นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น – ตอนที่ 42 ซูฉิงไม่สนใจเขา

“นี่เงิน 50 ล้าน เอาเงินไป แล้วรีบออกไปจากที่นี่ ฉันไม่อยากเห็นหน้าเธออีกแล้ว!” แม่ฮ่อวางเช็คบนโต๊ะแล้วพูดอย่างเย่อหยิ่ง มองไปที่ซูฉิงด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรังเกียจ
ห้าสิบล้าน?
ซูฉิงหยักยิ้มริมฝีปากของเธออย่างเย้ยหยัน แม่ฮ่อคนนี้ยอมลงทุนเพื่อไล่เธอออกไปจริงๆ
แต่ไม้นี้ใช้ไม่ได้ผลกับซูฉิงหรอก
เมื่อเห็นว่าซูฉิงเงียบ ฮ่อเฉียนก็คิดว่าเธอกำลังตกตะลึงกับเงินจำนวนมากนี้ จึงพูดอย่างประชดประชันว่า “ซูฉิงเธอเห็นชัดไหม นี่คือ 50 ล้านนะ เธอไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้ใช่ไหม? พูดตามตรงเลยว่ากี่ชาติเธอก็หาเงินไม่ได้มากขนนาดนี้หรอก! ทำไมไม่รีบรับเงินแล้วรีบออกไปล่ะ?”
“ห้าสิบล้านใช่ไหม?” ซูฉิงแตะริมฝีปาก ก้มลงมองไปที่เช็คตรงหน้าเธออย่างเย็นชา และเอื้อมมือไปหยิบมันขึ้นมา
“รีบรับเงินแล้วออกไปซะ! ต่อไปอย่ามารบกวนหยุนเฉิงอีก!” เมื่อเห็นซูฉิงหยิบเช็คขึ้นมา ดวงตาของแม่ฮ่อก็ไม่สามารถซ่อนแววตาที่เต็มไปด้วยความรังเกียจของเธอได้
คนบ้านนอกก็คือคนบ้านนอก พอเห็นเงินก็ตาโตเชียว
แบบนี้ก็ดี รับเงินแล้วก็ออกไปซะ อย่างน้อยต่อไปก็ไม่ต้องเจอซูฉิงอีก ไม่เจอก็ไม่ต้องมีเรื่องให้โมโห
แต่ในวินาทีต่อมา ซูฉิงก็ฉีกเช็คในมือของเธอทิ้ง แล้วปาใส่แม่ฮ่อและฮ่อเฉียนด้วยความดูถูก “ขอโทษนะ คุณนายฮ่อ เงินแค่นี้ฉันไม่รับหรอก”
“ซูฉิง ฉันอุส่าไว้หน้าเธอแล้วนะ!” ฮ่อเฉียนโดนปาเช็คใส่หน้า ตอนนี้ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความโกรธ
ซูฉิงหมายความว่าอะไร? 50 ล้านก็ยังไม่รับ? ยังจะเกาะติดฮ่อหยุนเฉิงต่อไป?
ก็เพราะว่าถ้าแต่งงานกับฮ่อหยุนเฉิง และกลายเป็นคุณนายของตระกูลฮ่อก็จะได้มากกว่าห้าสิบล้านอย่างนั้นเหรอ?
สีหน้าของแม่ฮ่อก็เปลี่ยนไปทันที ดวงตาที่สวยงามก็จ้องไปที่ซูฉิง “บอกมาซิ ต้องการเท่าไหร่เธอถึงจะยอมปล่อยหยุนเฉิงไป?”
“ฉันจะไปแน่ แต่ไม่ใช่ตอนนี้” ซูฉิงหรี่ตาลง และมองอย่างไม่แยแส “จะไปเมื่อไหร่ก็ขึ้นอยู่กับฉัน คุณไม่ต้องกังวล ตระกูลฮ่อของคุณ รวมทั้งฮ่อหยุนเฉิง ฉันซูฉิงไม่สนใจหรอก!”
หลังจากพูดจบ ซูฉิงก็ไม่สนใจแม่ฮ่อและฮ่อเฉียนอีก เธอหยิบกระเป๋าคอมพิวเตอร์ของเธอขึ้นมา และเดินหันหลังออกจากห้องประชุมไป
ทันทีที่เธอเดินออกมาจากประตู ซูฉิงก็ชนเข้ากับร่างของใครบางคน
“โอ๊ย เจ็บ…”
ซูฉิงสูดหายใจเข้า ลูบหน้าผากที่เจ็บ และเงยหน้าขึ้นไปก็พบกับสิ่งที่ดึงดูดสายตาของเธอ นั่นก็คือใบหน้าหล่อเหลาที่คุ้นเคย หล่อจนทำให้คนหายใจไม่ออก
สีหน้าของซูฉิงเต็มไปด้วยความประหลาดใจ “ฮ่อหยุนเฉิง นายมาที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่?”
รวมทั้งฮ่อหยุนเฉิง ฉันซูฉิงไม่สนใจหรอก!
เสียงหยิ่งยโสของซูฉิงเมื่อกี้ยังคงดังก้องอยู่ในหัวของฮ่อหยุนเฉิง
ซูฉิงไม่สนใจเขา?
ทำไม? เขาไม่ดีตรงไหน?
ใบหน้าของฮ่อหยุนเฉิงเคร่งขรึมขึ้นเล็กน้อย ตั้งแต่โตมาเขาก็เป็นที่รักของทุกคนมาโดยตลอด นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกหงุดหงิดที่ถูกคนอื่นดูถูก
เมื่อก่อนเขาเป็นคนดูถูกคนอื่นมาตลอด แต่ตอนนี้กลับถูกคนอื่นดูถูก…
เมื่อเห็นฮ่อหยุนเฉิงยืนอยู่ข้างหน้าเธอด้วยใบหน้าเคร่งขรึม ซูฉิงจึงถามด้วยความประหลาดใจ “ฮ่อหยุนเฉิง นายไม่ได้อยู่บ้านหรอกเหรอ? ทำไมจู่ๆ นายมาที่นี่ล่ะ?”
ก่อนที่ฮ่อหยุนเฉิงจะอ้าปากตอบ ฮ่อเฉียนก็แย่งพูดก่อน “พี่มาพอดีเลย พี่ดูหน้าฉันสิ ถูกซูฉิงทำให้เป็นแบบนี้ คุณน้าก็โดนซูฉิงทำร้ายด้วย”
ใบหน้าของซูฉิงบูดเบี้ยวทันที เธอไปลงไม้ลงมือกับแม่ฮ่อและฮ่อเฉียนตอนไหน?
“ฉันบอกเธอแล้วไม่ใช่เหรอว่าอย่ามายุ่งกับซูฉิงอีก?” ฮ่อหยุนเฉิงเหลือบมองฮ่อเฉียนอย่างเย็นชา
ออร่าของเขารุนแรงมาก ฮ่อเฉียนตัวสั่น กระพริบตาปริบๆ และมองไปที่แม่ฮ่ออย่างน้อยใจ “คุณน้า…”
“หยุนเฉิง ผู้หญิงคนนี้มีอะไรดี? ลูกจะปกป้องเธอแบบนี้เหรอ?” น้ำเสียงของแม่ฮ่อโกรธมาก
ลูกชายของเขาเข้าข้างยัยคนบ้านนอกนี่
“ผมรู้แค่ว่าคุณปู่ชอบเธอ” ฮ่อหยุนเฉิงดึงเนคไทของเขาออกอย่างไม่อดทน “คุณปู่สุขภาพไม่ดี แม่คงไม่อยากให้ปู่โกรธใช่ไหม?”
“แก…” ฮ่อหยุนเฉิงพูดถึงคุณปู่ฮ่อ ซึ่งแม่ฮ่อไม่สามารถปฏิเสธได้
“คุณนายฮ่อคะ ฉันบอกแล้วว่าฉันจะไปแน่ แต่ไม่ใช่ตอนนี้” ซูฉิงมองดูเช็คที่เธอฉีกอย่างเย้ยหยัน “คุณเก็บเงิน 50 ล้านนี้ไว้สำหรับตัวคุณเองเถอะค่ะ!”
หลังจากพูดจบแล้ว ซูฉิงก็เดินไปที่ห้องทำงานโดยไม่หันกลับมามอง
“คุณน้า ดูนั่นสิ เป็นคนแบบไหนกัน!” ฮ่อเฉียนกระทืบเท้าของเธออย่างโกรธจัด
ตอนแรกคิดว่าจะสามารถไล่ซูฉิงออกไปได้เพราะ อาการบาดเจ็บของฮ่อหยุนเฉิง แต่ซูฉิงก็ปฏิเสธที่จะจากไป แม้แต่ฮ่อหยุนเฉิงก็ปกป้องเธอ!
“หยุนเฉิง มือของลูกไม่เป็นไรใช่ไหม?” แม่ฮ่อจับมือฮ่อหยุนเฉิงด้วยความเป็นห่วง
“ไม่เป็นไรครับ” ฮ่อหยุนเฉิงดึงมือออกเบาๆ
แม่ฮ่อพ่นลมอย่างเย็นชา “แม่ได้ยินมาว่าเพราะซูฉิงลูกถึงเป็นอย่างนี้?”
“ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอครับ” ฮ่อหยุนเฉิงพูดอย่างเย็นชา “แม่ ต่อไปอย่ามาหาเรื่องซูฉิงอีกนะ”
“หาเรื่องเธอ?” แม่ฮ่อไม่สามารถระงับความโกรธของเธอได้ “หยุนเฉิง แม่หหวังดีกับลูกนะ หรือว่าลูกจะแต่งงานกับยัยบ้านนอกนั่นจริงๆ ? เธอมีอะไรดี? ไม่ใช่เพราะเธอแค่สวยนิดหน่อยหรอกนะ? ลูกก็หลงเสน่ห์เข้าแล้วเหรอ? ผู้หญิงแบบนี้อาจจะทำสิ่งที่ไร้ยางอายลับหลังลูกก็ได้นะ!”
“นั่นสิ!” ฮ่อเฉียนเมื่อได้ยินเช่นนี้ ก็รีบพูดเสริม “คุณน้าพูดถูกแล้ว ยังไงเธอก็มาจากชนบท นอกจากอ่อยผู้ชาย เธอจะทำอะไรเป็นอีก? ครั้งที่แล้วฉันไปช้อปปิ้งกับเพื่อนก็เห็นซูฉิงไปกับผู้ชายคนอื่น”
“ผู้ชายอะไร?” ฮ่อหยุนเฉิงขมวดคิ้ว และถามโดยไม่รู้ตัว
“ก็หลินหนาน ดาราชายที่ช่วงนี้ดังๆ ไง” ฮ่อเฉียนกล่าวเสริม “ฉันไม่รู้ว่าซูฉิงไปรู้จักหลินหนานได้อย่างไร ดูพวกเขาสองคนสนิทสนมกันมาก จับมือกันด้วย…”
“พอแล้ว!” ใบหน้าของฮ่อหยุนเฉิงเคร่งขรึม และเขาก็ขัดจังหวะฮ่อเฉียนอย่างไม่อดทน “ซูฉิงและหลินหนานเป็นเพื่อนกัน เธออย่าพูดมั่ว”
ในหัวของเขา ภาพของซูฉิงที่ร้องเพลงให้หลินหนานในบาร์วันนั้นปรากฏขึ้นโดยไม่ตั้งใจ
ฮ่อหยุนเฉิงกลับไปที่ห้องทำงานของประธานด้วยใบหน้าที่ตึงเครียด
เมื่อจินตนาการว่าซูฉิงกับหลินหนานสนิทสนมกัน ฮ่อหยุนเฉิงก็เปิดเอกสารบนโต๊ะอย่างหงุดหงิด โดยไม่ได้อ่านเลยแม้แต่น้อย
หลินเหยียนเฟิงถือเอกสารกำลังจะเอามาให้ฮ่อหยุนเฉิงเซ็น เมื่อเขาเดินมาถึงหน้าประตูเขาก็ได้ยินเสียงที่เข้มงวดและเย็นชาของฮ่อหยุนเฉิงดังออกมา”ทำไมมีคำผิด?”
“ขอโทษครับท่านประธาน ผมจะไปแก้ทันที!” ผู้จัดการแผนกที่มารายงานฮ่อหยุนเฉิงก็โดนดุจนเหงื่อแตก
ไม่รู้ว่าวันนี้ประธานกินยาอะไรผิดมา หน้าเขาเคร่งเครียด แค่เพียงเพราะเขาพิมพ์ผิด เขาก็โดนบ่นไปครึ่งชั่วโมง
“ยังไม่รีบไปแก้อีก!” สายตาที่เย็นชาของฮ่อหยุนเฉิงแทบจะทำให้ผู้คนหยุดนิ่ง
“ครับ โอเคครับ!” ผู้จัดการแผนกรีบออกไปทันที
เมื่อออกมาก็พบหลินเหยียนเฟิงที่หน้าประตู ผู้จัดการแผนกก็เตือนเขา “วันนี้ประธานอารมณ์ไม่ดี ขอให้คุณโชคดีนะ”
อารมณ์ไม่ดี?
ท่านประธานเป็นคนหน้าบึ้งมาตลอด เคยอารมณ์ดีด้วยเหรอ?
หลินเหยียนเฟิงเคาะประตูอย่างสงสัย