มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 769
“ด้วยพวกเจ้าน่ะหรือ?” หลัวซิวหัวเราะเบา ๆ คนเหล่านี้ไม่ใช่คนนุ่นหลัง แต่ผลการฝึกตนต่างอยู่ในระดับมหายุทธ์ ไม่ใช่เหล่าเฒ่าประหลาดระดับพรีเมี่ยมยุทธ์
“อย่าพูดให้มากความ ฆ่ามัน!”
พูดจบ บรรดาศิษย์แดนศักดิ์สิทธิ์จันทราสีเลือดก็กรูกันเข้ามา คนพวกนี้ในตอนที่อายุยังน้อยก็มีพรสวรรค์ที่ไม่ธรรมดา ฝึกตนนับสิบนับร้อยปี พลังการต่อสู้ต่างแข็งแกร่งมาก
จิตสังหารของคนพวกนี้หลวมรวมเข้าด้วยกัน กลายเป็นดาบโลหิตสีแดงก่ำ ทำลายปริภูมิ บดขยี้ทุกสรรพสิ่ง เข่นฆ่าอย่างไม่มีจุดสิ้นสุด
“ไข่มุกเล็กเท่าเม็ดข้าว ยังกล้าท้าสู้กับดวงจันทร์ที่ส่องสว่าง?” หลัวซิวยังมีท่าทีสงบนิ่ง สีหน้าท่าทางไม่ทุกข์ร้อน
ชิ้ง!
ดาบโลหิตสีแดงก่ำยาวหลายสิบฟุตหลวมรวมรังสีสังหารไม่มีที่สิ้นสุดได้ฟาดลงมา บรรดาศิษย์จันทราสีเลือดยิ้มเยาะในใจ เพราะการร่วมมือโจมตีของพวกเขาครั้งนี้ ต่อให้เป็นพรีเมี่ยมยุทธ์ช่วงต้นก็ยังต้องล่าถอย
แต่วินาทีต่อมา สีหน้าของพวกเขาก็พลันเปลี่ยนไป กำปั้นกระแทกขึ้นไปในอากาศ เพลิงนิลปะทุขึ้นหลวมรวมเป็นกระบี่แสง เสียงดังปังเกิดขึ้น ทำให้ดาบโลหิตสีแดงก่ำถูกทำลายเป็นเศษธุลี
จากนั้น หลัวซิวทิ้งภาพติดตาไว้ที่เดิม และปรากฎตัวขึ้นตรงหน้าบรรดาศิษย์จันทราสีเลือดในชั่วพริบตา
ปัง! ปัง! ปัง! ……
เสียงทุ้มของร่างเนื้อที่ถูกโจมตีดังก้องอยู่ในห้องโถง บรรดาศิษย์จันทราสีเลือดไม่มีเรียวแรงต่อต้านแม้แต่น้อย ถูกหลัวซิวใช้หมัดกระบี่จุลอมตะกระหน่ำโจมตีในระยะประชิด
หลัวซิวตระหนักรู้หมัดกระบี่ พลังทักษะการต่อสู้นั้นแข็งแกร่งเสียยิ่งกว่าวิชายิ่งเลิศ รวมกับพื้นฐานการควบคุมของแดนกฎช่วงกลาง แค่เพียงโจมตีออกไปอย่างไม่ตั้งใจ ก็แข็งแกร่งเสียยิ่งกว่าผู้แข็งแกร่งระดับพรีเมี่ยมยุทธ์ช่วงต้นอย่างมาก
“แดนศักดิ์สิทธิ์จันทราสีเลือดก็เท่านี้เองหรือ” หลัวซิวยิ้มเยาะ นัยน์ตาเย็นชากวาดมองศิษย์จันทราสีเลือดที่เหลืออยู่ในที่แห่งนี้
ศิษย์จันทราสีเลือดที่เหลือ ส่วนมากเป็นผลการฝึกตนระดับมกุฎยุทธ์ มีสองคนที่อยู่ระดับมหายุทธ์
“เจ้าอย่ามาอวดดี!” เมื่อเห็นยอดฝีมือระดับมหายุทธ์หลายคนถูกฆ่าตายด้วยหมัดเดียว ศิษย์ทั้งหมดของจันทราสีเลือดก็หน้าถอดสี แต่กลับยังหยิ่งผยองไม่ยอมก้มหัวให้
มหายุทธ์สองคนที่เหลือเดินออกมา ต่างเป็นมหายุทธ์ขั้นเก้า และเป็นหัวหน้ากองทัพอัจฉริยะรุ่นเยาว์ของแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราสีเลือด
พวกเขามีอายุไม่เกินร้อยปี หากไม่มีเหตุเหนือความคาดหมาย ภายในไม่กี่ปีก็สามารถเข้าสู่แดนพรีเมี่ยมยุทธ์ได้ นับว่าเป็นอัจฉริยะแถวหน้า
“ดูแล้ว ชะตาของข้าคงชงกับพวกเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราสีเลือด ลิขิตให้พวกเจ้าอัจฉริยะแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราสีเลือดต่างก็ต้องตายด้วยน้ำมือของข้า” หลัวซิวพูดพร้อมเสียงหัวเราะ
“คิดว่าตนเองใหญ่คับฟ้าแล้วหรือ?” มหายุทธ์ขั้นเก้าทั้งสองต่างเผยสีหน้ากริ้วโกรธ พวกเขาก็เป็นอัจฉริยะ พลังการต่อสู้ก็สามารถข้ามแดนต้านระดับพรีเมี่ยมยุทธ์ได้ เมื่อใดกันที่เคยโดนดูถูกเช่นนี้?
ไม่นาน ทั้งสองก็ลงมือ รังสีสังหารสีเลือดหลวมรวมกันปิดกั้นปริภูมิ
หลัวซิวยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับ เพลิงนิลบริเวณหว่างคิ้วสั่นไหว พลังแห่งตัวสำนึกกลายรูปถูกปล่อยออกไป
ตัวสำนึกของเขาทุกนาทีทุกวินาทีต่างก็ดูดซับพลังงานวิญญาณบริสุทธิ์ที่อยู่ในช่องจิตปลอม ในวันนี้ได้บรรลุถึงระดับมหายุทธ์ขั้นเก้าแล้ว
ในตอนแรก ด้วยกลยุทธ์ตัวสำนึกกลายรูปของตระหนักรู้ภายในหอคอยเทพจิต รวมเข้ากับกฎความตายดั้งเดิม ตัวสำนึกจู่โจมของหลัวซิวหากหากลอบโจมตี สามารถต่อกรกับพรีเมี่ยมยุทธ์ช่วงกลางได้
ตัวสำนึกของหลัวซิวกลายรูปเป็นเพลิงนิลกระบี่แสง ความเร็วของตัวสำนึกจู่โจมนั้นเพียงแค่ช่วงอึดใจ ทำให้มหายุทธ์ขั้นเก้าทั้งสองแห่งจันทราสีเลือดไม่สามารถหลับได้ทัน
“อ๊าก!”
ทั้งสองกรีดร้องโหยหวน มือกุมที่หว่างคิ้วแล้วก้าวถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว เลือดไหลออกจากทวารทั้งเจ็ด
ทว่าครั้งนี้พวกเขาต้องการล่าถอย แต่มันก็สายเกินไป หลัวซิวไม่แม้แต่จะต้องลงมือด้วยตัวเอง ตัวสำนึกหลอมรวมเป็นมือใหญ่สีดำ เสียงปังดังสนั่น ทั้งสองถูกกระแทกจนร่างแหลกเป็นละอองเลือด
ตัวสำนึกไร้รูปร่าง แต่หากรวมเป็นรูปร่างแล้ว ไม่เพียงแต่สามารถโจมตีวิญญาณหยั่งรู้ ยังสามารถฆ่าร่างเนื้อได้ด้วย
ร่างยุทธ์ร่างเนื้อก็เช่นเดียวกัน เมื่อแข็งแกร่งถึงแดนที่เหมาะสม สามารถทำลายตัวสำนึก และเข่นฆ่าเทพจิต
ตัวสำนึกจู่โจม!
เมื่อเห็นหลัวซิวใช้ตัวสำนึกจู่โจมฆ่ามหายุทธ์ขั้นเก้าทั้งสองในชั่วพริบตา บรรดาผู้ที่เห็นฉากนี้อดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้านด้วยความกลัว