มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 754
“ภูตอัคคีเสือพิฆาตจิ่วหยินตนนี้ไม่รู้ถูกผนึกกักขังมาเป็นเวลานานเพียงใด ไม่นึกเลยว่าจะมีพลังที่ทัดเทียมได้กับเจ้ายุทธจักร”
หลัวซิวกัดฟันขับเคลื่อนวรยุทธ์ มือก็ได้สร้างตราภูตอัคคีร้อยแปรขึ้นมา จากการกระแทกในแต่ละครั้งของเสือพิฆาตจิ่วหยิน เขารู้สึกเหมือนว่าร่างกายของตนเองแทบจะถูกฉีกขาดอยู่แล้ว ใบหน้าเริ่มซีดขาวลง
“ข้าได้บอกตั้งแต่แรกแล้วว่าเจ้าทำไม่ได้ วางมือเสียเถอะ มนุษย์เจ้าลูกมด” งูดำยักษ์กล่าวอย่างเย็นชา
หลัวซิวไม่ได้กล่าวใด ๆ ดวงตาคู่นั้นได้เปลี่ยนเป็นสีดำดั่งหมึกทันที ราวกับดวงดาวสีดำสนิทสองดวง
เปลวเพลิงสีดำได้ลุกโชนขึ้นมาบนร่างของเขาอีกครั้ง แผงเอาไว้ด้วยกระแสพลังแห่งกฎความตาย
“หือ? กฎความตายรึ?”
ดวงตาสีแดงคู่นั้นของงูดำยักษ์เป็นประกายขึ้นมายิ่งกว่าเดิม “มนุษย์เจ้าลูกมดที่อ่อนแอผู้นี้สามารถตระหนักรู้ถึงกฎได้ นับว่าเป็นยอดอัจฉริยะในโลกแสงดาวแล้ว แต่ในพิภพกลางนับว่าพอใช้ได้เท่านั้น”
“เอ๊ะ? ไม่ใช่สิ เหมือนว่าเขาจะไม่ได้แค่ตระหนักรู้กฎ ซ้ำยังได้บรรลุถึงแดนเข้าใจกฎเบื้องต้นอีกด้วย!”
งูดำยักษ์ได้หวั่นไหวเป็นครั้งแรก แดนมกุฎยุทธ์สามารถฝึกฝนกฎระดับสุดยอดถึงแดนเข้าใจกฎเบื้องต้นได้ ในพิภพกลาง แม้จะไม่เข้าขั้นระดับสุดยอด แต่ก็นับว่าอยู่ในระดับที่สูงแล้ว
“มิน่าเล่าเจ้านายถึงได้ให้ความสำคัญ คิดไม่ถึงว่าโลกเล็ก ๆ ในพิภพต่ำ จะมีอัจฉริยะเช่นนี้อยู่ด้วย”
สัมผัสได้ถึงความเคลื่อนไหวของกระแสพลังแห่งกฎบนร่างกายของหลัวซิว งูดำยักษ์คิดว่าตนเองนั้นคงตาถั่วเกินไปเสียแล้ว ไม่แน่ว่ามนุษย์เจ้าลูกมดผู้นี้อาจจะสามารถสยบเสือพิฆาตจิ่วหยินจริง ๆ ก็เป็นได้
“พลังแปรเสวียนเทียน!”
หลัวซิวตวาดเสียงต่ำ พลังแห่งกฎบนร่างกายแข็งแกร่งขึ้นมายี่สิบสี่เท่าในทันที!
“เคล็ดวิชาเพิ่มพลังแห่งกฎ?” งูดำยักษ์กล่าวขึ้นมาด้วยความตะลึงงัน
เคล็ดวิชาเพิ่มพลังนั้นไม่ได้เป็นสิ่งที่หาได้อยาก แต่ส่วนมากจะเป็นการเพิ่มผลการฝึกตน เพิ่มความแข็งแกร่ง
แต่เคล็ดวิชาที่สามารถเพิ่มพลังแห่งกฎได้หลายเท่านั้น กลับหาได้ยากเป็นอย่างยิ่ง ต่อให้เป็นในพิภพกลาง ก็เป็นการสืบทอดในใจกลางของแดนศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ
หลัวซิวเองก็ได้สังเกตเห็นความตะลึงงันของงูดำยักษ์เช่นเดียวกัน สิ่งที่สามารถทำให้การดำรงอยู่อันน่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ตกตะลึงได้ เห็นได้ว่าพลังแปรเสวียนเทียนไม่ได้ง่ายอย่างที่เขาคิด
เมื่อตอนแรกเริ่ม เขาเองก็คิดว่าพลังแปรเสวียนเทียนเป็นเคล็ดวิชาระดับสุดยอด ทำให้เขาสามารถต่อสู้ข้ามขั้นกับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง อย่างราบรื่นมาโดยตลอด
จนต่อมาเขาได้ตระหนักรู้ถึงกฎ พบว่าพลังแปรเสวียนเทียนสามารถเพิ่มพลังแห่งกฎได้ สิ่งนี้ทำให้เขาสัมผัสได้ถึงความน่าสะพรึงกลัวของเคล็ดวิชาอย่างหนึ่ง
พลังแห่งกฎเพิ่มขึ้นยี่สิบสี่เท่า สามารถทำให้แดนของกฎเพิ่มขึ้นมาในหนึ่งระดับเล็ก ซึ่งนั่นก็หมายความว่า เขาสามารถแสดงพลังที่ทัดเทียมได้กับแดนเข้าใจกฎเบื้องต้นช่วงปลายออกมาได้
เมื่อเป็นเช่นนี้ ภายใต้การควบคุมของพลังแห่งกฎความตาย เสือพิฆาตจิ่วหยินได้ถูกกักขังเอาไว้แน่น ขังอยู่ในกรงที่แปรรูปมาจากเพลิงดำ
นอกจากนี้แล้วร่างของเสือพิฆาตจิ่วหยินก็ได้ถูกบีบให้หดเล็กลงอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งได้กลายเป็นดวงไฟสีดำทองขนาดเท่ากำปั้น และเสือพิฆาตจิ่วหยินขนาดเล็กนี้ ก็ได้ถูกผนึกเอาไว้ในดวงไฟสีดำทองก้อนนั้น
ไม่ว่าเสือพิฆาตจิ่วหยินที่อยู่ในดวงไฟจะกระแทกโจมตีเช่นไร ดวงไฟก็มั่นคงเป็นพิเศษ ไม่มีร่องรอยว่าจะแตกร้าวเลยสักนิด
จากนั้นไม่นานนัก เสือพิฆาตจิ่วหยินก็ได้ค่อย ๆ สงบลง รู้ว่าตนไม่อาจหลบหนี จึงได้แต่ยอมรับชะตากรรม
ความปีติยินดีปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของหลัวซิว ยื่นมือออกมาเช็ดเม็ดเหงื่อที่อยู่บนหน้าผาก ใช้พลังแปรเสวียนเทียนเพิ่มพลังแห่งกฎนั้นแข็งแกร่งก็จริง แต่ก็ทำให้สูญเสียพลังของตนเองไปมากเช่นเดียวกัน
“เจ้าหนุ่ม เจ้าช่างทำให้ข้าทึ่งจริง ๆ”
งูดำยักษ์กล่าวขึ้นมาอย่างช้า ๆ แม้น้ำเสียงจะเย็นชาเหมือนเดิม แต่สรรพนามที่ใช้เรียกหลัวซิวนั้นได้เปลี่ยนไปแล้ว
อัจฉริยะที่มีพรสวรรค์อันร้ายกาจ แม้ว่าในสายตาของเขาจะยังมีฝีมือเหมือนดั่งมดตัวเล็ก ๆ แต่ก็มีคุณสมบัติพอที่จะให้เขามองตรง ๆ