ตอนที่ 433 หลินหนานฟื้นเเล้ว
หลินหนานที่เพิ่งฟื้น ร่างกายยังอ่อนแออยู่มาก แต่พอเห็นใบหน้าที่ซีดเซียวของยวี๋น่นาเมื่อเปรียบเทียบกับเมื่อก่อน เขาก็อดไม่ได้ที่จะเป็นทุกข์มากขึ้น เขายกมือขวาขึ้นลูบไล้ใบหน้าของยวี๋น่า
ช่วงนี้ยวี๋น่าหลับไม่ได้ลึกมาก และรู้สึกได้ว่ามีคนกำลังแตะต้องเธอ เธอตื่นขึ้นในความงุนงงและเงยหน้าขึ้นจนสบตาของหลินหนานเข้า
เมื่อหลินหนานเห็นยวี๋น่าตื่นขึ้น มุมปากของเขากระตุกเล็กน้อยเพราะพยายามยิ้ม
ยวี๋น่าตกตะลึงไปครู่หนึ่ง ไม่อยากเชื่อสายตา ทั้งยังขยี้ตาราวกับจะพิสูจน์ ขณะที่สายตาค่อยๆ ชัดเจนจนเธอมั่นใจว่าทุกอย่างตรงหน้าไม่ใช่ความฝันก่อนเผยรอยยิ้ม แม้แต่เสียงพูดยังกลายเป็นเสียงสั่น
“หลินหนาน
…หลินหนาน นายจริงเหรอ ในที่สุดนายก็ฟื้นแล้ว ดีจังเลย…”
ยวี๋น่าทั้งตื่นเต้นและดีใจ ในที่สุดเธอก็รอจนมาถึงวันที่หลินหนานฟื้นแล้ว แต่ก็มีอารมณ์ที่หลากหลายมากขึ้น เธอตาแดงน้ำตาคลอเบ้าก่อนจะปิดปากไว้เพื่อไม่ให้ร้องไห้ออกมา
“ฟื้นแล้วล่ะ” หลินหนานพยักหน้าเบาๆ เขาอยากยื่นมือออกไปเช็ดน้ำตาอีกคน แต่เขาอ่อนแรงจนยกมือขึ้นสูงไม่ได้
เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องสงบสติอารมณ์และพูดกับยวี๋น่าว่า “น่าน่า ผมขอโทษ ผม…ผมทำให้พี่เป็นห่วง ตอนนี้ผมไม่เป็นไรแล้ว อย่าร้องไห้เลยนะ ผมว่าพี่ผอมลงกว่าเก่าไปเยอะเลยนะ”
ยวี๋น่ารีบเช็ดน้ำตาด้วยหลังมือ หลินหนานอดหัวเราะไม่ได้ แต่ตอนนี้ใบหน้าของเขายังซีด เป็นเวลานานขนาดนี้ แม้ว่าเขาจะอยู่ในอาการโคม่า แต่เขาก็ยังแตกต่างจากพวกเจ้าชายนิทรา บางครั้งเขาได้ยินสิ่งที่คนข้างนอกพูด แต่เขาไม่สามารถตื่นได้ก็เท่านั้น
ตัวอย่างเช่น เขาได้ยินว่ายวี๋น่าบอกว่าเธอจะแต่งงานกับเขา
หลินหนานได้ถามเรื่องนี้ออกไป เขามองไปที่ยวี๋น่า กวักมือเรียกให้เธอนั่งข้างเขา ก่อนจะลูบหลังมืออีกคนแล้วถามอย่างช้าๆ “น่าน่า…ผมได้ยินพี่พูดตอนที่ผมยังไม่ฟื้นว่าถ้าผมตื่น พี่จะแต่งงานกับผม เป็นเรื่องจริงใช่ไหม?”
ยวี๋น่าอึ้ง เธอไม่คิดว่าหลินหนานจะได้ยิน แม้ว่าเธอจะไม่ได้คิดจะคืยคำ แต่เธอก็มีประสบการณ์มากมายระหว่างทั้งสอง และมันก็เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะยอมรับมันได้ทันที
ยวี๋น่านิ่ง หัวใจเธอยุ่งเหยิง เธอหันหน้าหนีเบาๆ และใช้หลังมือเช็ดน้ำตาบนใบหน้า
“ฉัน…ฉันแค่พูดไปเฉยๆ ใครบอก ใครบอกว่าจะแต่งงานกับนายกัน”
แม้ว่าเธอจะพูดอย่างนั้น ทว่าหลินหนานกลับไม่โกรธเลยสักนิด เขาชอบยวี๋น่ามานานพอ และมองออกว่าคำพูดไหนที่เธอพูดเป็นเรื่องจริงหรือไม่จริง
“น่าน่า ผมดีใจมากนะที่พี่ยอมรับคำขอแต่งงานของผม พี่ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวผมออกจากโรงพยาบาล ผมจะจัดงานแต่งงานให้อย่างยิ่งใหญ่ ทำให้พี่เป็นผู้หญิงที่มีความสุขที่สุดในโลก —พี่อยากได้งานแต่งแบบไหน?”
หลินหนานสาบานว่านี่เป็นข่าวที่ดีที่สุดที่เขาได้ยินหลังจากฟื้น ราวกับว่าเขากลัวว่ายวี๋น่าจะคืนคำ ตอนนี้เขาคิดถึงฉากแต่งงานแล้วด้วยซ้ำ
แต่สำหรับฉากนั้น ยวี๋น่ายังคงรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย แม้ว่าเธอได้ตัดสินใจทำตามสัญญา แต่เธอก็ยังต้องการเวลาที่จะยอมรับหรือรักหลินหนานได้อย่างเต็มที่
“นาย—นายพักผ่อนก่อนเถอะ รอนายหายดีแล้วเราค่อยว่ากัน นาย นายเองก็รู้ว่าฉันต้องการเวลาใช่ไหม? แต่ฉันไม่คืนคำหรอก ไม่ต้องห่วงนะ”
ยวี๋น่าครุ่นคิดเป็นเวลานาน แต่เธอยังคงพูดแบบเดิม เธอพูดไปก็จัดการผ้าห่มให้อีกคนด้วย
หลินหนานพยักหน้าเบาๆ เขาเข้าใจยวี๋น่า ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ยวี๋น่าตกลงเรื่องนี้ สำหรับเขานั้นแปลกใจมาก ในเมื่อจะช้าจะเร็วก็ได้แต่งงานกับเธอ รออีกหน่อยจะเป็นอะไรไปล่ะ
เมื่อแม่หลินเดินมาถึงประตู เธอก็ได้ยินเสียงจากข้างใน เธอเปิดประตูเข้าไปก็เป็นตอนที่หลินหนานคุยกับยวี๋น่าเสร็จพอดี ดวงตาเธอเบิกกว้าง น้ำตาไหลออกมาอย่างรวดเร็ว และซุปในมือเธอก็เกือบร่วงไปอยู่ที่พื้นเพราะตื่นเต้น
“หนาน หนานหนาน? ลูกฟื้นแล้ว? ในที่สุดลูกก็ฟื้นแล้ว”
ราวกับว่าแม่หลินแทบไม่เชื่อสายตา แม่หลินรีบเดินไปที่เตียงโดยไม่สนอคติที่มีต่อยวี๋น่าด้วยซ้ำ หลินหนานที่ได้ยินเสียงก็หันมองอีกคน และเมื่อสบตาเข้ากับแม่หลินก็พยักหน้าเบาๆ
“แม่ ผมฟื้นแล้วครับ”
หัวใจของแม่หลินที่แกว่งไปมาในที่สุดก็ได้ปลดปล่อยแล้ว แต่หลังจากผ่อนคลายลงก็รู้สึกตื่นเต้นและเศร้าไปด้วยจนเธออดร้องไห้ไม่ได้
“ลูกนี่ ลูกช่างโง่จริงๆ…ทำแม่กลัวแทบแย่” แม่หลินสะอื้นขณะพูด แต่หลังจากที่สงบลงก็ยิ้มอีกครั้ง “เอาล่ะๆๆ ไม่เป็นไร ฟื้นแล้วก็ดีแล้วล่ะ”
หลังจากนั่งไปได้ไม่นาน แม่ยวี๋เองก็มาถึง แม้ว่าเธอจะรู้สึกเสียใจกับการที่แม่หลินดูถูกเหยียดหยามของลูกสาว แต่เธอก็ยังชอบหลินหยางมาก
ทันทีที่เข้าไปก็เห็นแม่หลินนั่งถัดจากหลินหนาน และหลินหนานก็ฟื้นแล้ว แม่ยวี๋อึ้งไปครู่หนึ่งก่อนจะเผยรอยยิ้มออกมาอย่างรวดเร็ว และเดินเข้าไปหาด้วยท่าทางโล่งใจ
“หลินหนาน หลินหนานฟื้นแล้วเหรอ? เยี่ยมไปเลย ฟื้นก็ดีแล้วล่ะนะ…หลังจากที่เธอฟื้น ลูกสาวฉันอาจจะทุกข์น้อยลง ทุกวันนี้เธอคงไม่รู้ว่าเขาวิ่งเข้าวิ่งออกเพราะเธอ แม้แต่—”
แม่ยวี๋ที่ต้องการบอกว่าแม่หลินทำยังไงกับยวี๋น่า ก็เห็นยวี๋น่าขมวดคิ้วเห็นได้ชัดว่าบอกเธอว่าอย่าพูดถึงเรื่องนั้น
แม่ยวี๋คิดอยู่สักพักก่อนจะตัดสินใจที่จะไม่บอกหลินหนานในตอนนี้ แม่หลินที่ถูกแม่ยวี๋แขวะก็สำลัก แต่ก็ไม่พูดอะไร ในเมื่อลูกชายเธอฟื้นแล้ว ก็ต้องไว้หน้าคนบ้านตระกูลยวี๋สักหน่อยเลยไม่พูดอะไรดีกว่า
“คุณน้า ผมเองก็ทราบ ช่างนี้…ทำให้น่าน่าเป๋วงห่วงและเหนื่อยใจจริงๆ”
เมื่อหลินหนานพูดเช่นนั้นก็อดมองยวี๋น่าไม่ได้ ดวงตาเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยน
แม่ยวี๋ที่เห็นหลินหนานเป็นแบบนั้นก็รู้สึกอิ่มเอมใจ ใบหน้าอดเผยความพึงพอใจออกมาไม่ได้ ไม่ว่าแม่ของหลินหนานจะเย่อหยิ่งแค่ไหน ลูกชายของหล่อนก็ยังชอบลูกสาวของเธออยู่ดีไม่ใช่?
ขณะที่กำลังคุยกันอยู่ จู่ๆ โทรศัพท์มือถือของยวี๋น่าก็ดังขึ้นจากในกระเป๋า เธอที่ได้ยินเสียงก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา และส่งสัญญาณเบาๆ ให้แม่ทั้งสองและหลินหนานว่าจะออกไปรับโทรศัพท์
เธอก้มลงมองขณะเดินออกไปข้างนอก เป็นเบอร์แปลกไม่เคยเห็นมาก่อน
หลังจากปิดประตูห้องแล้ว ยวี๋น่าจึงรับสาย “ฮัลโหล สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าใครคะ?”
ไม่คิดเลยว่าโทรศัพท์
ทางด้านนั้นจะเงียบอยู่นาน ไม่พูดอะไรสักคำเดียว ยวี๋น่าขมวดคิ้วและคิดว่ามันช่างแปลกจริง