นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น ตอนที่ 451 แบบร่างสำหรับการแข่งขัน
หลิวเสี่ยงหนิงจ้องมองดูสร้อยเส้นนั้นด้วยความรู้สึกประหลาดใจ ครั้งที่แล้วเธอก็ถูกนายหน้าคนกลางพาไปเจรจากันที่ผับบาร์และได้พบกับคุณฉิน ซึ่งชายคนนี้ก็ได้แสดงท่าทีใกล้ชิดเธอเกินกว่าปกติ
หลิวเสี่ยงหนิงเป็นคนโผ่งผางและตรงไปตรงมา เมื่อเธอเห็นว่าสิ่งใดไม่ถูกต้องเธอก็จะพูดออกมาโดยไม่แคร์ใคร เพราะในความจริงแล้วเธอก็ไม่ได้อยากจะใกล้ชิดสนิทสนมกับผู้ชายมากเกินกว่าเพื่อนร่วมงาน หลังจากที่ฉินชั่งเซียวเลิกตามรังควานเธอไปได้สองวัน ในวันนี้เธอเองก็คาดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะตามมาหาเธอถึงโรงพยาบาล
สถานการณ์และการปรากฏตัวของชายตรงหน้ากำลังทำให้เธออึดอัดและไม่เป็นตัวของตัวเองเป็นอย่างมาก
“ขอบคุณสำหรับความเป็นห่วงของคุณฉิน แต่ว่าฉัน…”หลิวเสี่ยวหนิงลังเลใจที่จะพูดออกมา ในตอนนี้เธอกำลังคิดหาวิธีปฎิเสธฉินชั่งเซียว เธอตัดสินเงยหน้าขึ้นและจ้องไปทางเฉินจุนเหยียนเพื่อขอความช่วยเหลือ
เฉินจุนเหยียนเองก็รู้เรื่องราวของฉินชั่งเซียวมาพอสมควร เพราะในวันที่ไปผับเขาเห็นฉินชั่งเซียวกำลังลงมือซ้อมผู้หญิงคนหนึ่งอยู่
แต่เขาคาดไม่ถึงว่าฉินชั่วเซียวจะหลงใหลในตัวหลิวเสี่ยวหนิง
เมื่อสายตาคมประสายสายตาเข้ากับดวงหน้าหวานที่กำลังร้องขอความช่วยเหลือ เฉินจุนเหยียนจึงเดินตรงไปข้างหน้า และยื่นมือไปแตะบนไหล่ข้างซ้ายของฉินชั่วเซียวพลางพูดว่า “คุณฉิน ตอนนี้เสี่ยวหนิงกำลังพักผ่อนอยู่และที่นี่ก็เป็นห้องพักผู้ป่วย ไม่ใช่สถานที่ที่คุณจะมาวุ่นวาย ฉันคิดว่าคุณเคยรีบกลับไป ถ้าเกิดว่าเรื่องนี้มันแพร่สะพัดออกไปมันคงจะไม่ดีต่อทุกคน ”
เมื่อฉินชั่งเซียวได้ยินดังนั้นดวงตาเข้มก็เต็มไปด้วยความโกรธ เฉินจุนเหยียนมันเป็นใครถึงกล้ามาสั่งเขา ไม่ว่าเขาจะไปโผล่ตัวอยู่ที่ไหนมันก็จะมาคอยขวางและแส่เรื่องของเขาอยู่เสมอ
ฉินชั่งเซียวเหลือบสายตามองเฉินจุนเหยียนเพียงหางตาและพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน “เฉินจุนเหยียน ฉันชักจะแปลกใจแล้วสิ ไม่ว่าฉันจะไปที่ไหนมักจะเจอกับนายที่นั่นหรือนายกำลังแอบติดตามฉันอยู่งั้นเหรอ? แม้กระทั่งฉันมาเยี่ยมเสี่ยวหนิงฉันก็ยังเจอนายที่นี่ นายเป็นอะไรกับเสี่ยวหนิงงั้นเหรอ เป็นพ่อแม่เธอหรือเป็นแฟนของเธอ? ถ้าไม่ใช่ทั้งสองอย่างตามที่ฉันพูดไปนายก็ควรอย่าเอาตัวเข้ามายุ่งเรื่องของฉัน นายต่างหากที่ควรออกไป”
หลิวเสี่ยวหนิงขมวดคิ้วหมุ่น เธออยากจะเอ่ยปากโต้กลับอีกฝ่ายที่พูดจาไม่น่ารักกับเฉินจุนเหยียน แต่เขากลับชิงพูดตัดหน้าเธอซะก่อน “เสี่ยวหลิว ฉันว่าเธอควรบอกให้คุณฉินออกไปล้างปากให้สะอาดก่อน เพราะห้องพักผู้ป่วยไม่ใช่ใครที่ไหนก็จะเข้ามาได้ตามอำเภอใจ”
“นาย!”
เมื่อฉินชั่งเซียวได้ยินประโยคนั้นก็เกิดบันดาลโทสะขึ้นมาอย่างหนัก เขาจ้องมองเฉินจุนเหยียนด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยไฟแค้นและกำหมัดแน่น แต่เฉินจุนเหยียนเองก็หาเกรงกลัวไม่ เขามองสบตาคมนั้นกลับไปอย่างไม่มีใครยอมใคร
ผู้จัดการส่วนตัวของเฉินจุนเหยียนรีบเดินเข้ามายับยั้งเหตุการณ์ร้อนระอุ หญิงสาวร่างเล็กจัดการดึงแขนของฉินชั่งเซียวให้ออกไปจากห้องพักผู้ป่วย “คุณฉินคะ ตอนนี้พี่หลิวต้องการพักผ่อน คุณควรกลับไปก่อนนะคะ
การไล่ฉินชั่งเซียวกลับไปนั้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย กว่าผู้จัดการร่างเล็กจะเจรจาให้อีกฝ่ายกลับไปได้ก็เล่นเอาเหนื่อยแทบแย่ เธอพยายามหลอกล่อคุณฉินให้ออกไป และเมื่อเธอสามารถพาอีกฝ่ายออกมาจากห้องพักผู้ป่วยได้แล้วเธอก็ได้จัดการลงกลอนประตูห้องทันที
สีหน้าพะอืดพะอมของหลิวเสี่ยวหนิงกำลังส่งยิ้มอ่อนๆมาทางเฉินจุนเหยียนพลางเอ่ยขอบคุณชายหนุ่มที่ให้การช่วยเหลือ “ขอบคุณพี่เฉินที่ช่วยฉัน”
“ไม่เป็นไร”
เฉินจุนเหยียนถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่พลางเดินเข้าไปนั่งข้างๆเตียงของหลิวเสี่ยงหนิง “อันที่จริงมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก แต่ฉันคิดไม่ถึงว่าฉินชั่งเซียวจะหลงใหลในตัวเธอจนตามมาถึงที่นี่ ฉันรู้ดีว่าพวกนักแสดงหน้าใหม่ถูกพาไปที่ผับบาร์เพื่อทานข้าวและดึงดูดนักลงทุนมาร่วมงานมันเป็นเรื่องปกติ แต่ทางที่ดีเธอควรจะเว้นระยะห่างกับผู้ชายคนนี้ให้มากๆ เขาเป็นคนที่มีฐานะร่ำรวยและเจ้าชู้ประตูดินอยู่พอตัว”
หลิวเสี่ยวหนิงพยักหน้ารับคำ ที่จริงเธอเองก็ระมัดระวังตัวอยู่ตลอด แต่พอเธอเจอตามติดแบบไม่ทันตั้งตัวแบบนี้ทำให้เธอไม่รู้จะเอ่ยคำปฎิเสธอีกฝ่ายอย่างไร
“ได้ค่ะ ฉันเข้าใจแล้ว ฉันจะระวังตัวให้มาก แต่เหมือนฉันจะเคยได้ยินมาว่าพี่เฉินเคยมีเรื่องกับคุณฉินมาก่อนใช่ไหมคะ?”
เฉินจุนเหยียนถอดถอนหายใจยาวและพูดขึ้นด้วยเสียงราบเรียบ “ไม่มีอะไรมากหรอก เมื่อก่อนฉันเคยไปร่วมทานข้าวกับคณะผู้ใหญ่และบังเอิญไปเจอเขากำลังลงมือซ้อมผู้หญิง ฉันโมโหมากเลยต่อยกันไปหนึ่งยก”
หลิวเสี่ยงหนิงตกใจเป็นอย่างมากเมื่อได้ยินเรื่องเล่า เธอจ้องมองไปยังเฉินจุนเหยียนด้วยอาการตกตะลึงพลางยิ้มขบขันออกมา “ฉันนึกภาพที่พี่เฉินต่อยกับคนอื่นไม่ออกจริงๆ ฉันคิดมาตลอดว่าพี่เป็นคนที่อบอุ่นและอ่อนโยน”
เสียงหัวเราะน้อยๆของหญิงสาวบนเตียงทำให้บรรยากาศที่อึมครึมค่อยๆดีขึ้นเป็นอย่างมาก เพราะในตอนนี้เฉินจุนเหยียนก็เผลอลอบยิ้มออกมาเพียงเล็กน้อย
หลังจากรู้ข่าวว่าซูซานเป็นคนลงมือออกแบบร่างผลงานนั้นเอง ซูฉิงก็ตั้งใจแก้ไขแบบงานของเธออย่างละเอียดเช่นกัน และหญิงสาวยังถือโอกาสวาดแบบร่างตามที่เธอได้พูดกับคามิลไว้
ซูฉิงถอนหายใจออกมาทันทีเมื่อวาดแบบร่างงานเสร็จเรียบร้อย เธอใช้เครื่องพิมพ์พิมพ์รูปแบบร่างออกมา และโทรศัพท์หาคามิลทันที
เมื่อคามิลเดินทางมาหาซูฉิง ซูฉิงก็รีบเอาถุงพลาสติกที่ใส่แบบร่างชุดไว้ส่งให้คามิลพลางกำชับอีกฝ่ายว่า “ถ้าอู๋ชิงหร่านมาหาเธอเพราะเรื่องปัญหาของชุดอีก เธอจะต้องเอาแบบร่างนี้ไปวางไว้ในที่ที่คนสังเกตเห็นมัน เธอจะต้องทำให้อู๋ชิงหร่านนำมันกลับไปให้ได้ เข้าใจไหม?”
คามิลเหลือบสายตามองแบบร่างในถุง เธอพยักหน้ารัวๆด้วยความดีใจ “ฉันเข้าใจแล้ว!”
และเป็นอย่างที่ซูฉิงคาดเดาเอาไว้ ช่วงบ่ายของวันต่อมาอู๋ชิงหร่านก็ได้มาที่ห้องทำงานของลีโอและถามถึงแบบร่างชุดว่าดำเนินการแก้ไขไปอย่างไรบ้างแล้ว
เมื่อคามิลเห็นการปรากฏตัวของอู๋ชิงหร่านเธอก็ดีอกดีใจเป็นอย่างมาก เธอรีบนำเอาแบบร่างกระดาษให้อีกฝ่ายดูทันที “คุณดูนี่สิ นี่คืองานแบบร่างงานแรกที่ฉันออกแบบ เข็มขัดยาวถูกประดับไปด้วยเครื่องเพชรสีเดียวกัน บริเวณข้อมือถูกเย็บด้วยด้ายสีทองเปล่งประกายระยิบระยับ คุณลองพิจารณาดูก่อนนะถ้าคุณยังมีส่วนไหนที่ไม่พอใจล่ะก็สามารถบอกฉันได้เลย ฉันจะแก้ไขให้”
อู๋ชิงหร่านหยิบเอาแบบร่างกระดาษขึ้นมาดูด้วยความตื่นเต้น แต่แท้จริงแล้วหญิงสาวแค่แสร้งทำมันออกเท่านั้น เธอหยิบแบบร่างกระดาษขึ้นมาดูด้วยสายตาวาบวับและในขณะนั้นสายตาคมดันเหลือบไปเห็นบางสิ่งบางอย่างที่ถูกซ่อนวางไว้บนชั้นวางของคามิล ซึ่งนั้นคือแบบร่างกระดาษของชุดสีแดงสวยงาม
——แบบร่างนั้นมันเป็นผลงานของซูฉิง
เมื่อหญิงสาวได้เห็นเป้าหมายใหม่เธอก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก แต่เธอก็ไม่สามารถแสดงอาการออกมาได้มากนัก เธอต้องทำเป็นสนอกสนใจกับแบบร่างที่อยู่ในมือเธอตอนนี้ให้มาก “เธอออกแบบได้ดีมากเลยนะ ฉันชอบมาก งั้นก็ทำตามแบบที่เธอร่างมาได้เลยนะ”
เธอค่อยๆวางแบบร่างกระดาษลงบนโต๊ะและสอดส่องสายตาไปยังแบบร่างกระดาษอีกใบที่เธอหมายปอง เธอแกล้งทำเป็นแปลกใจเมื่อเห็นถุงพลาสติกใสที่ถูกใส่แบบร่างชุดกระโปรงยาวสีแดงอันงดงาม ใช่จริงๆด้วยนี่มันคือแบบร่างครั้งที่แล้วที่คามิลเคยพูดกับเธอไว้
อู๋ชิงหร่านแกล้งเผยรอยยิ้มตกอกตกใจออกมาทันทีเมื่อเห็นแบบชุดนั้น “ว้าว คามิล นี่เป็นผลงานแบบร่างที่ลีโอจะส่งเข้าแข่งขันใช่ไหม? มันสวยมากๆเลย!”
คามิลแสดงท่าทีตกใจและรีบแย่งชิงถุงพลาสติกที่ใส่แบบร่างชุดใบนั้นกลับมา เธอเหลือบมองอู๋ชิงหร่านเพียงแวบหนึ่ง และจึงค่อยๆวางถุงพลาสติกที่ใส่แบบชุดอันสวยงามนั้นไว้ในลิ้นชักและจัดการล็อกกุญแจลิ้นชักไว้