เจ้าศักดิ์สิทธิ์อัคคีนภาเป็นชายวัยกลางคนที่น่าเกรงขาม แต่งกายด้วยเสื้อคลุมสีแดงทอง ถือกระบี่สมบัติเล่มหนึ่งอยู่ในมือ เขาเป็นผู้แข็งแกร่งมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้น 4
“รังแกข้าที่ฝึกตนมาเป็นเวลาสั้นหรือ? พวกเจ้าที่เรียกว่าแดนศักดิ์สิทธิ์ต่างๆเป็นเพียงขยะที่รวมตัวกันเพื่อกลั่นแกล้งคนเท่านั้น วันนี้ข้าจะเหยียบตำหนักอัคคีนภา ของเจ้าให้ราบ!” หลัวซิวตะโกนอย่างเย็นชา
“ช่างตลกจริง! เพียงเพราะเดรัจฉานตัวน้อยอย่างเจ้าที่กล้าพูดจาบ้าๆ บอๆ เจ้าศักดิ์สิทธิ์อย่างข้าจะดูว่าเจ้ามีความสามารถเพียงใดในการเหยียบตำหนักอัคคีนภาของข้าให้ราบ”
เจ้าศักดิ์สิทธิ์อัคคีนภาก้าวขึ้นไปบนท้องฟ้าโดยถือกระบี่สมบัติวิเศษอยู่ในมือ ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยออร่าที่ทรงพลังอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีแดงเปลวไฟไปทั่วอากาศ
หลัวซิวไม่หวดกลัว เขาเผชิญหน้าพร้อมพูดเยาะเย้ยว่า “ข้าได้ยินมาว่าตำหนักอัคคีนภาของเจ้ามุ่งเน้นไปที่การปลูกฝังกฎเพลิงอัคคี และวันนี้ข้าจะใช้ไฟเพื่อทำลายเจ้า!”
เปลวไฟสีแดงลุกออกจากร่างกายของเขา มันคือจักรพรรดิอัคคีนภาแดง ที่ภูตอัคคีเปลี่ยนแปลงครั้งที่สามมาจากการฝึกฝน
“เคร่ง!”
เจ้าศักดิ์สิทธิ์อัคคีนภาฟันออกไปด้วยกระบี่ เปลวเพลิงที่ไม่มีที่สิ้นสุดระหว่างฟ้าดินมารวมตัวเป็นพลังกระบี่ที่หนาราวกับภูเขา กวาดล้างลงมา พลังหนักหนา แผดเผาท้องฟ้า ทำให้โลกเดือด
หลัวซิวยื่นมือออกไปจับ เอากระบี่สมบัติวิเศษที่เขาได้แย่งมาจากมือของแดนศักดิ์สิทธิ์ในแดนดารานอก เขาฟันออกไปต่อต้านเจ้าศักดิ์สิทธิ์อัคคีนภา
“โครม!”
ปราณกระบี่แข็งแกร่งราวกับภูเขาถูกเขาฟันออก แต่ปราณกระบี่ที่พังทลายไม่ได้สลายไป ได้กลายเป็นเปลวไฟสีแดง จมดิ่งไปทางหลัวซิว
นี่คืออัคคีจักรพรรดิที่ควบแน่นโดยเจ้าศักดิ์สิทธิ์อัคคีนภา หลังจากการฝึกตนนับพันปี ไฟทุกดวงสามารถเผาผลาญทุกอย่างได้ แม้กระทั่งผู้แข็งแกร่งมหาจักรพรรดิยุทธ์ในระดับแดนเดียวกันก็ไม่กล้าแตะโดน
แต่หลัวซิวไม่ได้สนใจมัน เขาอ้าปากและคายจักรพรรดิอัคคีนภาแดงออกมา เปลวไฟที่เขาฝึกฝนนั้นมีฐานเป็นภูตอัคคีกลืนกิน ภูตอัคคีแบบนี้เชี่ยวชาญด้านการกลืนกินกลั่นแปรพลังธาตุไฟต่างๆเพื่อเอามาใช้เอง
จักรพรรดิอัคคีนภาแดงกลายเป็นกระแสน้ำวน และเปลวไฟสีแดงที่ไม่มีที่สิ้นสุดถูกกลืนหายไปอย่างรวดเร็ว
“ภูตอัคคีกลืนกิน?”
“เปลวไฟที่เขาใช้มีความสามารถในการกลืนกินภูตอัคคี”
ตำหนักอัคคีนภาและผู้แข็งแกร่งมากมายที่ฝึกฝนวรยุทธ์ธาตุไฟต่างพากันอุทานออกมาด้วยความตกใจ ภูตอัคคีทุกชนิดมีค่ามากสำหรับผู้ที่ฝึกฝนกฎเพลิงอัคคี น่าเสียดายที่ภูตอัคคีนั้นหายากอย่างยิ่ง แม้แต่เจ้าศักดิ์สิทธิ์อัคคีนภาที่แข็งแกร่งอย่างยิ่ง ก็ไม่เคยได้รับมาก่อน
“เปลวเพลิงทำอะไรเจ้าไม่ได้ ข้าจะใช้ผลการฝึกตนมาปราบปรามเจ้า!”
เจ้าศักดิ์สิทธิ์อัคคีนภาตะโกนอย่างโกรธจัด ควบแน่นด้วยพลังจิตแท้เป็นภูเขาที่ลุกโชนด้วยผลการฝึกตนของเขา ทุบลงมาพร้อมเสียงดังกึกก้อง
“เจ้าไม่สามารถรั้งข้าไว้ได้”
หลัวซิวยกมือขึ้นพร้อมชี้ เขาทองดำไท่เสวียนบินออกไป มันคือสมบัติวิเศษระดับชั้นสูง ซึ่งมีความลึกลับของวิชาสังหารไท่เสวียนซ้อนเร้นอยู่
ภูเขาเพลิงถูกกระแทกด้วยเขาทองดำ ลำแสงของภูเขาทองดำพุ่งทะยาน ยิงแสงสีดำจำนวนนับไม่ถ้วนออกมา ซึ่งแต่ละดวงสามารถทะลุผ่านอากาศได้อย่างง่ายดาย
“เจ้าเองก็ลองมารับกระบวนท่าหนึ่งของข้าดูบ้าง”
หลัวซิวเหยียดฝ่ามือออก แสงสีดำที่สอดประสานกันซึ่งเกิดจากกฎและการเวียนว่ายตายเกิดรวมตัวเป็นมือสีขาวดำขนาดใหญ่อยู่กลางอากาศ มือใหญ่จับภูเขาทองคำดำ ถือไว้ราวกับอิฐยักษ์ แล้วทุบไปยังเจ้าศักดิ์สิทธิ์อัคคีนภาอย่างดุเดือด
สีหน้าของเจ้าศักดิ์สิทธิ์อัคคีนภาเปลี่ยนไปอย่างมาก แม้ว่าเขาจะเป็นมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้น 4 แต่เขาทองคำดำนี้เป็นสมบัติวิเศษชั้นสูง และพลังของมันเปรียบได้กับมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้นปลาย หากเขาจะต่อต้านจะเป็นเรื่องยากมากนัก
เมื่อคิดอย่างนี้ เขาไม่สนใจว่าเขาจะเสียหน้าต่อผู้คนจำนวนมากหากหนีไปต่อหน้าต่อตา เขากลายเป็นเปลวไฟพร้อมฉีกอากาศออกก็จะหนีไป
“ปิดผนึก!”
หลัวซิวตะคอกเสียงเบา ใช้กฎปริภูมิ อากาศที่ถูกฉีกออกจากกันโดยเจ้าศักดิ์สิทธิ์อัคคีนภาก็ได้ปิดลงอย่างรวดเร็ว ปิดกั้นการหลบหนีของเขา