“นี่มันเป็นไปไม่ได้!”
ชายผมทองแดนเจ้ายุทธจักรขั้นปลายสีหน้าตะลึงงัน แม้ว่าเมื่อสักครู่เขาจะดูถูกคู่ต่อสู้ไปบ้าง แต่อีกฝ่ายก็เป็นเพียงมหายุทธ์เล็ก ๆ คนหนึ่งเท่านั้น ฝีมือไม่ได้ด้อยไปกว่าตนเองเลยอย่างนั้นหรือ?
จะต้องรู้ว่าเขาได้อยู่ฝึกประสบการณ์ในโลกลุ่มสลายที่มีอันตรายอยู่ทุกรอบด้านแห่งนี้มาเป็นเวลานับร้อยปี ได้หาสมบัติวิเศษเจอจำนวนไม่น้อย รวมทั้งสิ่งสืบทอดโบราณบางอย่างที่อยู่ในสถานที่แห่งนี้ ไม่กล้าพูดว่าไร้คู่ต่อสู้ในแดนเดียวกัน แต่คนที่อยู่ในแดนเจ้ายุทธจักรที่ร้ายกาจกว่าเขานั้น มีอยู่ไม่มากแน่
ทว่าเจ้าหนุ่มที่มาจากโลกแสงดาวผู้นี้ อาศัยผลการฝึกตนในแดนมหายุทธ์ก็สามารถต่อต้านตนเองได้ ช่างเป็นที่น่าหวาดเกรงยิ่งนัก
แต่ไม่นานเขาก็นึกถึงความเป็นไปได้หนึ่งขึ้นมา อีกฝ่ายสามารถต่อสู้ข้ามขั้น สามารถอธิบายได้ว่าวรยุทธ์และทักษะยุทธ์ที่อีกฝ่ายฝึกฝนนั้นล้วนแข็งแกร่ง มีการสืบทอดในระดับที่สูงมาก
“ตายเสียเถอะ!”
ชายผมทองที่ชื่อกว่างช่าวผู้นั้นใบหน้าบิดเบี้ยว ถูกเจ้าหนุ่มแดนมหายุทธ์ตบเข้า มันเป็นความอัปยศอย่างไม่ต้องสงสัย
ไอสังหารอันแรงกล้าระเบิดออกมาจากร่างของเขา กระบี่ที่แต่ละเล่มที่เกิดจากการรวมตัวกกันของลำแสงสีทอง กลายเป็นกงจักรสีทองขนาดใหญ่ หมุนอย่างรวดเร็วเหมือนดั่งล้อเฟือง ตัดอากาศเข้ามา
หลัวซิวขับเคลื่อนพลังของลูกแก้วเสวียนดำ กระแสพลังจิตแท้ขับเคลื่อนถึงเจ้ายุทธจักรขั้นหนึ่งทันที
ในขณะเดียวกัน เขาก็ได้ขับเคลื่อนพลังแปรเสวียนเทียนยี่สิบสี่เท่า พวกกับการหนุนเพิ่มของพลังแห่งกฎความตาย พลังการต่อสู้ได้ทะยานถึงจุดสูงสุด
เคร้ง!
เขาฟาดฟันกระบี่เสวียนยวน ใช้ออกมาด้วยหมัดกระบี่ ต่อต้านการจู่โจมจากกงจักรสีทองเอาไว้ได้
จากนั้น เขาก็ได้ขับเคลื่อนเคล็ดวิชาตัวสำนึกกลายรูป ตัวสำนึกกลายร่างเป็นปราณกระบี่เพลิงดำ แทงเข้าไปยังตัวหยั่งรู้ของอีกฝ่าย
แม้ว่าในตอนนี้ตัวสำนึกของหลัวซิวพึ่งจะบรรลุถึงเจ้ายุทธจักรขั้นปฐมภูมิ แต่ภายใต้การผลักดันจากพลังแห่งกฎความตาย กลับสามารถทัดเทียมได้กับเจ้ายุทธจักรช่วงปลาย
นอกจากนี้ตัวสำนึกกลายรูป ก็เป็นการโจมตีด้านตัวสำนึกวิญญาณที่ค่อนข้างชาญฉลาดอย่างหนึ่ง
“อ้าก!……”
กว่างช่าวผู้นั้นคิดไม่ถึงว่าหลัวซิวจะสามารถโจมตีทางตัวสำนึกได้ ในขณะที่ไม่ทันระวัง ได้ถูกปราณกระบี่เพลิงดำแทงเข้าที่ตัวหยั่งรู้ และร้องโหยหวนออกมาด้วยคงามเจ็บปวด สติแตกซ่าน
ปีกทิพย์ไร้มลทินสั่นสะเทือน หลัวซิวขับเคลื่อนความเร็วจนถึงขีดสุดหลบพ้นจากการโจมตีของกงจักรทอง และมาถึงที่ด้านหน้ากว่างช่าวภายในชั่วพริบตา
ตราทวยมรณะ!
หลัวซิวสร้างตราประทับขึ้นมาด้วยมือข้างหนึ่ง รัศมีพลังมหาศาลเหมือนดั่งจักรพรรดิที่เฝ้ามองปฐพีแผ่ซ่านออกมารอบกาย ราวกับเทพเจ้าที่กำลังตัดสินโทษคนบาป
“ตูม!”
หมอกโลหิตพุงกระฉูด ร่างท่อนบนของกว่างช่าวถูกตราทวยมรณะของหลัวซิวซัดแตกกระจาย
ชายผมทองแดนเจ้ายุทธจักรขั้นปลายคิดไม่ถึงว่ากว่างช่าวจะถูกหลัวซิวสังหารได้อย่างง่ายดายเช่นนี้ ในตอนนี้หลัวซิวได้แสดงตราทวยมรณะออกมา เขาคิดจะลงมือช่วยเหลือ แต่ก็สายเกินไปเสียแล้ว
“คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะสามารถสังหารกว่างช่าวได้ ดูท่าเจ้าจะมีการถ่ายทอดระดับสูงอยู่ในมือ”
ระหว่างที่กล่าว ธงขนาดใหญ่สีทองฝืนหนึ่งก็ได้ปรากฏขึ้นในมือของชายผมทองแดนเจ้ายุทธจักรขั้นปลาย ลำแสงสีทองสาดส่องออกมา กลายรูปเป็นมังกรสีทองตัวหนึ่ง อ้าปากกว้างกลืนกินเข้ามาทางหลัวซิว
จากกระแสพลังที่ผันผวนอยู่บนธงสีทองนั้น เห็นได้ชัดว่าเป็นของขลังชั้นสูงที่อานุภาพไม่ธรรมดา หลัวซิวไม่กล้าที่จะดูถูกเลยแม้แต่น้อย พลังการต่อสู้ขับเคลื่อนออกมาจนหมด มือหนึ่งถือกระบี่เสวียนยวน อีกมือถือดาบโลหิตชั้นสูง ตั้งรับมังกรสีทอง
ครืน! ครืน! ครืน!……
มังกรสีทองส่ายหัวส่ายหาง ร่างกายแข็งแรงไร้ที่เปรียบ ภายใต้การโจมตีจากอาวุธขลังชั้นดีที่มีอานุภาพมหาศาลสองชิ้น กลับไม่สะทกสะท้านเลยสักนิด
อย่างไรก็ตามการโจมตีของอีกฝ่ายก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำร้ายถึงหลัวซิว เพราะการเคลื่อนไหวของปีกทิพย์ไร้มลทินนั้นรวดเร็วจนเกินไป ตราบใดที่หลัวซิวคิดจะหลบ โดยทั่วไปแล้วไม่มีการโจมตีใด ๆ ที่ไม่สามารถหลบได้
“เตาปรากฏ!”
เตาใบหนึ่งได้ลอยออกมาจากจุดตันเถียนของหลัวซิว มังกรเขียวทั้งสองตัวที่อยู่บนเตาได้ลอยออกมา เป็นเหมือนดั่งโซ่ตรวนขนาดใหญ่สองเส้น รายล้อมเข้าไปหาอีกฝ่าย
ชายผมทองยิ้มเยอะ แสงสีทองสาดส่องออกมาทั่วร่าง กระแทกมังกรเขียวทั้งสองแตกสลายไปโดยง่าย