เทวทูตจื่อเยียนผู้นั้นบอกกับเขาว่า รอเขามีฝีมือในระดับเจ้ายุทธจักร สามารถมาที่นี่เพื่อค้นหาภูตอัคคีได้
ทว่าภูตอัคคีได้อยู่ในส่วนลึกของทะเลสาบมรณาจิ่วหยินแห่งนี้ และที่นี่ยังมีภูตน้ำมรณาจิ่วหยิน เพียงแค่รัศมีพลังที่แผ่ซ่านออกมา ก็แข็งแกร่งยิ่งกว่าเจ้ายุทธจักรแต่งตั้งอย่างเจ้ายุทธจักรอัคคีและเจ้ายุทธจักรหงส์อีกหลายเท่ายิ่งนัก
อย่าว่าแต่ฝีมือในระดับเจ้ายุทธจักรเลย ต่อให้มีฝีมือในระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์ เกรงว่าคงไม่พอให้ภูตน้ำมรณาจิ่วหยินได้ยืดเส้นสายด้วยซ้ำ
ดังนั้นเมื่อหลัวซิวได้เห็นงูดำขนาดมหึมาตัวนี้ ถึงรู้สึกว่าตนได้ถูกเทวทูตจื่อเยียนผลักสู้ขวากหนามเข้าให้เสียแล้ว
อย่างไรก็ตามหลัวซิวก็ไม่ได้หวาดกลัวจนเกินเหตุ โชคดีที่เขาได้ฝึกวิชาแบ่งร่างดับเบิ้ล ต่อให้ร่างแยกชุดดำต้องตายอยู่ที่นี่ พอถึงตอนนั้นก็สามารถใช้ผู้เป็นอมตะมาฟื้นคืนชีพอยู่ในแดนตำหนักจื่อได้
นอกจากนี้แล้วลูกแก้วความเป็นตายก็ได้อยู่ในร่างแยกชุดขาว แม้ต้องตายอยู่ตรงนี้มันก็จะไม่หายไป
เพียงแต่ว่าไฟทิพย์ทั้งสามชนิดที่เขารวบรวมมาอย่างยากลำบากคงต้องเสียเปล่าแล้ว และยังมีสามสมบัติวิเศษเสวียนดำที่อยู่ในร่างกายของเขา ก็ล้วนเป็นสมบัติวิเศษระดับมหาจักรพรรดิ
ในตอนที่หลัวซิวคิดหลับตารอความตายนั่นเอง ทันใดนั้นเองแหวนเก็บของที่สวมอยู่บนนิ้วมือก็ได้สั่นสะท้านขึ้นมา จากนั้นม้วนหยกชิ้นหนึ่งก็ได้ลอกออกมาจากแหวนเก็บของเอง ส่องแสงสีดำทมิฬ
“นี่คือ……” หลัวซิวมีสีหน้าสงสัยขึ้นมา ม้วนหยกที่ลอยออกมาเองชิ้นนี้ เป็นม้วนหยกที่เทวทูตจื่อเยียนมอบให้เขาในตอนนั้นนั่นเอง ในนั้นได้ใส่ไว้ด้วยแผนที่การเดินทางมายังที่แห่งนี้
“หือ? เป็นกลิ่นอายของเจ้านาย เหตุใดบนร่างของเจ้าลูกมดตัวน้อยอย่างเจ้าถึงได้มีกลิ่นอายของเจ้านายได้?” งูยักษ์สีดำได้พูดภาษามนุษย์ออกมา ลูกตาสีดำจ้องมองหลัวซิวตาไม่กะพริบ ทำให้เขารู้สึกเหมือนว่าร่างกายของเขาแทบจะถูกกระแสพลังอันน่าสะพรึงกลัวที่แผ่ซ่านออกมาสะท้านให้แตกกระจาย
“เทวทูตจื่อเยียนเป็นคนมอบม้วนหยกนี่ให้ข้า” หลัวซิวกล่าวตามความจริง ในขณะเดียวกันนั้นจากคำพูดของงูดำยักษ์ หลัวซิวคาดว่าเจ้านายที่มันเอ่ยถึง ก็น่าจะเป็นเทวทูตจื่อเยียนแล้ว
นี่มันทำให้หลัวซิววางใจลงมาเล็กน้อย คราวนี้คงไม่ต้องตายแล้วล่ะ
งูดำยักษ์ยื่นศีรษะขนาดมหึมาเข้ามา ลิ้นขนาดใหญ่อยู่ห่างจากหลัวซิวไม่ถึงครึ่งเมตร
“เป็นกลิ่นอายของเจ้านายจริง ๆ ด้วย เจ้านายให้เจ้าลูกมดอย่างเจ้ามาที่นี่ทำไมกัน?” เสียงของงูดำยักษ์เคร่งขรึมเป็นอย่างมาก แฝงความชั่วร้ายเอาไว้ด้านใน
“เทวทูตจื่อเยียนให้ข้ามาตามหาภูตอัคคี ข้าดูตามเครื่องหมายบนแผนที่ในม้วนหยก ดังนั้นจึงได้มาถึงที่นี่” หลัวซิวกล่าว อีกฝ่ายเรียกตนว่าเจ้าลูกมดซ้ำแล้วซ้ำเล่า แม้มันจะทำให้หลัวซิวไม่พอใจนัก แต่ด้วยพลังอันแข็งแกร่งของมัน เขาจึงได้แต่กัดฟันฝืนทน
งูดำยักษ์ไม่ได้สงสัยในคำพูดของหลัวซิวเลยสักนิด แม้ว่ามนุษย์ผู้นี้จะเป็นเพียงเจ้าลูกมดที่ไม่สะดุดตา แต่เขามีม้วนหยกอยู่ในมือ เป็นของแทนกายที่มีกลิ่นอายของเจ้านายอยู่จริง ๆ
ทันใดนั้นเอง งูดำยักษ์ก็ได้อ้าปากขนาดใหญ่ออก กลิ่นเหม็นสาบแผ่ซ่านออกมา ทำให้หลัวซิวตาเหลือกตาปลิ้น เหม็นจนเกือบจะสลบไป จนใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีดำ
แม้แต่เขาที่ฝึกฝนกฎความตายจนถึงแดนควบคุมเบื้องต้นขั้นกลางก็ยังไม่อาจต่อต้านการกัดกร่อนของพิษได้ เป็นที่ประจักษ์แล้วว่าพิษของน้ำมรณาจิ่วหยินนั้น เป็นที่น่าสะพรึงกลัวถึงเพียงใด
นี่ไม่ใช่แค่เพียงรัศมีพลังที่แผ่ซ่านออกมา หากร่างเนื้อได้สัมผัสกับน้ำพิษที่ชั่วร้ายนี้เข้า เกรงว่าคงต้องกลายเป็นน้ำหนองภายในชั่วพริบตาแน่
ในตอนนี้เอง เปลวเพลิงสีดำก้อนหนึ่งก็ได้ลอยออกมาจากจากของงูดำยักษ์ ทำให้หลัวซิวกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันที เพราะจากด้านในของเปลวเพลิง เขาได้สัมผัสถึงแหล่งกำเนิดของไฟทิพย์
เห็นเพียงว่าเปลวเพลิงสีดำนั่นบิดเบี้ยวเปลี่ยนรูปร่างอย่างต่อเนื่อง จากนั้นก็ได้กลายร่างเป็นรูปเสือ และคำรามออกมาอย่างอ่อนแรง
เห็นได้ชัด เปลวเพลิงสีดำนี่เป็นไฟทิพย์ชนิดหนึ่ง เพียงแต่ว่ากระแสพลังค่อนข้างจะอ่อนแอ คงเป็นเพราะได้ถูกน้ำมรณาจิ่วหยินผนึกเอาไว้เป็นเวลานาน ไม่มีโอกาสเติบโตได้เลย
แม้จะเป็นเช่นนี้ เปลวเพลิงสีดำนั่นได้กลายร่างเป็นเสือ ก็มีกระแสพลังที่ทัดเทียมได้กับเจ้ายุทธจักร