นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น ตอนที่ 576 ทำอย่างไรได้อย่างนั้น
“ไม่นะ! ทำไมถึงกลายเป็นอย่างนี้ไปได้ พวกนี้ล้วนเป็นรูปภาพปลอม เป็นของปลอม นี่มันอะไรกัน!”
สวีหว่านเอ๋อร์ตะโกนร้องออกมา เธอวิ่งไปตรงหน้าจอ เพื่อที่จะบังหน้าจอไว้ แล้วตะโกนพูดเสียงดัง”รีบปิดหน้าจอสิ!”
ทุกคนที่อยู่โดยรอบต่างก็มองหน้าสวี่หว่านเอ๋อร์ด้วยสายตาแปลกประหลาดใจ ต่างก็อยากจะหัวเราะเยาะเธอ
และทันใดนั้นเองก็ได้ยินเสียงพูดมาจากข้างหลัง ทำให้ทุกคนต่างหันไปมองตามเสียง
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรอ”
ก็เห็นซูฉิงที่ยืนอยู่ด้านหลังของทุกคน ด้วยสีหน้าตกใจ เธอเห็นภาพบนหน้าจอแล้ว ก็สีหน้าเปลี่ยนเป็นรังเกียจทันที
และวินาทีต่อมาพอเห็นหน้าของผู้หญิงอยู่บนหน้าจอชัดเจนซูฉิงก็ร้องออกมาอย่างตกตะลึง แล้วชี้ไปทางสวีหว่านเอ๋อร์พร้อมพูด
“นี่ นี่เป็นรูปของเธอหรอ”
สวีหว่านเอ๋อร์หันกลับไปมองก็เห็นว่าซูฉิงยังสวมชุดนั้นอยู่ เธอจำได้ว่าตนได้ทำลายชุดราตรีนั้นแล้ว สวีหว่านเอ๋อร์ที่คิดอยู่นั้น และเพราะเหตุนี้ ทำให้เธอปล่อยรูปออกมา ซูฉิงก็จะไม่มีเวลาอธิบายได้
แต่ตอนนี้สวีหว่านเอ๋อร์เห็นชุดราตรีของซูฉิงไม่ได้มีปัญหาแต่อย่างไร และรูปบนหน้าจอยังถูกสับเปลี่ยนอีก
ทันใดนั้นสวีหว่านเอ๋อร์ก็เห็นใบหน้ายิ้มแย้มของซูฉิงก็เข้าใจขึ้นมาทันที เธอเดินเข้าไปหาซูฉิงพร้อมกับชี้หน้าด่า”นี่เป็นเธอ! เป็นฝีมือเธอ! ซูฉิงเธอมันร้ายจริงๆ นะ”
ซูฉิงก้าวถอยออกมาหนึ่งก้าวแล้วพูด”เกิดเรื่องอะไรขึ้น ฉันไม่รู้เรื่องอะไรเลย ฉันจะทำอะไรได้ละ อีกอย่างเมื่อกี้ชุดราตรีของฉันเปื้อน ฉันเลยไปเปลี่ยนชุดใหม่ และฉันก็พึ่งกลับมาด้วย”
ซูฉิงที่พูดพร้อมกับหันไปมองหน้าจออีกครั้ง พร้อมแฉะยิ้มออกมา”แต่ว่าน่าเสียดายจัง ฉันมาช้าเกิดไป ไม่รู้ว่าพลาดอะไรไปรึเปล่านะ”
สวีหว่านเอ๋อร์หน้าซีดเผือด รูปที่อยู่บนหน้าจอถูกปิดลงไปแล้ว แต่รูปทุกอย่างที่อยู่บนหน้าจอทุกคนต่างก็เห็นหมดแล้ว
เธอหันกลับไปก็เห็นฮ่อเฉียนรีบเดินเข้ามาแล้วจับเข้าที่ข้อมือของฮ่อเฉียนลากเธอออกไป
“ฮ่อเฉียน วันนั้นที่เธออยู่ด้วยกันกับฉัน เธอรู้เรื่องหมดเลยใช่มั้ย เรื่องนี้ฉันไม่ได้เป็นคนทำ ฉันถูกคนใส่ร้ายใช่มั้ย!”
ส่วนฮ่อเฉียนที่สังเกตเห็นสายตาของทุกคนก็รีบชักมือกลับแล้วพูดด้วยสีหน้าประหม่า:”พี่หว่านเอ๋อร์ วันนั้นแม้ฉันไปดื่มเหล้าที่บาร์กับพี่ แต่ฉันกลับไปก่อนแล้ว เรื่องหลังจากนั้นเป็นยังไงฉันก็ไม่ค่อยรู้เรื่องแล้ว”
คิดไม่ถึงว่าฮ่อเฉียนจะแสดงท่าทีอย่างนี้ สวีหว่านเอ๋อร์มีท่าทางแปลกใจมาก และยังจะเข้าไปฉุดฮ่อหยุนเฉียน แต่แม่ฮ่อที่เร็วกว่าก้าวเข้ามาแล้วฉุดเธอไปยืนอยู่ข้างๆ
แม่ฮ่อรู้ว่าสวีหว่านเอ๋อร์คิดจะทำอะไร และหลังจากที่ได้เห็นรูปที่สวีหว่านเอ๋อร์เอามานั้น ก็รู้สึกหมดความอดทน วันนั้นเธอเลยมีท่าทีเย่อหยิ่งกับซูฉิง
และบวกกับท่าทีของซูฉิงที่แสดงออกมา แม่ฮ่อเลยแน่ใจว่าซูฉิงกับรูปผู้ชายสองคนนั้นจะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกันแน่
แต่แม่ฮ่อกลับคิดไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น ตอนนี้สวีหว่านเอ๋อร์ใช้ประโยชน์ไม่ได้แล้ว เธอจะไม่ยอมให้สวีหว่านเอ๋อร์กับลูกสาวของตนมีส่วนเกี่ยวพันกันเด็ดขาด
“สวีหว่านเอ๋อร์ ฉันคิดไม่ถึงเลยนะว่าเธอจะเป็นคนหน้าไม่อายอย่างนี้ เธอออกไปห่างๆ เฉียนเฉียนของเราเลยนะ อย่ามาใส่ร้ายป้ายสีเฉียนเฉียนของเรานะ”
แม่ฮ่อที่ฉุดฮ่อเฉียนมายืนอยู่ข้างๆ แล้ว ฮ่อเฉียนมองหน้าของสวีหว่านเอ๋อร์ที่ตอนนี้แสดงสีหน้าเสียใจ ก็หันมองไปมองทางอื่น
คนที่อยู่รอบๆต่างก็หันไปซุบซิบพร้อมกับชี้ไปทางสวีหว่านเอ่อร์ และยังมีคนถ่ายรูปกับคนอื่นแล้วแชร์ให้คนอื่นดู สวีหว่านเอ๋อร์ก็กลายเป็นตัวตลกทันที
“ไม่นะ ไม่ใช่อย่างนั้นนะ ไม่ใช่อย่างนั้นเลย ฉันถูกคนใส่ร้าย!”สวีหว่านเอ๋อร์ที่ตอนนี้ตัวสั่นไปหมดแล้ว ทันใดนั้นสวีหว่านเอ๋อร์ก็มองไปทางฮ่อหยุนเฉิง เหมือนกับมองเห็นคนที่จะช่วยชีวิตครั้งสุดท้ายได้ เลยเดินเข้าไปหาเขาพร้อมกับดึงชายเสื้อของเขา
“พี่หยุนเฉิง พี่ต้องเชื่อฉันนะ! ซูฉิง! ซูฉิงใส่ร้ายฉันจริงๆ นะ! จะต้องเป็นเธอแน่!”
ฮ่อหยุนเฉิงคิ้วขมวด เบี่ยงหลบอย่างรู้สึกรังเกียจ
“ซูฉิง ทำไมเธอถึงทำอย่างนี้กับฉัน!”สวีหว่านเอ๋อร์พูดด้วยน้ำเสียงพร่า
ซูฉิงที่ยืนอยู่ข้างๆ ฮ่อหยุนเฉิงพอได้ยินอย่างนี้ก็หันกลับไปมามอง”ฉันทำอย่างนี้กับเธองั้นหรอ ฉันทำอะไรกับเธอ สวีหว่านเอ๋อร์?”
“เธอก็รู้อยู่อยู่แก่ใจ เธออยู่อยู่แล้วนี่!”สวีหว่านเอ๋อร์มองท่าทางของซูฉิงก็รู้สึกโกรธมาก
แต่ซูฉิงกลับเม้มริมฝีปากแดง เล็บของเธอเคาะที่แขนของเธอเบาๆ:”ไม่นะ สวีหว่านเอ๋อร์ ฉันไม่รู้เรื่องอะไรเลยนะ”
เธอที่ทั้งพูดพร้อมกับโน้มตัวลงไปใกล้กับหน้าของสวีหว่านเอ่อร์ “สิ่งเดียวที่ฉันรู้ก็คือ ทำอย่างไรได้อย่างนั้น”
เธอเข้าไปกระซิบใกล้หูของสวีหว่านเอ๋อร์ ใช้น้ำเสียงที่ได้ยินกันสองคนโดยที่คนอื่นไม่ได้ยิน
“สวีหว่านเอ๋อร์ ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่เธอควรจะได้รับ ไม่ใช่หรอ”
ถึงแม้ทุกคนจะไม่ได้ยินที่ซูฉิงพูด แต่ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ไม่ได้ไร้เดียงสาขนาดนั้น แค่ซูฉิงพูดมาอย่างนั้น ทำอย่างไรได้อย่างนั้น ก็เข้าใจอะไรได้แล้ว
ดูท่าแล้วสวีหว่านเอ่อร์น่าจะคิดใส่ร้ายซูฉิง แต่กลับโดนย้อนกลับ
สวีหว่านเอ่อร์ที่ตอนนี้ก็รู้แล้ว ว่าทั้งหมดนี้เป็นการสร้างสถานการณ์ เธอมองไปทางซูฉิงด้วยสายตานิ่งขรึม แล้วยื่นมือหมายจะบีบคอซูฉิง
“ซูฉิง ฉันจะให้แกตายไปพร้อมกับฉัน!”
แต่ทว่าซูฉิงนั้นเร็วกว่าจับเข้าที่ข้อมือของเธอ แล้วบิดแขนเธอไปด้านหลังอย่างไม่ยั้งมือ ทำให้สวีหว่านเอ๋อร์ยอมจำนน
สวีหว่านเอ่อร์ร้องโอดโอยแล้วก็ล้มไปกองกับพื้นอย่างไม่เป็นท่า
“สารเลว!”
คุณปู่ฮ่อที่หน้านิ่งขรึมก็ได้เอ่ยออกมา ท่านเดินเข้าไปหา สวีหว่านเอ่อร์อย่างโมโห แล้วด่าออกไปตรงๆ
“พวกเราตระกูลฮ่อกับตระกูลสวีที่ไปมาหาสู่กันตลอด คิดไม่ถึงเธอว่าตระกูลสวีจะมีคนอย่างเธอ เอาตัวเธอกลับไปส่งที่บ้านตระกูลสวีซะ!”
พ่อบ้านได้ยินอย่างนั้นก็รีบสั่งคนให้มานำตัวของสวีหว่านเอ่อร์ไป และสายตาสุดท้ายที่สวีหว่านเอ๋อร์มองซูฉิงด้วยสีหน้าแปลกๆ
“คุณหนูสวีที่มาจากครอบครัวชาติตระกูลดีมีหน้าตาทางสังคม คิดไม่ถึงจะชอบเล่นอะไรอย่างนี้”
น้ำเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น ซูฉิงหันไปมองด้วยสายตาแปลกใจ คิดไม่ถึงว่าจะได้มาเจอคนรู้จักที่นี่
เฉินเจียวยิ้ม แล้วเดินออกมาจากมุมห้อง
เธอเดินมายืนตรงหน้าคุณปู่ฮ่อ แล้วพูดเสียงเบา:”วันนี้เป็นวันเกิดของคุณปู่ฮ่อ ดังนั้นดิฉันเลยตั้งใจนำของขวัญมามอบให้ หวังว่าคุณปู่จะชอบนะคะ”
เฉียนเจียวที่เตรียมตัวจะเปิดกล่องแล้ว และทุกคนที่กำลังมองกล่องของขวัญอยู่นั้น ต่างก็รู้สึกเย็นเยือก
ข้างในเป็นหยกเขียวจักรพรรดิสภาพดีมาก แกะสลักจากรูปทรงภูเขาซึ่งดูล้ำค่ามากตั้งแต่แรกเห็น