นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น ตอนที่ 555 เป็นกังวล
ฮ่อหยุนเฉิงกอดซูฉิงอยู่นานถึงได้ปล่อย แต่เขาก็ยังคงเงียบไม่พูด มีเพียงสายตาขรึมมองซูฉิงด้วยความรัก
สายตาอย่างนี้ทำให้ซูฉิงแก้มแดงระเรื่อ ถึงแม้ว่าเธอจะใช้ชีวิตอยู่กับฮ่อหยุนเฉิงนานแล้ว แม้แต่เรื่องอย่างว่าก็เคยทำมาแล้ว แต่เรื่องที่มาจูบกันที่บริษัททำให้ซูฉิงเขิน
เธอสัมผัสได้ถึงสายตาของคนอื่น เลยยกมือตบหน้าอกฮ่อหยุนเฉิง
ท่าทางออดอ้อนทำให้ฮ่อหยุนเฉิงรู้สึกดีมาก เขาอ้อมมือไปกอดเอวของซูฉิง
“ไม่ใช่บอกว่าจะไปกินข้าวหรอ”ซูฉิงโน้มตัวไปข้างหลังพร้อมกับถอยหลัง กลัวว่าฮ่อหยุนเฉิงจะจูบตนอีก
ฮ่อหยุนเฉิงเลิกคิ้ว ก็แล้วส่งสายตาให้กับซูฉิงรู้ดี
ซูฉิงเห็นอย่างนั้นก็อดที่จะหัวเราะออกมา รู้ว่าฮ่อหยุนเฉิงยังคิดเรื่องโจเซฟพูดเมื่อสักครู่อยู่
“วันนี้เขามาที่บริษัทอย่างกะทันหัน ฉันก็ปฏิเสธเขาไปอย่างเด็ดขาดแล้ว ที่เมื่อเขาทำเมื่อกี้ น่าจะเพราะเห็นนาย”
ซูฉิงที่ทั้งพูดทั้งจัดเนกไทให้กับฮ่อหยุนเฉิง จากนั้นก็เงยหน้ามองฮ่อหยุนเฉิง
“ต่อไปอยู่ห่างเขาไว้ “ถึงแม้จะรู้ว่าซูฉิงรู้สึกยังไงกับตน แต่ฮ่อหยุนเฉิงมองโจเซฟทีไรก็รู้สึกขัดหูขัดตา
รอให้เขามีเวลาจะต้องหาโอกาสส่งไอ้คนนี้กลับประเทศไป
“โอเค รู้แล้ว พวกเรารีบไปกันเถอะ”ซูฉิงยิ้มกว้างออกมาพร้อมกับเอามือคล้องแขนฮ่อหยุนเฉิงเดินออกไปข้างนอก
ฮ่อหยุนเฉิงได้จองร้านอาหารไว้แล้ว ทั้งสองก็นั่งรถไปด้วยกัน
ระหว่างทางมือของฮ่อหยุนเฉิงมีเอกสารที่ยังจัดการไม่เรียบร้อย ซูฉิงเห็นอย่างนั้นก็เลยไม่รบกวนเขา
แต่พอนึกถึงเรื่องวันนี้ตอนบ่าย ผลปรากฏว่าพอเขาเห็นท่าทางกังวลของเธอก็คว้าเธอเข้าไปกอด
“เป็นอะไรหรอ”ฮ่อหยุนเฉิงเอ่ยถามพร้อมกับมือกดที่หน้าผากของซูฉิงเพื่อให้หว่างคิ้วของเธอคลายออก
ซูฉิงที่อยู่ในอ้อมกอดของเขาก็ขยับอยู่ในท่าสบาย หัวก็พิงไปกับไหล่ของเขา “วันนี้ฉันไปเจอเฟิงรั่วเหยียน คนที่เมื่อก่อนถูกนายจับตัวไปที่เป็นลูกนอกสมรสของตระกูลเฟิง”
พอได้ยินชื่อนี้ฮ่อหยุนเฉิงก็ตากระตุกเล็กน้อย
เมื่อก่อนหลังจากที่ตู้เจ๋อหรานจับตัวของเฟิงรั่วเหยียนไปแล้ว ฮ่อหยุนเฉิงก็ได้ส่งคนไปตามดูทั้งสองคน แต่คิดไม่ถึงว่าเพียงไม่นานก็ถูกจับได้และยังถูกสลัด
แต่เพราะว่าทั้งสองกับตนไม่มีเรื่องเกี่ยวข้องหรือผลกระทบต่อกัน ฮ่อหยุนเฉิงเลยไม่สนใจ เพียงแค่คิดไม่ถึงว่าตอนนี้จะได้เจอกัน
“เจอเขาที่ไหน”
ฮ่อหยุนเฉิงถามเสียงขรึม เหมือนนึกอะไรได้”เขากับเธอพูดอะไรกัน
ซูฉิงก็เลยเล่าเรื่องของวันนี้ให้ฮ่อหยุนเฉิงฟัง แต่ยิ่งเธอพูดหน้าของเธอก็ยิ่งเคร่งเครียด
“ฉันคิดว่าเฟิงรั่วเหยียนคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดา ห้ามประมาทเขาเด็ดขาด”
สตาร์เอ็นเตอร์เทนเมนท์เป็นบริษัทที่เธอสร้างขึ้นมานานแล้ว หลายปีมานี้มีบทบางในแวดวงบันเทิงมาก บริษัทฮ่าวห้าวของเฟิงรั่วเหยียนที่ก่อตั้งได้ไม่นานยังกล้ายโสโอหังมาแข่งกับเธอ
ถ้าเขาไม่ใช่คนโง่ก็คงต้องมีคนที่อยู่เบื้องหลังใหญ่โตแน่
“ดูท่าแล้ว ต่อไปน่าจะได้เจอกับเขาบ่อยๆ “สิ่งที่ซูฉิงเกลียดมากที่สุดคือความยุ่งยาก และตอนนี้ความยุ่งยากทั้งเล็กและใหญ่จะต้องทยอยตามมาแน่
“ถ้าหากเขาอยากเจอเธอหรืออะไรยังไง จะต้องบอกฉันนะ”
ฮ่อหยุนเฉิงนั้นไม่ได้สนใจอะไรเฟิงรั่วเหยียนเลย แต่ถ้าหากเขาคิดอะไรกับซูฉิง เขาจะต้องจัดการอย่างถึงที่สุดแน่
“รู้แล้วน่า”ซูฉิงพยักหน้า ดูท่าต่อไปจะต้องมีเรื่องสนุกรอเธออยู่
…………..
หลังจากทานมื้อค่ำเสร็จแล้ว ทั้งสองก็กลับมาที่วิลล่า ซูฉิงนั้นมีความสุข เธอที่เตะรองเท้าส้นสูงออกแล้วกระโดดขึ้นหลังของฮ่อหยุนเฉิง
“ฉันเหนื่อยแล้ว นายแบกฉันขึ้นไปหน่อยนะ”ซูฉิงที่กอดคอฮ่อหยุนเฉิงพร้อมกับร้องเพลงอย่างสบายอารมณ์
ฮ่อหยุนเฉิงก็ตามใจเธอ แบกซูฉิงเดินไปทางห้องนอนอย่างมั่นคง
ปกติแล้วซูฉิงมักจะถูกฮ่อหยุนเฉิงอุ้ม น้อยมากที่จะถูกแบกอย่างนี้ ซูฉิงรู้สึกแปลกใหม่ หน้าเธอที่แนบไปกับหูของฮ่อหยุนเฉิง เหมือนกับเจออะไร แล้วก็เอ่ยขึ้นอย่างแปลกใจ
“หยุนเฉิง นายเจาะหูด้วยหรอ”
พอซูฉิงพูดออกไปฮ่อหยุนเฉิงที่ได้ยินถึงกับตัวแข็งทื่อ
เหมือนกับค้นพบแผ่นดินใหม่ก็ไม่ปาด ซูฉิงค่อยๆ เล่นหูของเขาเบาๆ เพียงแค่หูที่เจาะเป็นรูไม่ได้เจอะที่ติ่งหูแต่เจอะที่กระดูกอ่อน
ฮ่อหยุนเฉิงเหมือนจะหมดความอดทนจนในที่สุดก็ถอนหายใจออกมา
“เอ่อ…..มันเป็นเรื่องอุบัติเหตุน่ะ”
“อุบัติเหตุงั้นหรอ “ซูฉิงได้ยินอย่างนั้นก็ตกใจ ยังคิดว่าฮ่อหยุนเฉิงจะไม่ยอมบอกเรื่องนี้ อยากจะพูดเปลี่ยนเรื่อง แต่เธอกลับได้ยินฮ่อหยุนเฉิงเล่าออกมา
“ถือว่า…….เป็นการกระทำต่อต้าน”
ในสายตาของคนอื่น ได้เกิดในตระกูลฮ่อ ถูกอบรมเลี้ยงดูอย่างดีตั้งแต่เด็กจนมีแต่คนรู้สึกอิจฉา แต่ฮ่อหยุนเฉิงไม่เคยรู้สึกโชคดีเลย
ตอนที่เขายังเล็กก็ถูกเลี้ยงดูอย่างเคร่งครัด จนทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองมีชีวิตไม่เหมือนกับคนอื่น
ฮ่อหยุนเฉิงไม่ใช่เกิดมาแล้วเป็นคนเย็นชาไร้ความรู้สึกตั้งแต่เกิด แต่เขาเลือกที่จะต่อต้าน
แต่มีเพียงครั้งนี้ครั้งเดียว
ตอนนี้ฮ่อหยุนเฉิงนึกถึงตัวเองในตอนนั้น ก็รู้สึกขำตัวเอง
แต่ก็ตั้งแต่ตอนนั้นนิสัยของฮ่อหยุนเฉิงก็เริ่มเย็นชาลงเรื่อยๆ เขาเลยแบบสายตาของคนรอบข้าง
จนเขาได้เจอกับซูฉิง เหมือนดวงอาทิตย์ที่สาดส่องมาละลายหัวใจที่เย็นชาของเขา
ซูฉิงมองหูฮ่อหยุนเฉิงที่แดงขึ้นมาเล็กน้อย ก็ขยับเข้าไปใกล้ๆ พร้อมกับพ่นลมหายใจอุ่นออกมา
“ที่แท้ประธานฮ่อของเราก็มี………วัยคึกคะนองกับเขาด้วย………”
ที่จริงแล้วซูฉิงเหมือนจะรู้ว่าอารมณ์ของฮ่อหยุนเฉิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย
ที่จริงเธอคิดไม่ถึงว่าจะมีช่วงเวลาอย่างนี้ด้วย
พอคิดถึงว่าเด็กที่ยังไม่โตไปเจาะหูแต่หน้าตาเย็นชา ซูฉิงก็ถึงกับกลั้นขำไม่อยู่
ฮ่อหยุนเฉิงที่ได้ยินเสียงซูฉิงแอบหัวเราะก็คิ้วกระตุก แล้วนำตัวเธอวางลง
ซูฉิงเอามือปิดปาก นี่เป็นครั้งแรกที่หาเรื่องทำให้ฮ่อหยุนเฉิงยอมแพ้
“หยุดพูดเลย ฉันอยากจะดูจริงๆ นะ “ซูฉิงที่ไม่เหมือนกับพูดล้อเล่น
ท่าทางได้ใจทำให้ฮ่อหยุนเฉิงคิดว่าตนนั้นรักและตามใจซูฉิงเกินไปแล้ว
แต่ว่าตอนนี้ซูฉิงที่พอเห็นหน้าของฮ่อหยุนเฉิง ในหัวของเธอก็มีแต่ภาพที่เขาใส่ต่างหู ก็รู้สึก……..แบดบอยดีนะ
ในหัวที่มีแต่ภาพนั้นทำให้ซูฉิงนึกอะไรขึ้นมาได้ ก็เผยแววตาเจ้าเล่ห์ออกมา เธอยื่นมือแตะที่หน้าอดของฮ่อหยุนเฉิงพร้อมกระซิบเบาๆ
“พี่ชาย ดูท่าหุ่นคุณไม่เลวเลยนะ”
ทว่าพอซูฉิงพูดจบ ฮ่อหยุนเฉิงก็รู้ทันความคิดของซูฉิง วินาทีต่อมาก็อุ้มเธอในท่าเจ้าสาวขึ้น