ตอนที่ 426 มีนายอยู่ก็ดีมากแล้ว
ฮ่อหยุนเฉิงคิดไม่ถึงว่าซูฉิงจะตื่นขึ้นมา พอเห็นเธอหันกลับมา เขาก็ตะลึง แต่ก็ตั้งสติได้ทัน
ซูฉิงเป็นภรรยาของเขา เขาจะร้อนตัวทำไม
พอคิดได้อย่างนั้นฮ่อหยุนเฉิงก็มีความกล้ามากกว่าแต่ก่อน เลิกผ้าห่มขึ้นแล้วสอดตัวเข้าไป มือก็ค่อยๆ กอดซูฉิงเบาๆ จากเดิมที่หัวของเธอนอนอยู่หมอนให้เข้ามานอนที่แขนของเขา
“ฉันแค่ไม่ได้อยู่ใกล้ชิดกับเธอนานแล้ว ก็เลยอยากกอดเธอบ้าง ซูฉิง…….”
“หืม”ซูฉิงเงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อย มองฮ่อหยุนเฉิงอย่างไม่เข้าใจ กำลังรอคำพูดของเขา
“นายเป็นอะไรหรอ”
“ไม่มีอะไรหรอก”ฮ่อหยุนเฉิงมองซูฉิง ด้วยสายตาอ่อนโยน แล้วก็ยิ่งกอดเธอแน่น “ฉันแค่คิดว่าจะต้องจัดงานหมั้นที่ใหญ่ที่สุดให้กับเธอ ครั้งที่แล้วฉันติดหนี้เธอ กับอะไรที่เป็นของเธอก็จะเอามาให้เธอ”
ซูฉิงก็เป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง พอได้ยินคำพูดหวานที่ออกมาจากใจ และยิ่งเป็นฮ่อหยุนเฉิงที่เป็นคนรักของเธอ
เธอก็ก้มหน้าลงเล็กน้อยแล้วก็ยิ้ม สองมือกอดเข้าที่เอวของฮ่อหยุนเฉิง “ฉันเข้าใจแล้ว ที่จริงฉันก็ไม่ได้สนใจของพวกนั้น ฉันแค่หวังว่างานหมั้นมีแค่นายก็พอแล้ว”
เธอกับฮ่อหยุนเฉิงอยู่ด้วยกัน ผ่านเรื่องราวมามากมาย ไม่ได้สนใจเรื่องเงินทองของนอกกายพวกนั้นแล้ว ขอเพียงแค่เธอได้อยู่กับฮ่อหยุนเฉิงก็พอใจแล้ว
………..
“อ้อ พรุ่งนี้ฉันจะต้องเข้าร่วมการแข่งขันออกแบบแฟชั่นปารีสแล้ว น่าจะประมาณห้าหกวัน ยังไม่รวมเวลากลับ นายก็รอฉันกลับมานะ”
หลังจากที่ไปลาคุณปู่ฮ่อที่บ้าน ซูฉืงที่กำลังนั่งอยู่บนรถก็เอ่ยกับฮ่อหยุนฉิง
ฮ่อหยุนเฉิงกำมือซูฉิงแน่น แล้วก็ปรับความเร็วของรถให้สบายขึ้น แล้วหันไปมองเธอ”ฉันไปกับเธอด้วยนะ”
ซูฉิงส่ายหน้า”ช่วงนี้งานที่บริษัทก็ค่อนข้างยุ่ง นายตั้งใจทำงานเถอะ รอฉันกลับมา ฉันรับรองว่าฉันจะไม่เป็นอะไร”
“แต่เธอ–“ฮ่อหยุนเฉิงลังเลอยู่ชั่วครู่ เรื่องงานนั้นเขาไม่ต้องห่วงเลย แต่เขาค่อนข้างเป็นห่วงอาการของซูฉิง “ฉันจำได้ว่าเธอเป็นโรคกลัวความสูงใช่มั้ย ตอนที่นั่งเครื่องบินแล้วเธอเกิดอาการกลัวขึ้นมาจะทำยังไง ฉันว่าฉันไปเป็นเพื่อนเธอดีกว่า จะได้ดูแลเธอด้วย”
ฮ่อหยุนเฉิงพูดจริงจัง ซูฮิงจ้องหน้าเขาแล้วยิ้มออกมา เธอพบว่ามีฮ่อหยุนเฉิงอยู่ข้างๆ ถือว่าเป็นความสุขที่สุดของเธอแล้ว
หลังจากที่ขับรถมาเรื่องเรื่อยๆ ฮ่อหยุนเฉิงขับรถมาจอดข้างถนน ซูฉิงก็เข้าไปใกล้แล้วจูบมุมปากของฮ่อหยุนเฉิง จับมือของเขากระซิบเสียงเบา”นายดีจัง”
จูบนี้เหมือนกับเป็นปุ่มสวิทซ์เปิดก็ไม่ปาน จุดไฟรักที่อยู่ในใจของฮ่อหยุนเฉิงขึ้นมา เขาจับเข้าที่เอวของเธอ แล้วก็ฉุดซูฉิงเข้ามาหา ทั้งสองอยู่ในระยะห่างกันแค่คืบ ฮ่อหยุนเฉิงจ้องตาซูฉิงไม่ถึงสองวินาที ก็จูบเข้ากับริมฝีปากบางของเธอ ราวกับเอาแรงแห่งรักและอารมณ์ใส่เข้าไปทั้งหมด
ซูฉิงก็จูบตอบไป มือก็ลูบไล้อยู่ท้ายทอยของฮ่อหยุนเฉิง จูบตอบเขาอย่างอ่อนโยน
แต่การจูบที่เร่าร้อนของฮ่อหยุนเฉิงครั้งนี้กลับไม่เร่งรีบ สามสิบวินาทีต่อมาก็ปล่อยซูฉิงให้เป็นอิสระแล้วก็พูดเสียงพร่า”ฉันแค่อยากให้เธอรับรู้ว่า ไม่ว่าตอนไหน ขอแค่ฉันทำได้ ฉันก็จะคอยอยู่เคียงข้างเธอ และจะไม่ให้เธอได้รับอันตรายใดๆ”
“ฉันรู้แล้ว “ซูฉิงยิ้มให้ เรื่องที่จะยอมให้ฮ่อหยุนเฉิงไปปารีสกับเธอด้วยนั้นก็ไม่พูดอีก ก็แสดงว่าตกลงแล้ว
เช้าวันต่อมาเวลาสิบโมงเช้า ฮ่อหยุนเฉิงเรียกคนให้เตรียมเครื่องบินส่วนตัวมาจอดที่สนามบิน หลังจากตรวจสอบกับซูฉิงเรียบร้อยแล้วก็บินไปด้วยกัน
“ครั้งนี้…….คงจะไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นนะ”
เพราะเกิดอุบัติเหตุบนเครื่องบินเมื่อครั้งก่อน ซูฉิงแม้จะบอกว่าตนไม่กลัวความสูง แต่ก็รู้สึกเป็นกังวลอยู่ในใจ
ฮ่อหยุนเฉิงพูดปลอบ “ไม่หรอก มีฉันอยู่เคียงข้างเธอ เธอจะไม่เป็นอะไร”
ได้ยินอย่างนั้นซูฉิงก็พยักหน้า จากเมืองA ไปปารีสใช้เวลาเจ็ดชั่วโมง ตอนแรกทั้งหมดนั้นก็ปกติ แต่หลังจากสองชั่วโมงต่อมา เครื่องบินเกิดการสั่นสะเทือน ซูฉิงก็รู้สึกหวั่นใจ
เธอกำเสื้อแน่น เพราะกำแรงจนนิ้วโป้งกลายเป็นสีแดง
ฮ่อหยุนเฉิงสัมผัสได้ถึงความผิดปกติของซูฉิง เหมือนเขาจะรู้โอบเอาเธอเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด แล้วเรียกแอร์โฮสเตสเข้ามาหา แล้วหันไปถาม:”เกิดอะไรขึ้น”
“เมื่อสักครู่เครื่องบินตกหลุมอากาศ แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้ว ท่านประธานฮ่อกับคุณซูไม่ต้องเป็นกังวลไปค่ะ”
ฮ่อหยุนเฉิงพยักหน้า แล้วก็ลูบไหล่ซูฉิงเบาๆ เป็นการปลอบให้เธอวางใจ มือก็ลูบขึ้นลูบลงที่หลังของเธอ
ซูฉิงที่หน้าซีดเผือด เห็นได้ชัดว่าเธอมีปฏิกิริยากับการสั่นสะเทือนเมื่อกี้ ทำให้เธอนึกถึงเครื่องบินตกเมื่อครั้งก่อน ครั้งนั้นก็เพราะหลุมอากาศ และรุนแรงกว่าครั้งนี้ด้วย
เธอรู้สึกหวาดกลัว
พอคิดถึงตอนนี้ เธอก็กำแขนเสื้อของฮ่อหยุนเฉิง นิ่งเงียบอยู่นานถึงได้พูดว่า:”ไม่…….ไม่เป็นอะไรจริงๆ นะ ”
“ไม่เป็นไร “ฮ่อหยุนเฉิงกระซิบพูดเบาๆ กับซูฉิง
เขารู้ว่าซูฉิงกลัวอะไร และก็รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ แต่ว่าขอแค่เขาอยู่ข้างๆ ซูฉิง แม้จะต้องแลกด้วยชีวิตก็จะไม่ให้เธอได้รับบาดเจ็บแม้แต่ปลายนิ้ว
“เมื่อกี้แอร์โฮสเตสบอกแล้วว่า เจอแค่หลุมอากาศเล็กน้อย ตอนนี้ไม่เป็นอะไรแล้ว อีกสักครู่พวกเราก็จะถึงปารีสแล้ว เธอวางใจเถอะ…..เชื่อฟังนะ”
ฮ่อหยุนเฉิงที่คอยปกป้อง ความรู้สึกตื่นตระหนกและหวาดผวาทั้งหมดนั้น
ในที่สุดก็ค่อยๆ หายไป เธอผละตัวออกจากอ้อมกอดของฮ่อหยุนเฉิงแล้วหันหน้าไปทางอื่น
ฮ่อหยุนเฉิงรู้ว่าซูฉิงเขินอาย เขาเลยไม่พูดอะไร
ต่อมาเครื่องบินก็นิ่งมาตลอดการเดินทาง และหกชั่วโมงต่อมา ทั้งสองก็มาถึงปารีส
พอออกจากสนามบิน ก็มีคนมารอรับฮ่อหยุนเฉิงกับซูฉิง มาช่วยทั้งสองยกกระเป๋าเดินทางขึ้นท้ายรถ ฮ่อหยุนเฉิงก็จับมือซูฉิงแน่น มือของเธอนั้นยังเย็นอยู่
“ฉันมีวิลล่าที่ฝรั่งเศส และได้สั่งให้คนทำความสะอาดแล้ว ตอนที่เธอเข้าร่วมการแข่งขันออกแบบแฟชั่นปารีส พวกเราจะไปพักอยู่กันที่นั่น”
“โอเค”
ซูฉิงพยักหน้า จากนั้นทั้งสองก็มาถึงวิลล่า ซูฉิงมองเห็นห้องที่ตกแต่งก็เผยแววตาเซอร์ไพรส์ออกมา
เป็นบ้านสไตล์ยุโรป แต่ว่าไม่ใช่โทนสีขาวดำ ภายในห้องรับแขกตกแต่งด้วยโซฟาน่ารัก ดูก็รู้ว่าตั้งใจซื้อมา
“ห้องนี้สวยมากเลย “ซูฉิงเดินเข้ามา ก็อดที่จะลูบไปมาอย่างสนใจ ฮ่อหยุนเฉิงยิ้มมองตามหลังซูฉิง
ซูฉิงหยุดแล้วหันมายิ้มพูดกับฮ่อหยุนเฉิง :”ฉันชอบบ้านหลังนี้มาก ตกแต่งได้สวยงามมาก”
“ถ้าเธอชอบ พวกเราจะมาพักกันที่นี่ทุกปีเลย”