“มีอะไร”ฮ่อหยุนเฉิงคิ้วขมวดเล็กน้อย หลินเหยียนเฟิงเป็นผู้ช่วยที่ดีที่สุดของเขา ถ้าหากไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้น เขาคงจะไม่ติดต่อฮ่อหยุนเฉิงมาตอนนี้หรอก
หลินเหยียนเฟิงพูดด้วยน้ำเสียงร้อนใจมาตามสาย”ท่านประธานครับ ท่าไม่ดีแล้วครับ วันนี้ผมให้คนไปดูถังรั่วอิง กลับพบว่าเธอไม่ได้อยู่ในเรือนจำแล้ว น่าจะหนีออกจากเรือนจำแล้ว!”
“อะไรนะ!”ฮ่อหยุนเฉิงเลิกคิ้วขึ้นปมทันที แม้แต่เสียงก็ติดโมโห แล้วก็หันไปสบตาซูฉิง จากนั้นก็จัดการอารมณ์ให้คงที่ แล้วถามเสียงขรึม:”หนีไปนานรึยัง”
หลินเหยียนเฟิงก็ไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น แต่ก็ตอบไปตามความจริง :”ผมได้ให้คนไปถามผู้คุมแล้วครับ พวกเขาบอกว่าเมื่อสามวันก่อน ถังรั่วอิงก็ได้หายตัวไปแล้ว ตอนนี้ไม่รู้ว่าถังรั่วอิงอยู่ที่ไหนครับ”
แววตาของฮ่อหยุนเฉิงก็พลันเปลี่ยนเคร่งขรึมขึ้นมาทันที แล้วก็พูดเสียงขรึม:”ฉันไม่สนว่าจะใช้วิธีไหน ตอนนี้รีบส่งคนออกตาหาเธอ จะต้องตามหาถังรั่วอิงกลับมาให้ได้!”
ซูฉิงที่ได้ฟังก็ยิ่งรู้สึกแปลกใจ หลังจากที่ฮ่อหยุนเฉิงวางสายไปแล้ว ก็เลิกคิ้วถาม:”มีอะไรหรอ ถังรั่วอิงหายตัวไปหรอ”
ฮ่อหยุนเฉิงพ่นลมหายใจออกมา แล้วพยักหน้า:”ใช่ หลินเหยียนเฟิงให้คนไปดูถังรั่วอิงที่เรือนจำ แต่เธอหายตัวไปตั้งแต่สามวันก่อนแล้ว”
พอได้ยินอย่างนั้นซูฉิงก็คิ้วขมวด ทำหน้าตกใจไม่อยากจะเชื่อ แต่ว่าไม่นานก็สงบลง
ถังรั่วอิงก็เป็นแค่หมากตัวหนึ่งของหลี่เฉิงหยาง ในเมื่อเธอถูกจับเข้าคุกไปแล้ว ถ้าหากอยากจะหนีออกมา ถ้าไม่มีใครช่วยเธอก็คงจะหนีออกมาไม่ได้
เธอมองฮ่อหยุนเฉิงที่โมโหอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังใจเย็นพูดปลอบใจอีกฝ่าย”นายอย่าพึ่งร้อนใจไป อยู่ที่เมือง A ถังรั่วอิงมีที่พึ่งคนเดียวคือหลี่เฉิงหยาง และที่เรือนจำนั้นเขามีการเปลี่ยนกะการทำงาน ถ้าหากไม่มีคนช่วยเธอจะต้องออกมาไม่ได้แน่ แต่ว่าตอนนี้ดูท่า คนคนนั้นน่าจะไม่ใช่หลี่เฉิงหยาง เพราะสำหรับถังรั่วอิงแล้วก็ไม่มีค่าอะไรสำหรับเขาแล้ว นายลองให้หลินเหยียนเฟิงลองไปถามดูว่าช่วงนี้มีใครเคยเข้าไปในเรือนจำมั้ย บางทีก่อนที่ถังรั่วอิงจะแหกคุก เธอมีท่าทีผิดปกติรึเปล่า”
ถึงแม้เป็นแค่ความคิด แต่ซูฉิงก็ยังคิดไม่ออกว่า นอกจากหลี่เฉิงหยางแล้ว ยังมีใครที่จะใช้ถังรั่วอิงได้………ทั้งเหนื่อยและมีความเสี่ยงช่วยเธอแหกคุก แล้วมีจุดมุ่งหมายอะไร
มันแปลกมาก
ฮ่อหยุนเฉิงที่อารมณ์เย็นลง เขาคิดว่าซูฉิงพูดก็มีเหตุผล แต่ตอนนี้สิ่งที่สำคัญมากที่สุดก็คือเธอต้องเข้าร่วมการแข่งขันการออกแบบ เขาไม่อยากให้ซูฉิงเครียดเพราะเรื่องพวกนี้
ฮ่อหยุนเฉิงค่อยๆ คลายคิ้วที่ขมวดลง แล้วก็พูดเอาใจ:”เอาละ เธอไม่ต้องเครียดเรื่องพวกนี้หรอก ฉันให้หลินเหยียนเฟิงไปตามหาร่องรอยของถังรั่วอิงแล้ว หน้าที่สำคัญของเธอตอนนี้ก็คือรวบรวมสมาธิ เข้าร่วมการแข่งขันการออกแบบ แล้วคว้ารางวัลมาให้ได้”
ซูฉิงอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ โผเข้าไปกอดฮ่อหยุนเฉิงแล้วกระซิบเบาๆ :”เอาละๆ ฉันรู้แล้ว นายไม่ต้องเป็นห่วงนะ ฉัน…….”
ฮ่อหยุนเฉิงชอบน้ำเสียงอ้อนอย่างนี้มาก ตอนแรกที่รู้สึกโมโหก็ค่อยๆ หายไป เขาค่อยๆ เชยคางของซูฉิงขึ้น จากนั้นก็จูบลงไปบนริมฝีปากหยักของซูฉิง จากนั้นก็ลูบหน้าของเธอเบาๆ
“เธอเป็นภรรยาของฉัน ฉันไม่เป็นห่วงเธอแล้วจะให้เป็นห่วงใครกัน เรื่องก่อกวนใจพวกนั้นปล่อยให้เป็นหน้าที่ฉันเถอะ ต่อไปเธอก็เตรียมมีความสุขก็พอแล้ว”
ซูฉิงชำเลืองตามองต่ำลงแล้วก็มองหน้าฮ่อหยุนเฉิง ในที่สุดก็พยักหน้า ฮ่อหยุนเฉิงมองหน้าเธอ แล้วก็อดไม่ได้ที่จะจูบเธออีก
ที่นี่เป็นปารีส คนฝรั่งเศสนั้นชื่นชอบความโรแมนติก พวกเขาสามารถทำเรื่องน่าอายได้ ไม่ต้องสนใจว่าคนอื่นจะมองไม่ดี เรื่องที่จะจูบกันหรือแสดงความรักกัน
และตอนนี้ทั้งสองคลอเคลียดันอยู่นั้น โทรศัพท์ของซูฉิงก็ดังขึ้นมา
“เดี๋ยวก่อน “ซูฉิงที่เหมือนกับตื่นจากฝันแล้วผลักตัวฮ่อหยุนเฉิงออก ทำเป็นมองไม่เห็นเขาที่ทำหน้าไม่สบอารมณ์ แล้วล้วงเอาโทรศัพท์ออกมาดู แล้วมองเหล่มองฮ่อหยุนเฉิง
“เป็นมิเชล”
“งั้นเธอก็กดรับเถอะ “ฮ่อหยุนเฉิงบอก ไม่รู้ทำไม เขาคิดว่าคำพูดของซูฉิงเหมือนจะสื่ออะไร
ซูฉิงกดรับสาย แล้วก็เอาแนบหู:”มิเชล มีเรื่องอะไรหรอ”
“โอ๊ย ซูฉิง”เสียงหวานของหญิงสาวดังมาตากสาย “คืออย่างนี้นะ พรุ่งนี้เป็นวันเกิดของฉัน พ่อของฉันจะจัดงานวันเกิดให้ฉัน ฉันอยากจะถามเธอว่าเธอกับหยุนเฉิงพอมีเวลามั้ย มาร่วมงานด้วยกันเถอะ พวกเราไม่ได้เจอกันนานแล้ว พ่อของฉันบ่นว่าคิดถึงหยุนเฉิงแล้ว”
มิเชลที่ตอนนี้นั้นเอ่ยแต่ชื่อฮ่อหยุนเฉิง บางทีเพราะคนฝรั่งเศสจะเป็นมิตร แต่ซูฉิงก็รู้ว่าเธอนั้นคิดอะไรกับฮ่อหยุนเฉิง ได้ยินมิเชลพูดมาอย่างนี้ เธอก็รู้สึกไม่ชอบใจ
เธอเงียบอยู่ชั่วครู่ กำลังหาข้อข้างปฏิเสธ กลับได้ยิน
มิเชลพูดว่า:”เธอไม่ตอบ งั้นก็แสดงว่าตกลงนะ พรุ่งนี้สองทุ่มเจอกัน~”
“ก็ได้ พวกเราจะไปร่วมงาน”
หลังจากวางสายไปแล้ว ซูฉิงก็ถอนหายใจออกมาอย่างระอา ฮ่อหยุนเฉิงมองหน้าเธอแปลกๆ ก็ถามอย่างสงสัย:”มีอะไรหรอ หล่อนโทรมาเรื่องอะไรหรอ”
“มิเชลบอกว่าพรุ่งนี้เป็นงานวันเกิดของหล่อน เดอโกลจะจัดงานเลี้ยงวันเกิดให้เธอ เธออยากเชิญให้พวกเราไปร่วมงานด้วย
ที่โทรหาซูฉิง แต่ความจริงแล้วมีจุดมุ่งหมายอะไรนั้น ต่างก็รู้ดี
ซูฉิงถถอนหายใจ มองหน้าฮ่อหยุนเฉิง แล้วก็รู้สึกใจชาขึ้นมา แล้วอดที่จะต้องใจพูดว่า:”ดื่มสุราแต่ไม่สนใจรสชาติของสุรา…….”
ฮ่อหยุนเฉิงได้ยินเธอพูดอย่างนั้น ก็รู้ว่าหญิงสาวอารมณ์เสียเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่รู้สึกรำคาญ แต่ยิ่งชอบท่าทางงอย่างนี้ของซูฉิง
แล้วก็หัวเราะออกมาเดินเข้ามากอดเข้าที่ไหล่
ของซูฉิง :”หึงหรอ เธอวางใจเถอะ แม้จะต้องไปร่วมงานวันเกิดของหล่อน ฉันก็จะไปกับเธอด้วย จะไม่แลหญิงอื่นแน่นอน”
“โอเคๆ “ซูฉิงที่ถูกเดาใจถูก ก็รู้สึกเขิน แล้วทำเป็นผลักฮ่อหยุนเฉิงออกเบาๆ “ใครบอกนายกัน พวกเรารีบกลับกันเถอะ”
บ้านของเดอโกล
หลังจากที่วางสายไปแล้ว มิเชลที่ตอนแรกยิ้มก็หุบยิ้มลงทันที หลับตาลง รู้สึกไม่ชอบใจ ถึงแม้จะให้ซูฉิงกับฮ่อหยุนเฉิงมาร่วมงานวันเกิดของเธอ แต่พอนึกถึงวันพรุ่งนี้พวกเขาควงคู่เข้ามาร่วมงาน เธอก็รู้สึกทุกข์ใจ
ใช่แล้ว ฮ่อหยุนเฉิงเป็นรักแรกพบของเธอ มิเชลมั่นใจมาก
แต่ผู้ชายคนนี้ทำไมต้องเป็นคู่หมั้นของซูฉิงด้วยนะ
ตั้งแต่เธอได้เจอกับฮ่อหยุนเฉิงครั้งที่แล้ว มิเชลก็ไม่ลืมเขาเลย ในมหาลัยก็ไม่ใช่ไม่มีผู้ชายคนจีน แต่เธอไม่เคยเจอคนที่หล่อเหมือนฮ่อหยุนเฉิงเลย