังห้ำหั่นสูสีไม่แบ่งสูงต่ำ

แต่ตอนนี้ชิงเหวินเจวี้ยนที่เดิมเพิ่งได้เปรียบกลับถูกเทพมารหลินไล่ขยี้ ท่าทางอเนจอนาถนั้นทำให้ผู้แข็งแกร่งไม่น้อยยากจะเชื่ออยู่บ้าง

“ก้าวผิดเพียงครา ทุกก้าวย่างล้วนพลาดพลั้ง!”

เยี่ยเฉินแววตาเป็นประกายดุจดารา มุมปากเผยยิ้มบางๆ วูบหนึ่ง แน่นอนว่าเขามองความเร้นลับนั้นออก

“ก็ไม่รู้ว่าเขาสลายพลังเข็มร้อยสวรรค์ได้อย่างไร…”

คนอีกมากกำลังใคร่รู้ว่าหลินสวินพลิกสถานการณ์อย่างไร

สาเหตุนั้นง่ายดาย ด้วยพลังของเขตหวงห้ามไร้มรณะ แม้เสี่ยวอิ๋นไม่อาจปรากฏตัวช่วยหลินสวินต่อสู้ แต่ในห้วงนิมิตกลับไม่ได้รับผลกระทบแม้แต่น้อย

แม้พลังของเข็มร้อยสวรรค์ทรงอานุภาพหาใดเปรียบ แต่ยามเจอเสี่ยวอิ๋นเผ่าหนอนกินเทพก็แตกต่างราวฟ้ากับเหวโดยสิ้นเชิง ไม่ต้องลงแรงเยอะก็กำจัดพลังนี้ได้สิ้นซาก

แน่นอนว่าหลินสวินไม่มีทางประสบผลกระทบอะไร

น่าเสียดาย ชิงเหวินเจวี้ยนไม่รู้ถึงจุดนี้ และเพราะความประมาทนี่ หรือพูดได้ว่าเขามั่นใจในเข็มร้อยสวรรค์เกินไป จึงถูกหลินสวินชิงโอกาสไปในคราเดียว!

เวลานี้บนดวงหน้าสง่างามดึงดูดของชิงเหวินเจวี้ยนเต็มไปด้วยสีคล้ำเขียว แค้นจนคลุ้มคลั่ง อัดอั้นจนแทบบ้า

ความผิดพลาดเล็กน้อยครั้งเดียวกลับทำให้สถานการณ์พลิกผัน นี่ทำให้เขาแทบอยากตบปากตัวเอง ตอนนั้นทำไมไม่ระวังขนาดนี้

ปึง!

หลินสวินบุกโจมตีเข้ามา พลังหมัดเคลื่อนกวาดเกือบซัดถูกหน้าผากเขา

“เทพมารหลิน คิดจริงหรือว่าแค่นี้จะชนะข้าได้ ไร้เดียงสา!”

ชิงเหวินเจวี้ยนระงับใจไม่อยู่อีกต่อไป แผดเสียงคำราม ชั่วพริบตาทั่วร่างเขามีเพลิงลุกโชน กลิ่นอายชวนประหวั่น กายหยาบราวภูเขาไฟแผ่เพลิงศักดิ์สิทธิ์เจิดจรัส

เขาพุ่งออกมา นิ้วดั่งปีก ขยับเคลื่อนเพลิงศักดิ์สิทธิ์ทั่วฟ้า หมายจู่โจมเวิ้งนภาจนละเอียด

ปึง!

การโจมตีที่หมายเผด็จศึกของหลินสวินถูกต้านไว้ได้ นี่ทำให้นัยน์ตาดำเขาหดเกร็ง รู้ว่าเจ้าหมอนี่จะสู้สุดชีวิตแล้ว

ครืน!

ขณะเดียวกันทั้งตัวชิงเหวินเจวี้ยนพลันแปรเปลี่ยน กลายเป็นหงส์เขียวปีกมรกต สง่างามไร้ใดเปรียบตัวหนึ่ง กรงเล็บคมกริบดั่งทอง ทั่วร่างแผ่เพลิงศักดิ์สิทธิ์หมื่นจั้ง

เขาเหมือนดั่งปักษาเทพที่แท้จริง กระพือปีกกลางอากาศ สูงส่งเหนือคนอื่น ผงาดง้ำและน่าพรั่นพรึง

“เดิมทีจัดการเจ้าข้าไม่จำเป็นต้องใช้ไพ่ตายด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้จะให้เจ้าได้สัมผัสยอดวิชาที่แท้จริงของเผ่าหงส์เขียวของข้าบ้าง!”

ชิงเหวินเจวี้ยนเปล่งเสียงกระจ่าง ปีกทั้งสองสยายออกดั่งพัดคู่ เพลิงศักดิ์สิทธิ์หมุนโคจร แดงชาดดุจเพลิงผลาญ เปล่งประกายบาดตา

ฟุ่บ!

เขาพุ่งดิ่งลงมา ปีกบดขยี้ห้วงอากาศ รวดเร็วดุดันถึงขั้นน่าตกตะลึง

หลินสวินหลีกหลบ ตำแหน่งที่อยู่เดิมพลันเกิดการระเบิดชวนประหวั่น ปั่นป่วนอลหม่านหาใดเปรียบ ราวอุกกาบาตร่วงหล่นลงตรงนั้น พลังทำลายล้างน่าอัศจรรย์!

ยอดมกุฎรุ่นเยาว์ส่วนหนึ่งล้วนมองดูจนตากระตุก ชิงเหวินเจวี้ยนในตอนนี้เห็นชัดว่าทรงพลังขึ้นไม่น้อย สำแดงวิชาลับบางประการ พลานุภาพเกินคาดเดา

“นี่คือการโจมตีแปดยอดหงส์เขียว วิชาบรรพชนขั้นสูงของเผ่าหงส์เขียว!” เหล่าผู้อาวุโสตกตะลึง ไม่กล้าเชื่ออยู่บ้าง

ความสามารถของชิงเหวินเจวี้ยนทำให้ทุกคนต่างรู้สึกราวได้พบเห็นเรื่องใหม่อีกครั้ง

“หลบ? ฮ่าๆ เทพมารหลินอย่างเจ้าก็หลบเป็นรึ เมื่อครู่เจ้าไม่ได้ไล่สังหารข้าจนสาแก่ใจหรืออย่างไร”

ชิงเหวินเจวี้ยนหัวเราะคลั่ง

การโจมตีของเขารวดเร็วรุนแรงยิ่งกว่าเดิม การจู่โจมแต่ละครั้งล้วนมีพลังทำลายล้างยิ่งใหญ่ เพลิงศักดิ์สิทธิ์ดั่งสายฝน เผาทลายห้วงอากาศ ปกคลุมทั่วสนามประลอง

หลินสวินเห็นดังนี้ก็รู้ว่าคิดเก็บงำไว้อีกคงเป็นไปไม่ได้ บุคคลแห่งยุคอย่างชิงเหวินเจวี้ยนไม่ใช่พวกที่ถูกกำราบง่ายดายเช่นนั้นแน่

ตูม!

หาได้ลังเลไม่ พลังทั่วร่างหลินสวินพลันพุ่งทะยาน นัยเร้นลับแห่งโทสะหยาจื้อถูกเขาโคจรออกมาโดยไม่เก็บซ่อนแม้แต่น้อย

หืม?

ผู้แข็งแกร่งไม่น้อยหน้าเปลี่ยนสี หรือเทพมารหลินก็เก็บงำอะไรไว้

อีกทั้งจนถึงตอนนี้ เขายังไม่เคยใช้ดาบหักอัศจรรย์นั่น!

นี่เป็นเพราะอะไร

เพราะไม่คู่ควรหรือมีแผนการอื่น

ช่วงที่ทุกคนแปลกใจ เงาร่างหลินสวินพุ่งทะยานขึ้นนานแล้ว ใช้ก้าวย่างชือน้ำแข็งเคลื่อนไหวกลางอากาศ ชั่วพริบตาก็เข้าปะทะชิงเหวินเจวี้ยน

ตูม!

ท่ามกลางการปะทะสะท้านฟ้าสะเทือนดิน ในลานก้องเสียงหวีดร้องตระหนกขุ่นเคืองหาใดเปรียบของชิงเหวินเจวี้ยน “ทำไมพลังต่อสู้ของเจ้าถึงเปลี่ยนเป็นแข็งแกร่งเช่นนี้”

เวลานี้ในที่สุดทุกคนก็เห็นชัด ในเสียงกัมปนาทประกายศักดิ์สิทธิ์ หงส์เขียวที่ชิงเหวินเจวี้ยนจำแลงถูกซัดจนบินโงนเงน ปีกเอียงกระพือกลางอากาศไม่หยุด

ทุกคนตรงนั้นเงียบกริบไร้สุ้มเสียง

ไม่ว่าผู้ชมการประลองตรงเชิงเขาหรือเหล่ายอดมกุฎรุ่นเยาว์บนยอดเขาล้วนท่าทางเหมือนเห็นสัตว์ประหลาด ต่างเพิ่งค้นพบว่าการต่อสู้ก่อนหน้านี้หลินสวินเก็บงำมาตลอด!

พลังที่เขาสำแดงออกมายามนี้ทรงอานุภาพมากกว่าเมื่อครู่มากกว่าเท่าตัว!

ไม่แปลกที่ชิงเหวินเจวี้ยนจะตระหนกขุ่นเคืองเช่นนี้ ไม่ว่าใครเจอฉากนี้คงต่างตกใจสะดุ้งโหยง

“เจ้าคิดว่าเจ้ามีไพ่ตายแล้วข้าไม่มีรึ ข้าบอกแล้วว่าวันนี้หากไม่ทำให้ข้าพอใจ เจ้าอย่าหวังจะได้ออกจากสนามประลองนี่!”

หลินสวินพุ่งมาเบื้องหน้า ผมดำแผ่สยาย

เขาในตอนนี้เปี่ยมความองอาจของเทพมารที่เหยียดมองทั่วแห่งหน พลานุภาพเฟื่องฟู ทั่วร่างล้วนถูกแสงมรรคประกายเขียวปกคลุม

เดิมทีหากเขาใช้ดาบหักก็เพียงพอสังหารฝ่ายตรงข้าม แต่หลินสวินไม่คิดจะให้เจ้าเดรัจฉานวิปริตอำมหิตนี่สบายเช่นนั้น

ตูม!

บนสนามประลองการต่อสู้ดุเดือดยิ่งกว่าเดิม ทว่าสถานการณ์เกิดพลิกผันอีกครา

หลินสวินครองสถานะผู้กระทำอีกครั้ง ไล่ต้อนชิงเหวินเจวี้ยน เหวี่ยงหมัดซัดกระหน่ำ อัดจนฝ่ายหลังขนปีกกระจาย หวีดร้องเดือดดาล

“ช่างทำให้… ผู้คนเกินคาดหมาย” เซี่ยวชางเทียนอดตะลึงงันไม่ได้ หมดคำจะพูดกับพลังที่หลินสวินแสดงออกมาอยู่บ้าง ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดี

สีหน้าคนอื่นล้วนไม่ต่างกัน รู้สึกสับสนยิ่ง เทพมารหลินนี่มักเหนือความคาดหมาย ครั้งนี้ก็ไม่ยกเว้น

ชิงเหวินเจวี้ยนนั่นวิปริตพออยู่แล้ว แต่ใครจะคิดว่าหลินสวินยังทรงอานุภาพ กำราบแข็งกร้าว ทรงพลังจนปั่นป่วนไปหมด

‘ช่างเป็นตัวไร้ประโยชน์จริงๆ!’

พวกจินมู่อวิ๋น หลี่ชิงผิง โก่วเหยียนเจินเห็นดังนี้ ในใจกลับไม่ยินดีนัก หลินสวินยิ่งแข็งแกร่งก็ยิ่งทำให้พวกเขาระวังตัวกว่าเดิม

เดิมทียังคิดว่าหากสามารถยืมมือชิงเหวินเจวี้ยนซัดอีกฝ่ายจนถูกคัดออกก็ไม่เลว แต่ใครเล่าจะคิดว่าชิงเหวินเจวี้ยนกลับไม่ไหวแล้ว

“รู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นเช่นนี้” จ้าวจิ่งเซวียนไหวไหล่ นัยน์ตากระจ่างไหวเคลื่อน ท่าทางเหมือนเห็นเรื่องแปลกจนชาชิน

บางทีในที่นั้นคงมีแค่นางที่เข้าใจรูปแบบการต่อสู้ของหลินสวินที่สุด

หากไม่จำเป็นต้องใช้ไพ่ตายก็จะไม่มีทางใช้แน่ แสร้งทำทีถ่อมตนเหมือนหมาป่าห่มหนังแกะได้ถึงแก่น

หาได้เจตนาทำเช่นนี้ไม่ เดิมนี่ก็เป็นกลยุทธ์การศึกที่เลิศล้ำประการหนึ่ง หากถูกคนมองสถานการณ์ออกในปราดเดียว เช่นนั้นคงไม่เข้าทีแล้ว

ตูม!

กลางสนามประลอง ภายใต้การจู่โจมเผด็จการนั่นของหลินสวิน หงส์เขียวที่ชิงเหวินเจวี้ยนจำแลงถูกซัดติดพื้นอย่างหนักหน่วง ปีกอาบโลหิต ริมฝีปากพ่นไอเลือด ร่างกายล้วนกำลังสั่นสะท้าน

เขาดิ้นรนหมายหยัดยืน ก็ถูกหลินสวินที่ดิ่งมาจากฟ้ายันเท้าลงแผ่นหลัง เหยียบติดพื้นไม่อาจขยับเขยื้อน

“ชิงเหวินเจวี้ยนจบเห่แล้ว…” คนมากมายถอนใจ

ถามใจดูแล้วชิงเหวินเจวี้ยนไม่ใช่ว่าไม่แข็งแกร่ง ถึงขั้นน่าทึ่งกว่าเหล่ายอดมกุฎรุ่นเยาว์ที่เพิ่งชนะไปก่อนหน้าอยู่บ้าง

แต่เขากลับเจอเทพมารหลินที่กระทำการไร้กฎเกณฑ์ จึงต้องพบเจอความพ่ายแพ้ย่อยยับ

นี่ทำให้ผู้ชมการประลองตรงเชิงเขานอกจากสั่นสะท้านแล้วยังเลี่ยงไม่ได้ที่จะเสียดาย รอบแรกก็ถูกกำราบ อันดับของชิงเหวินเจวี้ยนบนกระดานยอดมกุฎรุ่นเยาว์ต้องตกต่ำแน่

แต่เหล่าผู้แข็งแกร่งเผ่าหงส์เขียวแต่ละคนกลับสีหน้าไม่น่าดู ดวงตาทั้งสองดุจเปลวเพลิงร้อนระอุ เดิมพวกเขาวาดหวังให้ชิงเหวินเจวี้ยนสามารถดันตนขึ้นสู่สิบอันดับแรกของกระดานยอดมกุฎรุ่นเยาว์!

แต่ตอนนี้…

ตอนนี้แม้ชิงเหวินเจวี้ยนคิดเงยหน้ายังเป็นไปไม่ได้ ถูกวิธีการหยามหมิ่นกำราบลงใต้เท้าหลินสวินจนไม่อาจขยับ

“เจ้าชอบสร้างงานจิตรกรรมมาก ข้าก็ชอบปีกไก่ย่างมาก”

หลินสวินเอ่ยประโยคหนึ่งที่ทำให้ทุกคนต่างรู้สึกประหลาด นี่มันเวลาไหนแล้วยังกล่าววาจาไร้สาระเช่นนี้อีกหรือ

แต่ไม่ช้าพวกเขาก็เข้าใจ ก็เห็นหลินสวินเหยียบร่างหงส์เขียวที่ชิงเหวินเจวี้ยนจำแลง ใช้สองมือถอนขนอีกฝ่ายทั้งตัวอย่างรวดเร็วง่ายดาย

ในกระบวนการนี้ชิงเหวินเจวี้ยนโกรธจนแทบกระอักเลือด ก่นด่าสาปแช่งไม่หยุด แต่แน่นอนว่าเปล่าประโยชน์

เพียงไม่กี่อึดใจขนนกของเขาก็ถูกถอนเกลี้ยง ทั้งตัวเกลี้ยงเกลาสะอาดสะอ้าน เผยเนื้อปีกคู่หนึ่งที่ขาวกระจ่างดุจหิมะ ยาวประมาณสิบกว่าจั้ง

“วัตถุดิบแสนวิเศษ” นัยน์ตาดำของหลินสวินส่องประกายเอ่ยชื่นชม

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท