ทั้งสามคนนั้นเติบโตและเล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก และนัดกันไว้ว่าจะมาที่เมืองทองคำเพื่อที่จะไปหอคอยแห่งเทพศักดิ์สิทธิ์และฝึกยุทธ์
อย่างงี้นี่เอง ทั้งสามคนเดินทางและฝ่าฟันมาอย่างไกล พร้อมทั้งกับการแบกความหวังแห่งอนาคตไว้
หลังจากสิบวัน หลิวซิวกับเซวรี่และเนิร์ดทั้งสองคนก็เดินทางไปที่ทุ่งหญ้าที่กว้างใหญ่มหึมา
โดยที่ทุ่งหญ้านี้ใหญ่จนสุดสายตา และโดยที่สุดปลายทุ่งหญ้านั้น ก็จะพบกับภูเขาสูงตระหง่าน
โดยแท้จริงๆแล้วภูเขาหลายลูกที่อยู่ไกล นั้นไม่ใช่ลูกที่สูงที่สุด ที่เหมือนมีเมฆอยู่นั้นนั่นก็คือหอคอยแห่งเทพศักดิ์สิทธิ์
โห้ง!
บนท้องฟ้า ก็ได้มีแสงไฟบินมาขนาดใหญ่ มองไกลๆแล้ว ราวกับแสงดาวตกที่พุ่งลงมา
เสียงคำรามที่เข้ามาใกล้ๆ ต้องมองใกล้ๆถึงจะเห็นได้ชัดเจน โดยที่แสงไฟนี้นั้นจริงๆแล้วคือไฟที่มาจากตัวของสิงโต และอีกทั้งยังมีพลังถึงระดับเจ็ด
ข้างหลังของสิงโตไฟพลังระดับเจ็ด มีชายผู้หนึ่งที่ยืนใส่เสื้อชุดสีแดงยาว ที่มีรูปร่างสูงยาว มีรูปร่างที่สง่างามและทรงพลัง
ข้างๆกายของเขายังมีหญิงชุดแดงที่ใสชุดสีแดงกระโปรงยาว รูปร่างสวยงามสง่า ก่อนที่ใบหน้าจะเต็มไปด้วยความสวยงามและเผยถึงความทะนงตัว อีกทั้งยังแสดงถึงความเย็นชาออกมา
“ซือซือ การฝึกตนในหอคอยแห่งเทพศักดิ์สิทธิ์นั้นทรหดมาก เจ้าไม่อยากจะคิดทบทวนอีกรอบหรือ?” ชายชุดแดงเอ่ยถามขึ้น
“ข้าคิดดีแล้ว และแน่นอนว่าข้าจะไม่เสียใจ” หญิงชุดแดงตอบด้วยความแน่วแน่
“เจ้าคิดดีหรือยังว่าอยากจะเข้าร่วมกับค่ายไหน?”
“ค่ายมืด” หญิงสาวชุดกระโปรงแดงตอบอย่างไม่ลังเล
“นึกไม่ถึงว่าเจ้าอยากจะเข้าร่วมค่ายมืด?” ชายชุดแดงถามด้วยสีหน้าเปลี่ยนไป “ตั้งแต่มีหอคอยแห่งเทพศักดิ์สิทธิ์ มีคนน้อยมากที่อยากจะเข้าร่วมกับค่ายมืด เจ้ารู้ใช่ไหมว่าหมายถึงอะไร?”
“ข้ารู้ดี แต่ว่าข้าอยากจะหาอะไรที่ท้าทาย เพียงแค่สามารถที่จะรอดมาจากค่ายมืดได้ แน่นอนว่าการพัฒนาของข้ามันจะดีกว่าการที่ข้าจะไปเข้าร่วมกับค่ายสว่าง”
เมื่อเห็นดวงตาที่แน่วแน่ของหญิงสาว ชายชุดแดงยิ้มฝืนๆ อีกทั้งไม่มีอะไรที่จะต้องพูดอีก เพราะว่าเขาเข้าใจเธอดีว่า เมื่อไหร่ที่ตัดสินใจออกมา แม้แต่เขาจะพูดจนปากฉีกก็ไม่มีประโยชน์
ในเวลานี้ เขาได้ใจสั่น เมื่อมองเห็นเงาสามคนมาจากตรงไหน
“อือ? ใช่นักยุทธ์ทองเแดง ของเชิ่งถิงหรือเปล่า?”
“เป็นคนของสำนักเทวอัคคี”
ก่อนที่เซวรี่และเนิร์ดจะมองไปเห็นสิงโตไฟที่บินอยู่บนท้องฟ้า
ในโลกเชิ่งถิง ถึงแม้จะบูชาเทวสว่างของเชิ่งถิงว่าให้เป็นเทพที่มีพลังแข็งแกร่งที่สุด แต่ทว่าการนับถือของพลังเทพอื่นๆก็ไม่ควรที่จะมองข้ามไป
“ซือซือ เจ้าอยากจะฆ่าเจ้าสามคนนี้ทิ้งไหม คนของเชิ่งถิงนั้นกำลังเดินทางไปที่หอคอยแห่งเทพศักดิ์สิทธิ์ แน่นอนว่าจะต้องไปเข้าร่วมกับค่ายสว่าง” ชายชุดแดงยืนอยู่บนหลังของสิงโตไฟ ก่อนจะเอ่ยพร้อมหัวเราะ
“ก็แค่มกุฎยุทธ์ระดับนักยุทธ์ทองเแดงเท่านั้น ถึงแม้จะเข้าร่วมกับค่ายสว่าง แต่ก็ไม่สามารถที่จะมาทำอะไรข้าได้ ฆ่าไปแล้วจะมีประโยชน์อะไร?” หญิงชุดแดงเอ่ยอย่างเรียบๆ
“หึหึ เจ้าพูดเช่นนี้ ถ้าอย่างงั้นก็คิดจะว่าเจ้าสามคนนั้นโชคดีไปก็แล้วกัน” ชายชุดแดงหัวเราะ ก่อนที่สิงโตไฟนั้น จะบินผ่านหลัวซิว ทั้งสามคน และบินขึ้นไปบนฟ้า
“น่ากลัว สิงโตไฟระดับเจ็ดแบกคนไปตั้งสองคน แน่นอนว่าต้องเป็นคนยศสูงของสำนักเทวอัคคีแห่งแดนมหายุทธ์”
ดวงตาพวกเขาจ้องมองสิงโตไฟหายไปบนท้องฟ้า เซวรี่และเนิร์ดนั้นภายในใจก็เกิดความกลัวเล็กน้อย เพราะว่าเมื่อสักครู่ ได้มีพลังอันแข็งแกร่งได้วนล้อมรอบพวกเขา และได้แอบซ่อนพลังแห่งการเอาฆ่าไว้
“คนของสำนักเทวอัคคีจะกล้าฆ่าพวกเราเพื่อทำให้เชิ่งถึงไม่พอใจ?”หลัวซิวเอ่ยขึ้น
เพราะเขาคิดว่าเชิ่งถิงนั้นได้มีอำนาจและตำแหน่งที่สูงกว่าสถานที่นี้
เซวรี่และเนิร์ดมองแปลกๆไปที่เขาและเอ่ย“สมองของเจ้าบ้าไปแล้วหรือเปล่า? ในเชิ่งถิงนั้นก็เพราะพวกเรานั้นระดับนักยุทธ์ทองเแดงมีตั้งเยอะแยะ พวกเขาสำนักเทวอัคคีไม่ได้ขัดแย้งกับเรา ดังนั้นถึงไม่ได้จำเป็นต้องมายุ่งอะไรกับชีวิตน้อยๆของพวกเราไง”