นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น ตอนที่ 586 ไม่มีโอกาสเสียใจภายหลังแล้ว
จูบที่ได้กลิ่นเหล้าทำให้จินจิ่นหรานคิ้วขมวดเล็กน้อย เขายกมือขึ้นจับที่ไหล่ของหลิวเสี่ยวหนิง แต่เธอกลับเร็วกว่าเข้ามากอดจินจิ่นหราน
“เสี่ยวหนิง……..”
จินจิ่นหรานส่งเสียงพูดเบาๆ อยากจะทำให้หลิวเสี่ยวหนิงนิ่ง
บรรยากาศโดยรอบเต็มไปด้วยห้วงแห่งรัก ลมหายใจที่อุณหภูมิเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้แก้มเธอแดงระเรื่อ เธอมองจินจิ่นหรานที่อยู่ตรงหน้าด้วยแววตาเต็มไปด้วยเสน่หา
จินจิ่นหรานลำคอหดเกร็ง พูดเสียงพร่า มองหลิวเสี่ยวหนิงด้วยสายตาอันตราย แล้วพูดช้าๆ :”เธอเมาแล้วนะ เสี่ยวหนิง”
แต่ทว่าหลิวเสี่ยวหนิงกลับยิ้มออกมา เธอเอื้อมมือไปจับคอเสื้อของจินจิ่นหราน พร้อมกับให้เขาโน้มตัวหันมองมาที่เธอ
“ฉันไม่ได้เมา”
ปลายนิ้วของเธอลูบไล้บนคอของจินจิ่นหราน บนเสื้อเชิ้ตสีดำราคาแพง นิ้วที่เรียวยาวเหมือนลำต้นหัวหอมเคลื่อนลงไปด้านล่าง เหมือนเป็นการยั่วยุ
แล้วจับเข้าที่มือของหลิวเสี่ยวหนิงที่ขยับไม่หยุด จินจิ่นหรานพูด:”เธอรู้มั้ยว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่”
หลิวเสี่ยวหนิงขยับเข้าไปกระซิบข้างหูจินจิ่นหรานด้วยน้ำเสียงหวานอ่อนโยนราวกับผึ้งบินตอม:”จิ่นหราน ฉันบอกแล้วไง ฉันไม่ได้เมา”
จินจิ่นหรานที่พูดพร้อมกับริมฝีปากที่สัมผัสเข้ากับหูของจินจิ่นหราน
แววตาของจินจิ่นหรานนิ่งขรึม เขายกแขนขึ้นอุ้มหลิวเสี่ยวหนิงในท่าเจ้าสาว :”เธอไม่มีโอกาสเสียใจภายหลังแล้วนะ”
จินจิ่นหรานที่ทั้งพูดและอุ้มเธอเดินขึ้นไปชั้นบน
ท่ามกลางแสงจันทร์สว่างจ้าที่สาดส่องลงมาสะท้อนเข้ามาในห้องทำให้ดูมีเสน่ห์ไม่น้อย
…………
ตอนที่หลิวเสี่ยหนิงตื่นขึ้นมานั้น ก็มองเห็นหน้าอกขาวๆ อยู่ตรงหน้า เธอกะพริบตาแล้วก็เห็นด้านข้างของหน้าจินจิ่นหราน
ทันใดนั้นก็นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวาน หลิวเสี่ยวหนิงก้มมองแขนของตัวเองที่โผล่ออกมานอกผ้าห่ม ก็แก้มแดงระเรื่อขึ้นมา
แต่ก็ยกยิ้มกว้างออกมา ไม่เสียแรงที่เธอแสดงละครเหนื่อยามาทั้งวัน
เธอค่อยๆ ลุกออกจากอ้อมแขนของจินจิ่นหรานมาได้ครึ่งตัวแล้ว ผมยาวของหลิวเสี่ยวหนิงก็ร่วงแผ่สลวยตกลงมา หลิวเสี่ยวหนิงเอียงหน้ามองจินจิ่นหรานที่ยังคงนอนหลับสบายอยู่
ลมหายใจสม่ำเสมอ ขนตาที่ขยับเล็กน้อยเหมือนกับปีกผีเสื้อเปียกฝน หลิวเสี่ยวหนิงมองหน้าจินจิ่นหรานที่ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกชอบ
แล้วก็แอบชมตัวเองอยู่ในใจที่ตาแหลมมากในการเลือกแฟนได้ดีขนาดนี้
จากนั้นก็ยื่นมือไปลูบไล้สันจมูกของจินจิ่นหราน สุดท้ายสายตาก็ไปหยุดที่ริมฝีปากของเขา หลิวเสี่ยวหนิงกะพริบตาแล้วขยับเข้าไปใกล้ แล้วก็ค่อยๆ แอบขโมยจุ๊บปากจินจิ่นหรานอย่างระมัดระวัง
แต่ทันใดนั้นเอง ขนตาของจินจิ่นหรานกระตุกลืมตาวาวขึ้น หลิวเสี่ยวหนิงที่ถูกจับได้ถึกกับร้องตกใจ
“นายแกล้งหลับ………”
เธอยังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกก็ถูกจินจิ่นหรานพลิกอยู่ให้ไปอยู่ใต้ร่างของเขา แล้วประทับจูบแสนหวานราวกับฝนโปรยปรายลงมาก็ไม่ปาน
เธอความตกใจทำให้ลืมหายใจ หลิวเสี่ยหนิงส่งเสียงร้องอืมออกมา จินจิ่นหรานถึงยอมปล่อยเธอ “โง่จริงๆ”
“นายสิโง่ “หลิวเสี่ยวหนิงเถียงขึ้น
“เอาล่ะ ฉันโง่เอง”จินจิ่นหรานที่พูดพร้อมกับช้อนเอาตัวของหลิวเสี่ยวหนิงเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด แล้วก็ก้มลงจนคางเกยอยู่หัวของหลิวเสี่ยวหนิงแล้วพูดเสียงเบา
“ฉันโง่ ที่คิดว่าตอนนี้ก็ยังกำลังฝันอยู่”
“อะไรนะ”หลิวเสี่ยหนิงไม่ค่อยเข้าใจ แล้วเอ่ยถาม
“ฉันมีความสุขมาก ที่ได้เจอเธอและรักเธอ”จินจิ่นหรานยิ้มแล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
หลิวเสี่ยวหนิงได้ยินอย่างนั้นก็ซบเข้าที่หน้าอกของเขา แล้วพูดเสียงอ้อน:”ฉันก็เหมือนกัน”
ทันใดนั้นก็แหงนมองลำคอของจินจิ่นหราน หลิวเสี่ยวหนิงมองด้วยสายตาล่อกแล่ก ขยับตัวลุกขึ้นแล้วจูบเบาไปที่ลำคอของเขาพร้อมกับทิ้งรอยเอาไว้
“ตราประทับไว้ ว่านายเป็นของฉัน”หลิวเสี่ยวหนิงยิ้มพูด
จินจิ่นหรานรู้สึกเพียงจั๊กจี้ คันๆ ตรงลำคอ เขามองรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ของหลิวเสี่ยวหนิงด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ทว่าหลิวเสี่ยวหนิงยังคงไม่รู้สึกถึงอันตราย เอาตัวเองซบบนอกของจินจิ่นหราน
“แต่ว่าฉันไม่เคยเห็นนายออกกำลังกายเลยทำไมถึงได้มีหุ่นดีอย่างนี้ละ”
หลิวเสี่ยหนิงที่พูดพร้อมกับใช้นิ้วจิ้มไปตามตัวของเขา
จินจิ่นหรานเลิกคิ้ว แล้วกระซิบข้างหูของเธอ:”รู้มั้ยว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่”
แต่ทว่าหลิวเสี่ยวหนิงเงยหน้าขึ้นมองด้วยแววตาใสซื่อ เธอมองจินจิ่นหรานที่ขยับเข้ามาใกล้เรื่อยๆ
แล้วกระซิบเสียงเบา”ฉันตั้งใจนะ”
พอพูดจบเธอก็พลิกตัวออกจากอ้อมกอดของจินจิ่นหนานอย่างรวดเร็ว พร้อมกับหอบผ้าห่มเดินเข้าไปในห้องน้ำ
“ฉันหิวแล้ว!”
หลิวเสี่ยวหนิงที่ส่งเสียงออกมาจากห้องน้ำที่ล็อกเอาไว้จากด้านใน
จินจิ่นหรานก็จำใจต้องลุกขึ้น เขาลูบคอของตัวเองด้วยแววตาอ่อนโยน
……
จินจิ่นหรานกับหลิวเสี่ยวหนิงรู้สึกเบื่อหน่ายตั้งแต่เช้า ด้วยเพราะเหตุนี้ หลิวเสี่ยวหนิงรู้สึกว่าเหมือนตัวเองลืมอะไรไป
และทันใดนั้นเอง โทรศัพท์ของจินจิ่นหรานก็ดังขึ้น พอเขากดรับสายก็หันมองหลิวเสี่ยวหนิทันที
หลิวเสี่ยวหนิงกะพริบตางุนงง จากนั้นก็เห็นจินจิ่นหรานยื่นโทรศัพท์มาให้:”ผู้จัดการของเธอโทรมา”
คำพูดนี้เหมือนกับค้อนที่ทุบลงมาบนหัวของหลิวเสี่ยวหนิงอย่างแรง เธอตบหน้าผากของตนเองแล้วก็นึกออกว่าวันนี้ยังมีงานแถลงข่าว
หน้าของหลิวเสี่ยวหนิงก็เปลี่ยนเป็นจะร้องไห้ขึ้นมา เธอมองจินจิ่นหรานด้วยสายตาขอความช่วยเหลือ
แม้จะไม่ได้เปิดลำโพง เสียงผู้จัดการก็ยังดังเล็ดลอดออกมาได้ยินอย่างชัดเจน หลิวเสี่ยวหนิงยังได้ยิน:”หลิวเสี่ยวหนิงเธออย่ามาแสร้งตายนะ รีบมาหาฉันเดี๋ยวนี้เลย!”
หลิวเสี่ยวหนิงเม้มปาก รับโทรศัพท์มาด้วยมือสั่นเทา แล้วพูดเสียงหวานที่สุดเท่าที่จะหวานได้:”ฮัลโหล พี่เฉิน”
“เธอไม่ต้องมาพูดหวานเลย เมื่อวานไม่ใช่บอกเธอแล้วหรอว่าอย่าเที่ยวให้มันดึกมากมั้ย แล้วนี่ไม่กลับมาไม่ว่า แม้แต่โทรศัพท์ก็ยังไม่รับสายเลยใช่มั้ย”
“มีเรื่องอุบัติเหตุ เรื่องอุบัติเหตุไม่คาดฝันจริงๆ”หลิวเสี่ยวหนิงยิ้มแหยพูด
ที่จริงแล้วเมื่อวานเธอลืมโทรศัพท์ไว้ที่ร้านอาหาร และบวกกับเมื่อคืนเธอกับจินจิ่นหราน…..ดังนั้นเลยนึกเรื่องของเขาไม่ได้
“เธอรีบมาที่บริษัทตอนนี้เลย อีกประเดี๋ยวงานแถลงข่าวก็จะเริ่มแล้ว”
ผู้จัดการพูดอย่างเอือมๆ พร้อมกับถอนหายใจ เห็นได้ชัดว่าเธอตามใจหลิวเสี่ยวหนิงจนเคยตัวแล้ว หลิวเสี่ยวหนิงได้ยินอย่างนั้นก็ตอบรับคำทันที
“โอ๊ยๆ แย่แล้วๆ กลับไปจะต้องโดนบ่นแน่”หลังจากวางสายไปแล้ว หลิวเสี่ยวหนิงก็นอนราบไปกับโต๊ะอย่างท้อแท้
แต่ความผิดอย่างนี้หลิวเสี่ยวหนิงก็ทำผิดมาแล้วหลายครั้ง เพียงแต่ไม่เคยแก้ไขเลย
“เดี๋ยวฉันจะไปส่งเธอเอง”จินจิ่นหรานที่ทั้งพูดทั้งเก็บชามข้าว
“วันนี้เป็นวันที่ฉันต้องแถลงข่าวโปรโมทละคร ในที่สุดละครก็ถ่ายเสร็จสักที “หลิวเสี่ยวหนิงนั่งกระดิกเท้าอยู่บนเก้าอี้
จินจิ่นหรานกลับหลังหันเดินตรงมามางยืนตรงหน้าหลิวเสี่ยวนหนิงยกมือขึ้นลูบแก้มของเธอ:”ขอโทษด้วยนะ วันนี้ตอนบ่ายฉันมีเคสผ่าตัด คงไปรับเธอไม่ได้”
“ต้องผ่าตัดหลายเคสติดต่อกันเลยหรอ”หลิวเสี่ยวหนิงถาม
จินจิ่นหรานพยักหน้า พอนึกถึงวันนี้ตอนบ่าย คิดว่าจะต้องเหนื่อยมากแน่
หลิวเสี่ยวหนิงเห็นอย่างนั้นก็มองหน้าจินจิ่นหรานอย่างสงสาร ทันใดนั้นเองก็ก้มหน้ามองเขา:”งั้นเดี๋ยวเย็นนี้ฉันไปรับนายนะ”