นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น ตอนที่ 528 เจอเข้ากับพายุทอร์นาโด
เมื่อได้ยินอย่างนั้น สายตาของทุกคนก็หันไปมองด้านนอก และซูฉิงก็มองเห็นบางอย่างที่อยู่ไม่ไกลออกไป
ในขณะนั้นเอง ท้องฟ้าเริ่มมืดครึ้มอย่างรวดเร็ว และลมทะเลก็แรงขึ้นกว่าเดิม ซูฉิงกะพริบตาก่อนจะเกิดเสียงฟ้าร้อง
คือพายุทอร์นาโด!
ซูฉิงตระหนักได้ทันทีว่าไม่แปลกเลยที่ตอนบ่ายท้องฟ้าจะมืดครึ้มและมีเมฆมาก
ในช่วงเวลานั้นเองที่ซูฉิงเกิดรู้สึกเสียใจที่ไม่ได้ตรวจพยากรณ์อากาศตอนจะออกมา
ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่โชคร้ายขนาดนี้ เป็นอย่างที่ตัวเองบอกจริงด้วย พอได้มาทะเลก็เกิดเรื่องทันที
ในขณะนั้นเอง เสียงบนเรือสำราญก็ดังขึ้น โดยส่งสัญญาณให้ทุกคนเข้าไปในห้องโดยสารเพื่อหาที่หลบภัย
ทั้งสามคนไม่กล้าที่จะโอ้เอ้และรีบเข้าไปในเรือ
ผู้คนจำนวนมากรวมตัวกันในเรือ ต่างคนต่างมีท่าทีกังวล และบางคนก็เริ่มบ่น
เสียงฟ้าร้องดังอยู่ข้างนอก และเสียงฝนที่ตกลงบนดาดฟ้าก็ค่อยๆ ดังชัดเจน สีหน้าของซูฉิงเป็นกังวลเล็กน้อย เธอพิงอ้อมแขนของฮ่อหยุนเฉิงและไม่พูดอะไร
ท่าทีของฮ่อหยุนเฉิงเย็นชา นี่เป็นอุบัติเหตุที่ไม่มีใครคาดคิด และเนื่องจากผลกระทบของพายุทอร์นาโด ทำให้อุปกรณ์สื่อสารไม่สามารถใช้งานได้ พวกเขาจึงทำอะไรไม่ได้นอกจากจะรออยู่ตรงนี้
ตัวเรือเริ่มสั่นเล็กน้อย และเสียงประกาศจากเรือก็เริ่มพูดติดอ่าง ทั้งหมดนี้เป็นการประกาศถึงพายุทอร์นาโดที่ใกล้จะเกิดขึ้น
ผู้คนบนเรือเริ่มกระสับกระส่ายและเสียงบ่นก็ดังขึ้นเรื่อยๆ
“ช่วยด้วย! ฉันจะออกไป! ฉันจะออกไป!”
“เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ยังไง! ซวยจริงๆเลย”
“ฉันคงไม่ตายใช่ไหม ทำยังไงดีล่ะ…”
“ฉันยังไม่อยากตาย! ฉันยังไม่แก่เลยนะ! จะมาตายไม่ได้นะ!”
เสียงดังกึกก้องไปทั่วห้องโดยสารในทันที ซูฉิงจับมือของฮ่อหยุนเฉิง แต่ฝ่ามือของเธอกลับเย็นยะเยือก
เธอจำฉากหลังจากช่วงเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายตอนอยู่ท่ามกลางทะเลกับฮ่อหยุนเฉิงได้
เรื่องนั้นแม้จะคิดในตอนนี้ก็ยังน่ากลัว แต่ซูฉิงไม่คิดเลยว่าจะเกิดเรื่องเร็วขนาดนี้
“หยุนเฉิง…” สีหน้าของซูฉิงดูจริงจัง และบีบมือฮ่อหยุนเฉิงไว้แน่น
“ไม่เป็นไร ฉันอยู่นี้ ฉันจะปกป้องเธอเอง” ฮ่อหยุนเฉิงกดจูบขมับของซูฉิงและเอ่ยปลอบโยน
เสียงหนักแน่นของเขาทำให้ซูฉิงรู้สึกอบอุ่น
ตราบใดที่มีเขาอยู่ เธอก็ไม่กลัวอะไรทั้งนั้น
สีหน้าของโจเซฟที่อยู่ด้านข้างดูแย่ขึ้นไปอีก เขามองออกไปนอกหน้าต่างอย่างกังวล และรักษาร่างกายให้นิ่งในขณะตัวเรือแกว่งไปมา ก่อนจะหันมองซูฉิง “ซูฉิง ผมก็จะปกป้องคุณด้วย”
อาจเพราะบรรยากาศในตอนนี้ตึงเครียด ซูฉิงจึงไม่ได้ยินเสียงสั่นเทาของโจเซฟ
ในความเป็นจริง โจเซฟไม่ได้กลัวอะไรเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้มากนัก แต่สิ่งที่ทำให้เขากลัวจริงๆ คือเขาว่ายน้ำไม่เป็น หากเรือสำราญล่ม เขาเองก็จะตกอยู่ในอันตรายจริงๆ
พนักงานบนเรือเริ่มแจกเสื้อชูชีพให้ผู้โดยสารทุกคน แต่การกระทำแบบนี้ทำให้คนที่กังวลอยู่แล้วยิ่งไปกันใหญ่
“ให้ฉันออกไป! ฉันจะออกไปจากที่นี่! ฉันยังไม่อยากตายอยู่ที่นี่!” ผู้หญิงคนหนึ่งกรีดร้องพร้อมทั้งเอื้อมมือออกไปผลักลูกเรือ
“ให้คนมาปกป้องฉัน! และพาฉันออกไปจากที่นี่ซะ!”
ข้อมือของลูกเรือได้รับบาดเจ็บจากที่ถูกผู้หญิงคนนั้นจับเอาไว้ แต่ยังอดทนและปลอบผู้หญิงคนนั้น “คุณผู้หญิง อย่าตื่นกลัวไปเลยนะครับ ตอนนี้ที่นี่เป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุดแล้ว คุณสวมเสื้อชูชีพก่อนนะครับ”
“อยู่ที่นี่อย่างนั้นเหรอ? อยู่ที่นี่เพื่อรอความตายเนี่ยนะ? บนเรือไม่ใช่ว่ามีเรือชูชีพอยู่หรือไง รีบให้ฉันออกไปจากที่นี่สิ!” ผู้หญิงคนนั้นตะโกนและท่าทางตีโพยตีพายของเธอทำให้ผู้คนมากมายรอบตัวถูกเธอเกลี้ยกล่อมไปด้วย
“แต่…” ลูกเรือหน้าซีด เรื่องแบบนี้เขาเองก็ไม่อยากเจอเหมือนกัน
แต่ผู้หญิงคนนั้นก็ยังคงไม่ยอมและจะบุกเข้าไปในห้องกัปตัน
ซูฉิงที่ถูกรบกวนก็เส้นเลือดปูดโปน เธอก้าวไปด้านหน้าและคว้าคอเสื้อคอผู้หญิงคนนั้น
“หุบปาก!” ซูฉิงตะคอกอย่างเย็นชา
“เธอจะทำอะไรน่ะ!” หญิงสาวตกใจ แต่พอเห็นว่าซูฉิงเป็นผู้หญิงก็เริ่มเดือดมากขึ้น
“ถ้าเธอยังโวยวายเสียงดังอีกล่ะก็ ฉันไม่รังเกียจที่จะทำให้เธอหุบปากนะ” ใบหน้าซูฉิงไร้ความรู้สึก
“ไปให้พ้น! ฉันไม่อยากตายอยู่ที่นี่นะ ฉันต้องการเรือชูชีพ ฉันอยากออกจากที่นี่เดี๋ยวนี้!” ผู้หญิงคนนั้นตะโกนเสียงดัง
“ออกไป? เอาสิ อยากได้เรือชูชีพก็ไปนั่งเลย อีกเดี๋ยวพายุทอร์นาโดก็มาแล้ว เรือสำราญลำนี้หรือเรือชูชีพของเธอ เรือลำไหนจะพลิกคว่ำก่อนกัน”
ซูฉิงปล่อยหญิงสาวอีกคนอย่างสงบและควบคุมตนเองได้ “ประตูอยู่ทางนั้น ออกไปสิ”
เมื่อได้ยินอย่างนี้ ร่างของหญิงสาวก็สั่นสะท้านไปชั่วขณะ เมื่อเห็นท่าทีก็ยังอยากจะโต้แย้งอะไรบางอย่าง ซูฉิงที่เห็นจึงแสยะยิ้มและคว้าผมของอีกคนก่อนลากไปที่ประตู
ผู้หญิงคนนั้นกรีดร้องอย่างบ้าคลั่งในทันที “แกจะทำอะไร! ช่วยด้วย!”
“ไม่ใช่ว่าอยากออกไปเหรอ?” ซูฉิงกดใบหน้าอีกคนกับกระจก ให้เธอได้เห็นฟ้าแลบฟ้าร้องด้านนอก
ผู้หญิงคนนั้นตกใจจนตัวสั่นเหมือนนกกระทาและไม่กล้าพูดอะไรอีก
ซูฉิงปล่อยมือและกวาดสายตามองคนอื่นๆ “ยังมีใครที่อยากจะออกไปอีกไหม?”
ทันทีที่พูดออกไป ผู้คนที่ส่งเสียงก็เงียบไป
“ใครจะไม่อยากออกไป! หรืออยากจะรอตายอยู่ตรงนี้กัน?” ใครบางคนไม่เห็นด้วยและพูดอีกครั้ง
“หรือที่พวกเธอโวยวายเพราะอยากเอาตัวรอดใช่ไหม? มีแรงโวยวายอยู่นี่ สู้เก็บแรงคิดหาวิธีจัดการกับพายุดีกว่า”
เมื่อพูดจบ ซูฉิงก็หันไปมองลูกเรือที่อยู่ข้างๆ และถามถึงการเตรียมการ
ลูกเรือปาดเหงื่อเย็นเฉียบบนหน้าผากและกล่าวว่า “เรือลำนี้กำลังพยายามออกจากใจกลางพายุให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับ ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ เราจะปล่อยเรือชูชีพลงทันทีและจัดให้ทุกคนอพยพกันครับ”
ทันทีที่พูดออกไปก็ไม่มีคนพูดอะไรอีก ทุกคนต่างพากันสงบนิ่ง
พายุทอร์นาโดทำให้เรือสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ซูฉิงขมวดคิ้ว และได้รับการปกป้องอย่างแน่นหนาจากอ้อมแขนฮ่อหยุนเฉิง
ทุกคนต่างพากันสั่นสะท้านด้วยความกลัว ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ที่อาการสั่นนั้นลดลง แต่ในวินาทีถัดมา ก็มีประกาศที่ทำให้ทุกคนใจกระตุก
ห้องโดยสารเกิดการรั่วไหล!
ทุกคนที่เพิ่งสงบก็เริ่มตะโกนโวยวาย ในขณะนั้นเองลูกเรือก็จัดให้ทุกคนขึ้นเรือและเรือชูชีพก็เตรียมพร้อมที่จะลงทะเล
ซูฉิงเช็ดน้ำฝนบนใบหน้าและเม้มริมฝีปากบางแน่น
“ซูฉิง…ไม่ต้องกลัวนะ” เสียงของโจเซฟดังมาจากด้านข้าง ใบหน้าของเขาซีดอย่างน่ากลัว และมองมหาสมุทรอย่างไม่สบายใจ
ซูฉิงเงยหน้ามองโจเซฟ กลับเห็นว่าสายรัดบนเสื้อชูชีพของเขาขาด
“ทำไมเสื้อชูชีพของคุณถึงพังล่ะ?” ซูฉิงรู้สึกประหลาดใจ
คลื่นลูกใหญ่ขนาดนี้ หากตกลงไป เสื้อชูชีพจะมีผลอย่างมาก แต่เสื้อชูชีพที่พังแล้วจะยิ่งไปกันใหญ่
“ผม…ผมบังเอิญทำพังน่ะ” โจเซฟขมวดคิ้ว เขาจะตรงที่สายที่ขาดไว้แน่น ในใจก็กำลังเตรียมใจ
เขามองทะเลที่มืดมิดและได้แต่รู้สึกเวียนหัว
“คุณว่ายน้ำไม่เป็นเหรอ?” ซูฉิงที่เหมือนเห็นอาการผิดปกติของโจเซฟจึงลองถาม
โจเซฟที่โดนจี้จุดก็ตัวแข็งทื่อ
และในขณะนั้นเองก็มีเสื้อชูชีพยื่นมาทางเขา โจเซฟเงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจ ก็เจอเข้ากับใบหน้าของฮ่อหยุนเฉิง
“ใส่ซะ”