ตอนที่เธออายุได้ 12 ปี ซูฉิงป่วยด้วยโรคร้ายแรงและอาจตายได้ หลังจากที่อาการป่วยของเธอหาย เรื่องราวต่างๆ ก่อนหน้านั้นเธอก็จำอะไรไม่ได้เลย
คุณปู่บอกเธอว่าพ่อแม่เธอเสียชีวิตตั้งแต่เธอยังเด็ก
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซูฉิงจึงแทบไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับพ่อแม่ของเธอเลย
เมื่อใดก็ตามที่เธอต้องการระลึกถึงเหตุการณ์ในวัยเด็ก ซูฉิงจะมีอาการปวดหัวรุนแรง เพราะอย่างนั้นเลยมีหลายครั้งที่ซูฉิงเผลอไปคิด
แต่ทำไมในตอนนี้ ฉากครอบครัวสามคนพ่อแม่ลูกที่กำลังไปที่สวนสนุกผุดขึ้นมาในหัว?
ราวกับจริงมาก
สองขาของซูฉิงจึงอดไม่ได้ที่จะเดินไปทางสวนสนุก
เมื่อยืนอยู่ตรงประตู ชูฉิงจ้องเข้าไปในสวนสนุก พยายามนึกบางสิ่งอย่างหนัก ภาพที่เลือนลางแวบเข้ามาในหัว และเธอก็เริ่มปวดหัวอีกครั้ง
ซูฉิงรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย ทำไมเธอถึงจำอะไรไม่ได้เลย?
แม้แต่หน้าตาของพ่อแม่ก็จำไม่ได้เลยสักนิด
ฟ้าเริ่มมืดขึ้นเรื่อยๆ
แสงไฟนีออนเปลี่ยนสี ฉายแสงสีสันสดใสบนถนน
กลางวันท้องฟ้าแจ่มใส แต่ขณะนี้ ฝนกลับกำลังตกปรอยๆ
ลมเย็นพัดผ่านจนซูฉิงอดสั่นสะท้านไม่ได้
ทันใดนั้นก็มีร่มสีดำขนาดใหญ่เหนือหัวของเธอปกป้องจากลมและฝน
ซูฉิงหันกลับไปด้วยความประหลาดใจ สิ่งที่ดึงดูดสายตาของเธอคือร่างสูงที่คุ้นเคย
“ฮ่อหยุนเฉิง ทำไมถึงเป็นนายล่ะ?” ซูฉิงมองไปที่ชายตรงหน้าเธอด้วยความประหลาดใจ ความรู้สึกสั่นไหวอย่างบอกไม่ถูกเติบโตในหัวใจของเธอ
ภายใต้แสงสลัว ชุดสูทสีเทาควันบุหรี่ของฮ่หยุนเฉิงแสดงให้เห็นรูปร่างที่สมบูรณ์แบบของเขาอย่างชัดเจน
ดวงตาลึกราวกับทะเลกว้างใหญ่ จับจ้องไปที่ใบหน้าของซูฉิง
ริมฝีปากบางเซ็กซี่โค้งเล็กน้อย และเสียงที่ไพเราะเขาก็ดังขึ้นข้างใบหูซูฉิง “ก็เธอบอกเองไม่ใช่เหรอว่าจะทดสอบโชคชะตาของเรา ตอนนี้เรามาเจอกันแล้ว ก็แสดงว่าพิสูจน์ที่เราถูกลิขิตกันไว้ได้เล้วใช่ไหม?”
หัวใจของซูฉิงกระตุกไปครึ่งจังหวะ
ในเมืองใหญ่แห่งนี้ เธอกับฮ่อหยุนเฉิงได้มาพบกันอีกครั้ง
ระหว่างเธอและเขามีโชคชะตาลิขิตเอาไว้จริงงั้นเหรอ?
ฮ่อหยุนเฉิงถอดเสื้อสูทออกออกมาสวมบนร่างกายของซูฉิงอย่างระมัดระวัง ริมฝีปากบางของเขายกขึ้นเล็กน้อย “ทำไมถึงมายืนบ๊องอยู่ตรงทางเข้าสวนสนุกคนเดียว?”
เสื้อสูทของอีกคนยังคงรักษาอุณหภูมิร่างกายของเขาซึ่งทำให้หัวใจของซูฉิงอบอุ่น “ฉันกำลังนึกถึงพ่อแม่น่ะ”
“พ่อแม่ของเธอ? ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่เมือง C เหรอ?” ฮ่อหยุนเฉิงถามเสียงเรียบ
ซูฉิงมาจากชนบทในเมือง C ดังนั้นพ่อแม่ของเธอก็น่าจะอยู่ที่ชนบทใช่ไหม?
ดวงตาของซูฉิงหรี่ลง และพูดด้วยเสียงค่อนข้างเศร้า “พวกเขาไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้วล่ะ”
“ขอโทษนะ” ฮ่อหยุนเฉิงขอโทษอย่างรวดเร็ว มองซูฉิงอย่างเป็นห่วง
“อันที่จริงฉันก็ไม่รู้ว่าหน้าตาพ่อแม่เป็นยังไง ได้ยินจากคุณปู่บอกว่าพวกเขาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุตอนที่ฉันยังเด็กมาก” ซูฉิงถอนหายใจอย่างแผ่วเบา
“พ่อของฉันก็ตายตอนฉันอายุสิบห้าปี” ฮ่อหยุนเฉิงกล่าวด้วยความรู้สึกเดียวกัน
ซูฉิงพยักหน้า “ฉันคิดถึงพวกเขามาก”
ฮ่อหยุนเฉิงจับมือซูฉิงก่อนจะพาเธอเข้าสวนสนุก “ฉันจะพาเธอไปดูพวกเขา”
“ไปดูใครนะ?” ซูฉิงสับสนเล็กน้อย แต่กลับเดินตามฮ่อหยุนเฉิงเข้าไปในสวนสนุก
ฝนตกปรอยๆ ไม่รู้เมื่อไหร่ที่หยุดไป
ฮ่อหยุนเฉิงหยุดข้างชิงช้าสวรรค์
“ฉันกลัวความสูง” ซูฉิงมองไปยังชิงช้าสวรรค์ที่สูงตระหง่านตรงหน้าก่อนจะหดคอ
“มีฉันอยู่ไม่ต้องกลัว” ฮ่อหยุนเฉิงยิ้มบางก่อนจะเอื้อมมือออกไปกอดซูฉิง
“อา…” อุทานออกไป ซูฉิงยังไม่ทันตอบสนองตัวก็เบาหวิวเพราะถูกฮ่อหยุนเฉิงอุ้มเข้าไปในชิงช้าสวรรค์
“นายทำอะไรน่ะ?” ซูฉิงสับสนเล็กน้อย ผู้ชายคนนี้คิดจะทำอะไรกันแน่?
“ดูทางนั้นสิ” มือเรียวของฮ่อหยุนเฉิงชี้ไปบนท้องฟ้า “เห็นดาวที่ใหญ่ที่สุดและสว่างที่สุดสองดวงตรงนั้นไหม?”
ซูฉิงมองไปยังทางที่ฮ่อหยุนเฉิงชี้อย่างสงสัย
ท้องฟ้ายามราตรีแสนกว้างใหญ่ ดาวสองดวงที่สว่างไสวเป็นประกายระยิบระยับ
“ที่จริงแล้วพ่อแม่เธอไม่เคยจากไปไหน พวกเขาแค่ขึ้นไปอยู่บนฟ้า คอยเฝ้าดูและคอยห่วงเธออย่างเงียบๆ” ฮ่อหยุนเฉิงกล่าวด้วยเสียงทุ้ม
“จริงเหรอ?” แม้เธอจะรู้ว่านี่เป็นเพียงคำพูดปลอบโยนเธอ แต่ในใจซูฉิงก็ยังรู้สึกประทับใจ
ซูฉิงยิ้ม เมื่อหันกลับไปก็เกือบชนเข้ากับใบหน้าที่สวยงามหาที่เปรียบมิได้ของฮ่อหยุนเฉิง
ใบหน้าคมเปรียบเสมือนผลงานชิ้นเอกของเวทมนตร์พระเจ้า ดวงตาลึกล้ำร้อนแรงกำลังจับตามองเธออย่างใกล้ชิด
ในพื้นที่เล็กๆ ของชิงช้าสวรรค์ ทั้งสองอยู่ใกล้กันมากจนซูฉิงได้ยินแม้กระทั่งเสียงหายใจของฮ่อหยุนเฉิงอย่างชัดเจน
หัวใจของเธอเต้นเร็วขึ้น ซูฉิงมองออกไปนอกหน้าต่าง
เมื่อชิงช้าสวรรค์ถึงจุดสูงสุด เธอก็อยู่ใกล้พ่อแม่ที่สุดใช่ไหม?
ชิงช้าสวรรค์ค่อยๆ ขึ้น ค่อยๆ ขึ้น
ผู้ชายที่อยู่ข้างๆ เธอทำให้เธอรู้สึกสบายใจได้อย่างบอกไม่ถูก
ในขณะนั้นเอง ราวกับซูฉิงได้สูญเสียความกลัวความสูงและลืมทุกสิ่งทุกอย่าง ในสายตาของเธอนั้นมีเพียงดวงดาวที่ส่องแสงระยิบระยับบนท้องฟ้ายามค่ำคืน
เมื่อชิงช้าสวรรค์เคลื่อนไปถึงบนยอด ชายที่อยู่ข้างๆ ซูฉิงก็ค่อยๆ ก้มหน้าลงมากดจูบที่แก้มของเธอ
อุณหภูมิแผดเผาบนแก้มที่ได้มาจากริมฝีปากของฮ่อหยุนเฉิง ราวกับไฟฟ้าแล่นเข้าร่างกายของซูฉิง
“ซูฉิงเธอรู้ไหมว่าจุดสูงสุดของชิงช้าสวรรค์เป็นที่ที่ใกล้กับความสุขมากที่สุด หากคู่รักจูบกันที่ด้านบนแล้วจะไม่มีวันแยกจากกันไปตลอดชีวิต” ริมฝีปากเซ็กซี่ของฮ่อหยุนเฉิงปรากฎรอยยิ้มเป็นรอยยิ้มที่มีเสน่ห์อย่างไม่มีที่เปรียบ “เหมือนกับเราในตอนนี้”
ใบหน้าของซูฉิงเริ่มร้อนขึ้น
“เราไม่น่าใช่แฟนกันนะ” ซูฉิงสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดเบาๆ
“ฉันจะรอคำตอบของเธอ หวังว่าเธอจะไม่ปล่อยให้ฉันรอนานเกินไปนะ” ฮ่อหยุนเฉิงพูดด้วยเสียงทุ้ม ฝ่ามือใหญ่อันอบอุ่นของเขาแนบกับมือเล็กๆ ของซูฉิง
หัวใจของซูฉิงราวกับจะระเบิดออกมา
เธอหลับตา ก่อนจะลืมตาอีกครั้งและมองไปยังชายที่อยู่ข้างๆ เธอด้วยสายตาที่เงียบงัน “หากมีวันหนึ่งที่ถังถังกลับมา ระหว่างเธอกับฉัน นายจะเลือกใคร?”
ซูฉิงรู้ดี อันที่จริงเธอไม่น่าถามคำถามทำลายบรรยากาศขนาดนี้เลย
แต่ทว่าเธอก็อดไม่ได้
เธอคำนึงถึงการมีอยู่ของถังถัง คำนึงถึงความรักของฮ่อหยุนเฉิงที่มีต่อถังถัง เลยกลัวว่าตัวเองจะเป็นเพียงตัวแทนของถังถังเท่านั้น
นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น – ตอนที่ 121 นายจะเลือกใคร
ตอนที่ 121 นายจะเลือกใคร
Posted by ? Views, Released on สิงหาคม 8, 2021
, นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น
Status: Ongoing
นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น แปลไทย มีข่าวลือว่าคู่หมั้นของนายน้อยฮ่อ เป็นสาวบ้านนอกหน้าตาขี้เหร่ ไร้การศึกษา และเป็นคนไร้ความสามารถ ในงานเลี้ยง ชูฉิงได้ปรากฏตัวขึ้น และทุกคนก็ต้องตกตะลึง! “ขี้เหร่ตรงไหน!” “ว่ากันว่านักแสดงนำชายยอดเยี่ยมคือน้องชายของเธอ!” “พ่อของเธอเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในโลก!” “และดีไซเนอร์ชื่อดัง loe ผู้ลึกลับ ก็คือเธอ!” ทุกคนต่างตกตะลึงเมื่อความลับทั้งหมดของเธอถูกเปิดออก แต่แล้วยังไงล่ะ หยุนเฉิงก็ไม่ได้ชอบเธอ และในวันนั้นเองตระกูลฮ่อกรุ๊ปก็ได้โพสต์เว่ยป๋ออย่างเป็นทางการว่า “ความสัมพันธ์ตอนนี้ดีมาก และกำลังเตรียมตัวที่จะเข้าพิธีวิวาห์” ทุกคน: “…”! ! !