“หยุนเฉิง หยุนเฉิง! นายทำอะไรน่ะ ปล่อยนะ!”
ทั้งสองดึงกันไปมา ซูฉิงก็ถูกลากออกจากห้อง และเมื่อไปถึงทางเดินเธอก็ดึงข้อมือตัวเองกลับอย่างแรง และพยายามให้ฮ่อหยุนเฉิงหยุด
ฮ่อหยุนเฉิงชะงักฝีเท้าและหันกลับมาจ้อง ซูฉิงก็ฉวยโอกาสดึงมือตัวเองกลับก่อนจะเอามืออีกข้างมาจับข้อมือตัวเองไว้
“นายอย่าหึงสิ…”
“เธอเป็นแฟนฉันนะ”
ตอนนี้ฮ่อหยุนเฉิงอารมณ์เสียมาก เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเฉินจุนเหยียนถึงชอบเข้ามายุ่งกับซูฉิง เห็นว่าแฟนตัวจริงอย่างเขาเป็นตัวอะไรกัน?
แม้ว่าทั้งสองจะไม่ได้หมั้นกันแล้ว แต่ไม่ช้าก็เร็วซูฉิงก็ต้องเป็นของเขาอยู่ดี!
เขาคว้าเอวของซูฉิงและดึงอีกคนเข้าหาตัวเองอย่างแรง
เขากดจูบอันอบอุ่นลงไปอย่างท่วมท้น ซูฉิงรู้สึกตาพร่า เธอเขย่งปลายเท้าขึ้นเล็กน้อย และอดไม่ได้ที่จะโอบรอบคออีกคน
จูบของฮ่อหยุนเฉิงเต็มไปด้วยความปรารถนา คิดถึง และการครอบครอง
ตอนนี้ทางเดินของโรงพยาบาลมีคนเดินผ่านไม่กี่คน และบางครั้งก็มีเด็กที่มองด้วยความสงสัยก่อนจะถูกผู้ใหญ่ปิดตาเอาไว้
ฮ่อหยุนเฉิงใช้เวลานานกว่าจะค่อยๆ ผละซูฉิง และขยับฝ่ามือออกจากผานหลังของอีกคน
เขากระซิบข้างหูของซูฉิงว่า “เป็นไปไม่ได้หรอกที่จะไม่หึง”
สิ่งที่เขาพูดกับซูฉิงนั้นออกมาจากใจจริง
ซูฉิงหน้าแดงไม่หาย แม้แต่หูของเธอก็แดง เมื่อได้ยินฮ่อหยุนเฉิงพูดแบบนี้เธอก็รู้สึกอบอุ่นหัวใจ แม้ว่าชายคนนี้จะไร้เดียงสาต่อหน้าเธอในบางครั้ง แต่ก็เป็นเพราะเขารักเธอ
“เอาล่ะ ฉันรู้แล้วว่านายกังวลเรื่องอะไร”
ซูฉิงจัดการความรู้สึกก่อนจะช่วยอีกคนจัดแจงเสื้อและอธิบายให้เขาฟังอย่างอดทน
“ช่วงนี้ฉันดูแลจุนเหยียนที่โรงพยาบาล เพียงเพราะเขาช่วยชีวิตฉัน ส่วนที่เมื่อกี้ฉันพูดไป…นายเองก็รู้ เขาเพิ่งฟื้นได้ไม่นาน อย่างน้อยก็ต้องรอเขาหายดีก่อนแล้วฉันค่อยบอกเขา อย่าหึงเลยนะ”
“แต่เขาก็รู้ดีว่าความสัมพันธ์ของเราคืออะไร” ทันทีที่สิ้นเสียงซูฉิง ฮ่อหยุนเฉิงก็บอกกับเธอทันที
แม้ว่าซูฉิงจะอธิบายให้เขาฟังซ้ำๆ ว่าไม่มีทางเป็นอะไรกับเฉินจุนเหยียน และแม้ว่าเขาจะรู้ว่าซูฉิงเป็นคนแบบไหนก็ตาม
แต่หลังจากเวลาผ่านไปนาน เขาก็มีหัวใจและเจ็บเป็น
เขาไม่ชอบที่เฉินจุนเหยียนเข้าใกล้ และแสดงความรักต่อซูฉิง
เมื่อเห็นท่าทีจริงจังของอีกคน ซูฉิงก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหัวด้วยรอยยิ้มอย่างช่วยไม่ได้
เอาเถอะ อย่าพูดถึงเฉินจุนเหยียนเลย
“หลังจากที่นายบอกแผนกับถังรั่วอิงแล้ว ช่วงนี้เธอมีพฤติกรรมผิดปกติอะไรไหม?”
ฮ่อหยุนเฉิงคิดอย่างละเอียดก่อนจะมีท่าทีจริงจังขึ้น
“ช่วงนี่เธอไม่ได้ทำอะไรเป็นพิเศษ ยังอยากเข้าห้องหนังสือเหมือนเดิม แล้วก็อยากให้ฉันอยู่กับเธอด้วย”
คำพูดของฮ่อหยุนเฉิงมีความหมายบางอย่าง และซูฉิงที่ได้ยินก็เกิดไม่สบายใจ แต่ว่าเธอรู้ว่าไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการปล่อยให้ถังรั่วอิงโผล่หางออกมา
เธอหันหน้าไปด้านข้างและพูดกับฮ่อหยุนเฉิงอย่างจริงจัง “ดูเหมือนว่าเธอจะเริ่มแสดงแล้ว…แต่เกรงว่าจะต้องทำให้รุนแรงขึ้นอีกหน่อย พยายามทำที่เธอขอ ถังรั่วอิงจะจับเหยื่อเร็วขึ้นแล้วก็จะมีโอกาสโผล่หางได้มากขึ้นด้วย”
“เธอ—” ฮ่อหยุนเฉิงส่งเสียไม่พอใจพร้อมขมวดคิ้ว และจ้องซูฉิงอย่างไม่เข้าใจ
เขายกแขนขึ้นเล็กน้อยและงอนิ้วชี้ราวกับว่าเขากำลังจะเคาะหัวเธอ แต่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็วางมือลง พยักหน้าแล้วพูดว่า “ไม่ต้องห่วง ฉันรู้ว่าต้องทำยังไง แต่ว่าเธอก็ต้องรักษาระยะห่างกับเฉินจุนเหยียนด้วยนะ”
“ฉันรู้แล้วน่า”
เมืองใหม่สุ่ยเยว่
หลี่เฉิงหยางโทรมาอีกครั้ง “ถังรั่วอิง นี่มีนกี่วันแล้ว? เมื่อไหร่จะได้แผนของเป่ยไห่วาน?”
ถังรั่วอิงรู้สึกหวาดกลัวจากก้นบึ้งของหัวใจทุกครั้งที่เธอได้สายจากหลี่เฉิงหยาง แต่เธอไม่มีอำนาจที่จะต่อต้าน
เช่นเดียวกับตอนนี้ เธอทำได้เพียงตอบรับแผ่วเบา “ฉันกำลังหลอกล่อฮ่อหยุนเฉิงอยู่ พี่รอหน่อยนะ ขอเวลาฉันอีกสองวัน ฉันต้องได้—”
“สองวัน! สองวันอีกแล้ว!”
เสียงของหลี่เฉิงหยางจากปลายสายดูไม่สบอารมณ์
ชายที่นั่งบนเก้าอี้ในห้องทำงานดึงเนคไทอย่างหงุดหงิด ดวงตาเต็มไปด้วยความเบื่อหน่ายและเหยียดหยาม
“ฉันให้เวลาเธอมากแล้วนะ ฉันต้องได้เห็นแผนในสุดสัปดาห์นี้ ไม่อย่างนั้นเธอรอดูได้เลย!”
ตู๊ด—ตู๊ด—
เมื่อได้ยินเสียงวาง เธอก็วางโทรศัพท์อย่างขุ่นเคือง และรู้สึกประหม่ามากขึ้นเรื่อยๆ เธอรู้วิธีการของหลี่เฉิงหยาง
เดิมทียังอยากได้รับความไว้วางใจจากฮ่อหยุนเฉิงอีกหน่อย จากนั้นจึงแต่งงานเข้าบ้านตระกูลฮ่อได้สำเร็จ แล้วค่อยเจรจาต่อรองกับหลี่เฉิงหยาง
แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่านี่มันเป็นปัญหาใหญ่แล้ว
ไม่ได้ เธอรอไม่ได้แล้ว!
ตอนนี้ฮ่อหยุนเฉิงไม่อยู่บ้าน และห้องหนังสือก็ไม่ได้ล็อค ถ้าเกิดแผนงานอยู่ในห้องหนังสือ ตอนนี้ก็เป็นโอกาสที่ดีแล้ว
ถังรั่วอิงตัดสินใจเดินออกจากห้องไปอย่างเงียบๆ ที่ประตูห้องหนังสือ และหมุนลูกบิดอย่างนุ่มนวล
ไม่ได้ล็อค
เธอเดินเข้าไปในห้องหนังสือก่อนจะเห็นแฟ้มเอกสารสองสามเล่มบนชั้น 2 เธอหยิบมันลงมาและเริ่มพลิกดูอย่างรวดเร็ว แต่ไม่พบอะไรเลย
เหลือเวลาไม่มากแล้ว ฮ่อหยุนเฉิงบอกว่าวันนี้จะกลับมาทานอาหารกลางวัน…
ถังรั่วอิงที่นึกขึ้นได้ก็เร่งมือเร็วขึ้น เธอขมวดคิ้วและวิ่งไปที่ลิ้นชักหลังโต๊ะ และในที่สุดก็เห็นรายการเอกสารปิดผนึกที่ด้านล่างของลิ้นชักชั้นสาม
“แบบแผนสวนสนุกเป่ยไห่วาน”
นี่ไงล่ะ!
ดวงตาถังรั่วอิงเผยถึงความดีใจ และเธอก็รีบหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาถ่ายภาพเอกสาร
และขณะที่เธอจะส่งให้หลี่เฉิงหยาง มือของเธอก็ลอยอยู่ในอากาศ และไม่ได้กดปุ่ม “ส่ง” อยู่เป็นเวลานาน
ตอนนี้หลี่เฉิงหยางต้องการแผนนี้มาก แม้ว่าเขาจะใจร้อนแต่คงไม่มีทางทำอะไรเธอ ถ้าเธอส่งไปจะไม่เป็นการเสียดารต่อรองดีๆ ไปหรอกเหรอ?
ถังรั่วอิงลังเล เธอเม้มปากและวางโทรศัพท์แนบอก และตัดสินใจที่จะล้มเลิกความคิดนี้
เพียงแต่ว่าหลังจากนั้นไม่นาน เสียงของกุญแจที่หมุนตรงรูกุญแจก็ดังมาจากประตู
ถังรั่วอิงตกใจและรีบใส่เอกสารกลับเข้าซองเพื่อวางตำแหน่งเดิม ขณะที่ลิ้นชักปิดลง ฮ่อหยุนเฉิงก็เปิดประตูเข้ามาพอดี
ทั้งสองสบตากัน
ฮ่อหยุนเฉิงขมวดคิ้วเล็กน้อยและถามว่า “ถังถัง เธอมาทำอะไรที่ห้องหนังสือน่ะ?”
“อา…” ถังรั่วอิงปรับอารมณ์ของเธออย่างรวดเร็ว ก่อนจะยิ้มและซ่อนความตื่นตระหนกของเธอไว้ “วันนี้พยาบาลไม่มา ฉันอยู่บ้านเบื่อมากเลยคิดว่าจะมาทำความสะอาดห้องหน่อยน่ะ เพิ่งทำความสะอาดโต๊ะเสร็จพอดีเลย ถ้าพี่เฉิงไม่อยากให้ฉันอยู่ที่นี่ ฉันจะออกไปเดี๋ยวนี้แหละ”