หลัวซิวสามารถสัมผัสได้ถึง กระดูกขาทั้งสองข้างของเขาได้เริ่มมีเค้าลางของร่องรอยการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นแล้ว กำลังจะก้าวจากขีดจำกัดของเจ้ายุทธจักร ไปยังมหาจักรพรรดิยุทธ์!
ผลลัพธ์ประเภทนี้ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากพลังกดขี่หาที่เปรียบไม่ได้ของเทพสงครามเอกภพ
ทั่วทั้งร่างของเขาแบกรับพลังกดขี่อันน่าหวาดกลัว เมื่อกระดูกขาของเขาเกิดการเปลี่ยนแปลงแล้ว จากนั้นแต่ละส่วนของร่างกายเขาก็จะเข้าสู่กระบวนการเปลี่ยนแปลงจนเสร็จสมบูรณ์ เมื่อถึงตอนนั้นก็จะทำให้ขีดจำกัดของจักรร่างยุทธ์เจ้ายุทธ ชุบร่างเป็นร่างยุทธ์มหาจักรพรรดิยุทธ์!
แต่ถึงอย่างนั้นหลัวซิวก็รู้ดีว่า ไม่ต้องพูดถึงการฝึกตนร่างยุทธ์ถึงมหาจักรพรรดิยุทธ์ ต่อให้ชุบร่างเป็นร่างยุทธ์เทพมาร ไม่มีแดนผลการฝึกตนระดับเดียวกันกับช่าจื่อเยียน ก็ไม่ต้องคิดถึงการเดินขึ้นไปบนยอดสูงสุดของเขาลูกนี้เลย
เพราะว่าผู้แข็งแกร่งเทพมารของทั้งสามเผ่าพันธุ์ ทุก ๆ คนต่างก็มีร่างยุทธ์ร่างเนื้อระดับเทพมาร แต่กลับยังไม่สามารถเดินขึ้นไปได้ ทำได้แค่เพียงหยุดอยู่ที่บริเวณใกล้ ๆ เท่านั้น
“หืม?”
ในเวลานี้เอง หลัวซิวสังเกตถึงเทพมารทุกคนของเผ่าพันธุ์มารและเผ่าปีศาจ ต่างก็ฝืนฝ่าพลังกดขี่มหาศาลนี้ เดินตรงมาทางเขา
เทพมารเหล่านี้หยุดอยู่ที่นี่ ไม่ไปท้าทายขีดจำกัดของตนเองเพื่อฝึกฝนร่างกาย แต่กลับหันหลังกลับมาแทน ต่อให้หลัวซิวใช้หัวแม้เท้าคิดก็ก็ยังสามารถเดาออก เจ้าพวกนี้ต้องมาเพราะตนเป็นแน่
“ทุกท่าน นี่หมายความว่าอย่างไร?”
หลิวหงเทียนเอ่ยปากขึ้นทันที พาเทพมารทั้งเจ็ดคนมาหยุดเทพมารเผ่าพันธุ์มารและเผ่าปีศาจทั้ง 11 คนเอาไว้
ภายในบรรดาเจ้าศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ทั้งสี่ของโลกแสงดาวนั้น สีหน้าของเจ้าศักดิ์สิทธิ์นิกายมารศักดิ์สิทธิ์ เจ้าศักดิ์สิทธิ์ตระกูลยุทธ์ และเจ้าศักดิ์สิทธิ์ดารานภาสามท่านนี้เผยความไม่เต็มใจออกมา
ศิษย์อัจฉริยะและยอดฝีมือของพวกเขาทั้งสามแดนศักดิ์สิทธิ์ เคยถูกหลัวซิวเข่นฆ่าจำนวนนับไม่ถ้วน แต่พวกเขาไม่สามารถฆ่าไอ้หนุ่มคนนี้เพื่อระบายความโกรธได้ ในตอนนี้เขายังต้องมาปกป้องเขาอีก บนโลกนี้มีเรื่องแบบนี้ที่ไหนกัน?
เทียบกันแล้ว สีหน้าของเจ้าศักดิ์สิทธิ์เสวียนหวงสงบนิ่งมาก เพราะว่าสำนักดำเหลือง มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่เข้าร่วมในการไล่ล่าหลัวซิว อีกทั้งยังเป็นการกระทำส่วนตัว ไม่ใช่ความคิดของเจ้าศักดิ์สิทธิ์เสวียนหวง
อีกทั้งยังไม่มีใครล่วงรู้ว่า เมื่อก่อนนี้เจ้าศักดิ์สิทธิ์เสวียนหวงเคยให้ธิดาเทพรุ่นใดรุ่นหนึ่งแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์หยุนไห่ทำทายดวงชะตา ให้ วิชาแห่งชะตาทำทายไว้ว่า สำนักดำเหลืองของเขาจะถึงวาระ ตราบใดที่ไม่ไปรังแกผู้อื่น ไม่ข่มเหงรังแกคนที่อ่อนแอกว่า ความหายนะที่ว่านี้ก็จะถูกคลี่คลายไปได้
ด้วยเหตุนี้ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เจ้าศักดิ์สิทธิ์เสวียนหวงจึงได้กำชับศิษย์ภายในสำนักให้ระวังพฤติกรรมของตนเอง อย่าทำให้สำนักเขาต้องเผชิญกับความหายนะ
เวลานี้เจ้าศักดิ์สิทธิ์เสวียนหวงก็พอจะเข้าใจแล้วว่า ที่ธิดาเทพหยุนไห่ได้ทำนายไว้ในปีนั้น มีความเป็นไปได้อย่างมากที่จะหมายถึงหลัวซิว
แต่ว่าเจ้าศักดิ์สิทธิ์เสวียนหวงก็ไม่ได้แน่ใจเท่าใดนัก เพียงแค่คาดเดาคร่าว ๆ เท่านั้น
“ลงมือ!”
เทพปีศาจผู้หนึ่งตะโกนเสียงดัง ทันใดนั้นเทพปีศาจทุกคนก็พากันลงมือ พุ่งตรงไปไล่ฆ่าหลิวหงเทียนและคนอื่น ๆ
“กำจัดเผ่าพันธุ์มนุษย์กลุ่มนี้เสีย โดยเฉพาะไอ้หนุ่มคนนั้น เทวมังกรมีคำสั่ง สังหารมันให้สิ้น!”
เทพมารอสูรทุกท่านจากเผ่าพันธุ์มารก็พากันคำรราด้วยความโกรธ มีบางคนที่กลายร่างเป็นร่างเดิม ร่างกายมโหฬาร พลังแข็งแกร่งน่าหวาดกลัว ดุร้ายไม่มีใดเทียบ
สงครามชุลมุนปะทุขึ้นในทันที แต่กลับไม่มีใครสนใจหลัวซิวเลย
“ไอ้หนุ่มเผ่าพันธุ์มนุษย์จะหนีไปแล้ว!”
ทันใดนั้น เทพมารอสูรตนหนึ่งก็คำรามเสียงดังลั่น ร่างเดิมคืองูยักษ์สีดำตัวหนึ่ง ร่างกายขนาดมหึมาเลื้อยตามออกไปทันที
ในเวลาเดียวกัน เทพมารคนอื่น ๆ ก็ต่างสังเกตว่าร่างของหลัวซิวค่อย ๆ ก้าวถอยหลังไป หมายจะหนีออกไปจากที่นี่
พลังกดขี่หาที่เปรียบไม่ได้ของเทพสงครามเอกภพ สำหรับเทพมารเหล่านี้ต่างก็เป็นการควบคุมที่แข็งแกร่งมาก ทำให้พวกเขาไม่สามารถสำแดงพลังทั้งหมดออกมาได้
แต่หลัวซิวหลับสามารถอาศัยลูกแก้วความเป็นตายได้โดยไม่ได้รับผลกระทบแม่แต่น้อย ดังนั้นความรวดเร็วจึงได้เร็วกว่าเทพมารเหล่านี้อย่างมาก
ชั่วพริบตา หลัวซิวก็ถอยลงมาถึงตีนเขา จากนั้นก็เลือกเส้นทางอีกเส้นในทันที มุ่งตรงขึ้นไปยังยอดเขา