ตอนที่ 393 การเกลี้ยกล่อมล้มเหลว
“…ให้ฉันคิดหน่อยแล้วกัน”
ยวี๋เงียบไปครู่หนึ่ง ไม่ได้เห็นด้วยกับคำพูดของซูฉิง แต่ก็ไม่ได้คัดค้าน เพียงแต่ขอเวลา
ตอนนี้ใจเธอมันวุ่นวายมาก อยากอยู่คนเดียวเงียบๆ
เมื่อซูฉิงเห็นอย่างนั้นก็ปล่อยและพูดเตือนเรื่องร่างกายเธอไปอีกหน่อยก่อนจะออกไป
…
พริบตาเดียวก็ถึงวันที่สิบสอง และเหลือเวลาอีกเพียงหกวันก็จะถึงวันหมั้นของฮ่อหยุนเฉิง
ถังรั่วอิงช่วงนี้อารมณ์ดีมาก หลังจากที่เธอให้รูปถ่ายแบบแผนกับหลี่เฉิงหยาง ชายคนนั้นก็ไม่โทรหาเธออีกเลย
ในตอนแรกถังรั่วอิงยังคงไม่สบายใจอยู่พักหนึ่ง กลัวว่าฮ่อหยุนเฉิงจะเจออะไรเข้า หรือไม่ก็หลี่เฉิงหยางจะจงใจเปิดเผยจุดประสงค์ที่อยู่เคียงข้างฮ่อหยุนเฉิง แต่เมื่อเวลาผ่านไป เธอก็เลิกระแวดระวังและจดจ่อกับงานหมั้นหมาย
จนถึงตอนนี้ ทุกอย่างก็เข้าที่เข้าทาง และเป็นถังรั่วอิงที่จัดเตรียมไว้แล้ว
ตอนนี้เธอสามารถพูดได้ว่าเธอมีความสุขมาก แค่ตั้งสมาธิรอวันที่เธอจะได้เป็นคุณนายตระกูลฮ่อ แต่นอกเหนือจากความสุขที่จะได้แต่งงานกับตระกูลที่ร่ำรวยแล้ว ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่ทำซูฉิงสับสนและหดหู่เล็กน้อย
นั่นคือท่าทีของฮ่อหยุนเฉิง
ฮ่อหยุนเฉิงใจดีและอ่อนโยนกับถังรั่วอิงตลอด แต่อย่างที่คนโบราณว่าไว้ ว่าเป็นแค่ความรู้สึก ทุกครั้งที่ถังรั่วอิงอยากทำอะไรกับเขา ฮ่อหยุนเฉิงก็มักจะหาเหตุผลมาเลี่ยงหรือไม่ก็ไม่แตะต้องเลย
เมื่อเวลาผ่านไป ถังรั่วอิงก็รู้สึกสงสัย
เธอไม่เชื่อว่าฮ่อหยุนเฉิงจะทนไม่แตะต้องเธอได้!
คืนนั้นถังรั่วอิงจงใจหยิบชุดนอนผ้าไหมเซ็กซี่ชุดหนึ่งและเดินไปที่ห้องนอนของฮ่อหยุนเฉิง ก่อนจะอาบน้ำในห้องน้ำด้วยท่วงท่าสง่างาม
เสียงน้ำไหลดัง ถังรั่วอิงกดเจลอาบน้ำช้าๆ ในหัวคิดว่าเดี๋ยวฮ่อหยุนเฉิงกลับมาเห็นเธอและจะมีท่าทียังไง
เป็นเสียงเปิดและปิดประตู ก่อนจะมีคนเดินเข้ามา
เมื่อฮ่อหยุนเฉิงกลับมาถึงคอนโด ก็เห็นว่าถังรั่วอิงไม่ได้อยู่ในห้องนั่งเล่น ทั้งยังมีเสียงแผ่วเบามาจากห้องนอน
เมื่อเขาเข้าไปในห้องนอน ก็ได้ยินเสียงน้ำใส และเสียงผู้หญิงร้องเพลง
ฮ่อหยุนเฉิงขมวดคิ้ว แต่ก็ยังลองเรียก “ถังถัง?”
ไม่นานเสียงของน้ำก็หยุดลง ประตูห้องน้ำเปิดออกและถังรั่วอิงก็เดินห่อผ้าขนหนูสีขาวผืนใหญ่ออกมา ในมือถือผ้าขนหนูผืนใหญ่เช็ดผมเปียกที่ปลายผมกำลังมีหยดน้ำ
“พี่เฉิง กลับมาแล้วเหรอ…”
เมื่อถังรั่วอิงเห็นฮ่อหยุนเฉิง เธอก็ยิ้มอย่างเขินอาย
ฮ่อหยุนเฉิงเพียงชำเลืองมองเธอก่อนจะละสายตาอย่างรวดเร็ว แต่เพียงครู่เดียว สายตาก็ไปหยุดที่ใบหน้าของถังรั่วอิง
“ถังถัง เธอมาอยู่นี่ได้ไง”
ถังรั่วอิง
เธอยิ้มและเดินไปข้างหน้าอย่างช้าๆ ใบหน้ายังคงแดงก่ำจากไอน้ำอุ่น “ฉันรอพี่อยู่เลย”
“เอาล่ะ ไปแต่งตัวเถอะ เดี๋ยวเป็นหวัด”
ไม่คิดว่าฮ่อหยุนเฉิงจะไม่ทำอะไรเลย ทั้งจะเอาเสื้อคลุมบนเตียงมาคลุมให้ ทว่าถังรั่วอิงกลับคว้าข้อมือของเขาไว้
“พี่เฉิง วันนี้ฉันซื้อน้ำหอมขวดใหม่มา แต่ฉันรอให้พี่กลับมาดมเลยนะ เลยมาอาบน้ำที่นี่เลย…”
ถังรั่วอิงมองเขาอย่างน่าสงสาร ทั้งยังเขย่งเท้ากระซิบข้างใบหูอีกคน “พี่คงไม่ถือสาฉันใช่ไหม?”
“จะเป็นไปได้ไงล่ะ”
ฮ่อหยุนเฉิงจับมืออีกคนที่อยู่ตรงเสื้อตัวเอง ขณะที่ถังรั่วอิงกำลังดีใจมากและคิดว่าในที่สุดฮ่อหยุนเฉิงก็กำลังจะลงมือทำ——
ทว่าอีกคนกลับเอามือเธอออก “ฉันแค่ห่วงว่าเธอจะเป็นหวัด และเธอไม่เคยเข้าห้องฉันด้วย ฉันเลยแค่สงสัยนิดหน่อย ไม่ถือสาเธอหรอก”
“พี่เฉิง…” ถังรั่วอิงขมวดคิ้วมองอีกคนราวกับไม่พอใจ จากนั้นก็เลิกคิ้วของยังคงเข้าใกล้ฮ่อหยุนเฉิงอย่างไม่ยอมแพ้
แขนเรียวทั้งสองโอบรอบคอของฝ่ายชายราวกับงูน้ำ ถังรั่วอิงพยายามอย่างดีที่สุดแล้ว และกลิ่นบนกายของเธอก็ส่งกลิ่นหอมทะลุจมูกฮ่อหยุนเฉิง นี่คือน้ำหอมที่เธอซื้อมาเป็นพิเศษสำหรับวันนี้
ใครจะไปรู้ว่าฮ่อหยุนเฉิงจะเบือนหน้าหนี เมินเฉยต่อร่างกายงดงามของหญิงสาวและเนินอกที่ปรากฏ และจะเอามือถังรั่วอิงออก
ถังรั่วอิงรีบพูดว่า “พี่เฉิง…พี่ปฏิเสธฉันหลายครั้งแล้วนะ แต่ตอนนี้เราจะหมั้นกันแล้ว ฉัน ฉันยินดีนะ”
ความหมายของประโยคนั้นชัดเจนมาก แต่ในเมื่อฮ่อหยุนเฉิงรู้อยู่แล้วว่าจุดประสงค์ของเธอคืออะไร ยิ่งมีแผนกับซูฉิงอยู่ก่อนแล้ว เขาจะให้ถังรั่วอิงประสบความสำเร็จได้ยังไง
“เอาล่ะ ถังถัง”
ฮ่อหยุนเฉิงยังคงก้าวถอยหลังและยกมือขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสร่างกายถังรั่วอิง
สุดท้ายเขาก็คว้าไหล่อีกคนด้วยมือทั้งสองข้าง และเอามือของผู้หญิงคนนั้นออกจากเขาก่อนที่ทั้งสองก็ออกห่างกันเพียงไม่กี่ก้าว
ถังรั่วอิงมองมาอย่างงงงวย ฮ่อหยุนเฉิงยิ้มเบาๆ ก่อนจะยกมือลูบใบหน้าด้านข้างของถังรั่วอิงและช่วยเธอจัดผมอย่างใส่ใจ ทั้งยังพูดด้วยอย่างอ่อนโยน
“ถังถัง ฉันรู้ว่าที่เธอจะสื่อนะ แต่ตอนนี้สุขภาพเธอยังไม่ดี และอย่างที่เธอพูด เรากำลังจะหมั้นหมายกัน จากนั้นเราก็จะเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย ถึงตอนนั้นฉันจะให้สิ่งที่เธอต้องการนะ”
คำพูดของฮ่อหยุนเฉิงมีหลักเหตุผล แต่ถังรั่วอิงกลับไม่เชื่อ ตอนนี้เธอแทบรอที่จะเป็นคุณนายฮ่อไม่ไหวแล้ว แค่ได้ทำอะไรกับฮ่อหยุนเฉิง ความปรารถนาของเธอก็จะเป็นจริง
“นี่มันก็ดึกมากแล้ว เธอควรรีบกลับไปพักผ่อนได้แล้วล่ะ”
ถังรั่วอิงที่ได้ยินคำพูดไล่เขก รอยยิ้มบนใบหน้าและแสงสว่างในดวงตาของเธอหรี่ลงเล็กน้อย เธอรู้สึกผิดหวังมาก แต่ก็ยังคงเอาเสื้อผ้าหันออกไป
โรงพยาบาล
อาการบาดเจ็บของเฉินจุนเหยียนเกือบจะหายแล้ว ในช่วงที่ซูฉิงดูแลเขา หมอก็ได้เข้ามาติดตามผลหลายครั้ง และสุดท้ายก็พูดอย่างโล่งอก “ตอนนี้คุณเฉินไม่มีอะไรมากแล้วนะครับ สามารถกลับไปทำงานได้ แต่ก็ยังต้องระวังด้วยนะครับ”
เมื่อเฉินจุนเหยียนได้ยินอย่างนั้นก็เผยรอยยิ้มออกมาในที่สุด
ซูฉิงเองก็โล่งใจ ก่อนจะยิ้มและพยักหน้า “ได้ค่ะหมอ ฉันเข้าใจแล้ว ฉันจะให้เขาคอยระวังเองค่ะ”
หลังจากพูดจบซูฉิงก็เดินตามหมอออกจากห้องเพื่อทำตามขั้นตอนการออกจากโรงพยาบาล และข่าวที่เฉินจุนเหยียนออกจากโรงพยาบาลในวันนี้ก็หลายสื่อรู้เข้าแล้ว
นักข่าวจำนวนมากนั่งอยู่ตรงทางเข้าโรงพยาบาลเพื่อรอเก็บข้อมูล เมื่อซูฉิงและเฉินจุนเหยียนปรากฏตัวนอกโรงพยาบาล พวกสื่อก็พากันสาดแฟลชที่ทั้งสองใกล้ชิดกันไม่หยุด