แต่สิ่งที่ทำให้ผู้ยิ่งใหญ่เจ้าแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์คิดไม่ถึงก็คือ หลังจากที่หลัวซิวรับแหวนไปแล้ว เขากลับพูดขึ้นมาว่า “ของแค่นี้ไม่พอ !”
“พ่อหนุ่ม ความอยากของเจ้ามีเยอะไปหน่อย” เจ้านิกายมารศักดิ์สิทธิ์มีสีหน้าเคร่งขรึม
“ศิษย์ของพวกท่านทั้งหลายตามฆ่าข้าตั้งนาน ไม่คิดจะชดใช้อะไรบ้างเหรอ ?” หลัวซิวไม่เห็นด้วย เขาพูดขึ้นมานิ่งๆ
ในความเป็นจริงสิ่งของที่สี่ผู้ยิ่งใหญ่เจ้าแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์เอาออกมาถือว่าไม่น้อย มีทั้งยาวิเศษมหาจักรพรรดิยุทธ์ระดับ9 รวมถึงวัตถุดิบในการหลอมอาวุธเทพวิเศษและของมหัศจรรย์หลากหลายชนิด
แต่หลัวซิวไม่อยากปล่อยโอกาสในการรีดไถไปง่ายๆ ก่อนหน้านี้เขาถูกตามฆ่าจนต้องหนีไปทั่วทุกสารทิศ ยังไงก็ต้องกรีดเลือดขูดเนื้อทั้งสี่ท่านนี้ให้ได้
“ข้าได้ยินมาว่าท่านมีของขลังพรสวรรค์สร้างปีกทิพย์ไร้มลทิน ว่ากันว่ามันรวดเร็วที่สุดภายใต้แดนมหาจักรพรรดิยุทธ์ ไม่มีใครสามารถเข้าถึงได้ อย่างไรมันก็เป็นเพียงแค่ของขลัง ด้วยศักยภาพที่ท่านมีอยู่ เห็นได้ชัดว่าปีกทิพย์ไร้มลทินแทบจะไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว”
เจ้าสำนักดำเหลืองพรวดพราดพูดขึ้นมาว่า : “ข้าบังเอิญได้รับม้วนหยก หนึ่งในนั้นบันทึกวิธีทำให้ปีกทิพย์เลื่อนขั้น ถ้าบวกกับม้วนหยกชิ้นนี้ พอไหม?”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้แล้ว สายตาของหลัวซิวก็เปล่งประกาย แน่นอนว่าเขาเองก็เคยได้ยินเรื่องการเลื่อนขั้นของของขลังพรสวรรค์ เพียงแค่เป็นของขลังพรสวรรค์ที่แตกต่างกัน ก็จะมีวิธีการเลื่อนขั้นที่แตกต่างกัน ถึงแม้เขาจะรู้ว่าปีกทิพย์ไร้มลทินมีวิธีในการเลื่อนขั้น แต่เขากลับไม่รู้วิธีในการเลื่อนขั้นนั้น
เช่น ของขลังพรสวรรค์อย่างหอกยุทธ์มังกรดำ การเลื่อนขั้นเป็นการยกเลิกข้อห้ามในแดนกฎ ตอนนี้จากของขลัง ได้เลื่อนขั้นเป็นของขลังพรสวรรค์แล้ว
“ถือว่าได้แล้วกัน” หลัวซิวคว้าม้วนหยกชิ้นนั้นมา ดูเหมือนเขาจะไม่สนใจ ในใจจริงๆดีใจอย่างมาก
ความรวดเร็วของปีกทิพย์ไร้มลทินไม่มีอะไรเทียบได้ ถ้าสามารถเลื่อนขั้นเป็นระดับอาวุธเทพได้ ความเร็วจะถึงจุดที่คาด
ไม่ถึง
หลังจากนั้น เจ้าแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์อีกสามท่านต่างก็เอาสมบัติออกมา เจ้านิกายมารศักดิ์สิทธิ์หยิบยาวิเศษมหาจักรพรรดิยุทธ์ออกมาอีกยี่สิบเม็ด เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ตระกูลยุทธ์หยิบวัตถุดิบศิลาแร่ที่ใช้กลั่นนักยุทธ์เทพมารออกมาส่วนหนึ่ง
ต่อมา เทพมารทั้งแปดของเผ่าพันธุ์มารและเผ่าปีศาจต่างก็หยิบสมบัติไม่น้อยออกมา โดยเฉพาะเผ่าปีศาจ ยิ่งถูกหลัวซิวฉวยโอกาสรีดไถ โดยมีทูตจื่อเยียนอยู่ เทพมารทั้งสี่ทำได้แค่อดกลั้นความโกรธเอาไว้ และพยายามที่จะตอบสนองความอยากของหลัวซิว
หลัวซิวสัมผัสได้ถึงแรงอาฆาตของเทพมารผู้แข็งแกร่งทั้งสี่ได้ย่างชัดเจน โดยเฉพาะเทพมารที่ถูกทูตจื่อเยียนโจมตีจนลอยออกไปตนนั้น ประกายเลือดในดวงตา โกรธมากจนอยากจะกลืนกินเขาเข้าไป
แต่หลัวซิวไม่ได้เกรงกลัวการคุมคามของพวกเขาแม้แต่น้อย การล่มสลายของแดนศักดิ์สิทธิ์หยุนไห่ เป็นสิ่งที่เผ่าปีศาจทำ ตอนนี้เป็นเพียงการจ่ายดอกเบี้ยเล็กๆน้อยๆสำหรับคนเหล่านี้ก็เท่านั้นเอง
“ถ้าข้ามีความสามารถกวาดล้างเทพมารได้ ข้าจะดึงเผ่าปีศาจออกจากโลกแสงดาว !” ความอาฆาตของหลัวซิวเองก็ไม่มีการปกปิดใดใด
“พ่อหนุ่ม เจ้าก็ได้สมบัติไปแล้ว มันถึงเวลาแล้วที่จะต้องบอกเนื้อหาในม้วนหยก ?” มีคนอดรนทนไม่ไหวถามออกมา
“ความลับแบบนี้จะพูดออกมาพล่อยๆได้อย่างไร ?” หลัวซิวส่ายหน้า “สามเดือนหลังจากนี้ ทุกท่านมาพร้อมกันที่นี่ ข้าจะพาทุกท่านไปด้วยตัวเอง”
“สามเดือน ?”
บรรดาเทพมารต่างขมวดคิ้ว ระยะเวลาสามเดือนสำหรับเทพมารแล้วเป็นระยะเวลาเพียงสั้นๆ แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนต่างสงสัยก็คือ ทำไมเขาต้องเลือกเวลาในอีกสามเดือนหลังจากนี้ ?
“หึ่ย อยากเห็นจริงๆว่าเจ้าจะเล่นอะไรอีก !”
รู้สึกไม่พอใจอยู่ภายในใจ แต่บรรดาเทพมารกลับไม่สามารถโต้แย้งใดใดได้ อย่างมากภายในสามเดือนนี้จับตาจ้องมองเขาทุกการเคลื่อนไหว
“สามเดือนหลังจากนี้ ข้าจะมาใหม่” ทูตจื่อเยียนค่อยๆลุกขึ้น และหันไปมองหลัวซิวอย่างลึกซึ้ง
“ผู้อาวุโสเดินทางดีดี” หลัวซิวยืนขึ้นแล้วทำความเคารพ