นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น ตอนที่ 640 ถูกทำพัง
ซูฉิงเอือมระอา ยากกว่าการเชิญก็ไล่นี่แหละ
วันต่อมา ซูฉิงมาที่ห้องสตูดิโอ หลายวันมานี้สตาร์เอนเตอร์เทนเมนท์ได้ลงทุนกับละครเรื่องหนึ่งและวันนี้ก็เริ่มการถ่ายทำ
แต่ใครจะรู้ว่า ตอนที่ซูฉิงกำลังเดินเข้าไป ก็มองเห็นฉากที่ถูกจัดเตรียมไว้อย่างสวยงามดีนั้นตอนนี้เละพังไม่เป็นท่า
เธอเบิกตากว้าง เมื่อวานเธอมาดูก็ยังดีๆ อยู่เลย วันนี้ก็ถูกฉีกจนไม่เหลือชินดี
“เกิดอะไรขึ้น”
ซูฉิงเรียกพนักงานเข้ามาแล้วเอ่ยถาม
“ก็เป็นเรื่องปกติ เมื่อคืนไม่มีคนอยู่ที่นี่ ก็คงมีพวกหนูที่เข้ามาวิ่งแทะ เห็นของอะไรก็คงจะกัดจนเละ
ซูฉิงรีบสั่งให้เอาไปซ่อม วันนี้จะต้องเริ่มถ่ายทำแล้ว ฉันแก้ไขได้เพียงฉากเดียวเท่านั้นก่อนแล้วจึงลงมือทำ
ซูฉิงที่รู้สึกหมดความอดทน ถึงแม้จะรู้สึกแย่มาก แต่การถ่ายทำก็เป็นไปอย่างราบรื่นมาก
จนถึงฉากสุดท้ายถ่ายเสร็จ ฟ้าก็มืดแล้ว
“วันนี้ถือว่าราบรื่นแล้ว ทุกคนเหนื่อยแล้ว พรุ่งนี้ค่อยกลับมาต่อ”
ผู้กำกับตะโกนสั่ง แล้วพวกพนักงานทยอยกันกลับบ้าน
วันที่สามต่อมา ซูฉิงมาถึงสตูดิโอต้องแต่เช้า ก็เห็นว่าฉากนั้นเละเทะอีกครั้ง
เธอเดินเข้าไปดูอย่างละเอียด ฉากของวันนี้ถูกทำลายเละกว่าเมื่อวาน และจากสภาพของฉากที่พังก็รู้ว่าเป็นฝีมือคน ไม่ใช่ฝีมือหนูแน่
ซูฉิงก้มหน้าลง และก็มีสิ่งที่ดึงดูดความสนใจของเธอ
ดีที่วันนี้ถ่ายฉากนอกสถานที่ วันนี้เลยให้คนมาซ่อม พรุ่งนี้ค่อยมาดูอีกที
ซูฉิงมองดูฉากที่ซ่อมเสร็จแล้วก็ถึงได้วางใจกลับไป
วันที่สี่ ซูฉิงพึ่งเดินเข้ามาถึงสตูดิโอ ก็มีผงทรายลอยมาปะทะกับหน้า
เธอพยายามสูดหายใจ กะพริบตามอง ก็เห็นฉากของกองถ่ายที่ซ่อมนั้นพังเละอีกครั้ง และมีดินทรายฝังกลบอีกชั้น เห็นได้ชัดว่าเป็นความตั้งใจ
เป็นอย่างนี้ติดต่อกันสามวัน จะต้องไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่
ซูฉิงคิ้วขมวด ใครกันที่กล้ามีเรื่องกับสตาร์เอนเตอร์เทนเมนท์ แอบเข้ามาทำลายของตอนกลางคืนทุกวัน
ครั้งนี้จะยอมให้เป็นอย่างนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว ถ้าหากเป็นเพราะฝีมือคนตั้งใจทำลายบริษัท ช่างได้ไม่คุ้มเสียจริงๆ
ซูฉิงสั่งให้คนไปซื้อกล้องวงจรปิดมาแอบติดตั้งในตำแหน่งที่มองไม่เห็น
เธอปัดมือไปหลังจากให้มาคนจัดการฉากแล้วก็เดินออกไปจากสตูดิโอ
และตอนที่กำลังเดินออกไปซูฉิงก็เจอกับผู้กำกับ
เธอจัดการกับอารมณ์ตัวเอง เพราะตอนนี้ผู้กำกับก็กำลังรอและมีเรื่องอยากจะคุยกับตนด้วย
“มีอะไรหรอคะ”
ซูฉิงเอ่ยถาม
“เมื่อกี้ผมได้รับข่าวเรื่องเงินลงทุนละครใหม่ ทางโน้นเขาอยากจะเปลี่ยนนักแสดงของสตาร์เอนเตอร์เทนเมนท์ คุณมีความคิดเห็นว่ายังไง”
“ตอนนี้ละครเรื่องนี้ไม่ใช่มีการลงทุนหรอ แล้วจะต้องมีอีกทำไม”
ซูฉิงคิ้วขมวดถาม ถึงแม้ว่าจะมีเพิ่มมาอีกเรื่องก็ถือว่าดี แต่ตอนนี้งานของบริษัทก็เยอะมาก หาเวลามากไม่ได้เลย
จากนั้นผู้กำกับยื่นหนังสือสัญญามาให้ซูฉิงดู ซูฉิงก็เจอกับตัวการของปัญหาทันที
“ตระกูลหลินงั้นหรอ”
เห็นว่าในหนังสือสัญญาเขียนชื่อตระกูลหลินด้วยตัวอักษรตัวใหญ่ และนักแสดงที่ตระกูลหลินต้องการก็เดาได้ไม่ยาก นั่นก็คือหลินเจียวเจียว
ซูฉิงก็รู้ได้ทันที วันนั้นที่คุณนายหลินพูดก่อนจะกลับว่าอย่ามาเสียใจภายหลังก็เรื่องนี้นี่เอง
ดูท่าแล้วเรื่องที่ฉากถูกทำลายหลายครั้งนั้นก็น่าจะเกี่ยวข้องกับตระกูลหลินแน่
ซูฉิงก้มหน้าลง คิดว่าตระกูลหลินไม่ยอมให้ถ่ายต่อ ถึงได้หาวิธีอย่างนี้เพื่อที่จะทำให้เธอจำใจต้องทำตาม
เธอส่ายหน้าเบาๆ ยิ่งตระกูลหลินทำอย่างนี้ เธอก็ยิ่งไม่ไว้หน้าตระกูลหลิน
ซูฉิงนึกกล้องวงจรปิดขึ้นมา เธอก็เผยยิ้มออกมา
และก็เป็นอย่างที่คิดไว้ เช้าวันต่อมาตอนที่ซูฉิงกำลังมาถึงสตูดิโอ ฉากก็ยังถูกทำลายพังจนเละ
เธอมาที่มุมที่ติดตั้งกล้องวงจรปิด ยังติดตั้งอยู่ดี และตระกูลหลินก็คงจะไม่ทันสังเกตเห็น
ซูฉิงก้มหน้ายิ้มบาง แล้วก็เอากล้องวงจรปิดออกมา ปรับดูกล้องตอนเมื่อคืน
หลังจากตรวจสอบแล้วก็สามารถยืนยันได้ว่าเป็นฝีมือของตระกูลหลิน
ในกล้องวงจรปิดเห็นเป็นเงาของใครบางคน ตอนนี้เข้ามาเหมือนกับคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้ คุ้นเคยอย่างนี้จะต้องไม่ได้ทำแค่ครั้งเดียวแน่
ต่อมาซูฉิงก็ได้นำเอาคนที่อยู่ในกล้องวงจรปิดไปหาคนรับใช้ของตระกูลหลิน ก็คืแไปตามสืบและก็เป็นฝีมือของคนรับใช้และพ่อบ้านของตระกูลหลิน
ซูฉิงยิ้มออกมาเล็กน้อย ในเมื่อตระกูลหลินจะลงทุนละครเรื่องใหม่กับตนตอนนี้ และก่อนหน้านี้ก็ได้พูดเรื่องปูทางให้กับหลินเจียวเจียว และเรื่องทุกอย่างก็มีส่วนไปทางตระกูลหลิน ครั้งนี้พวกเขาไม่รอดแน่
ซูฉิงยิ้มบาง ตอนนี้ตนไม่มีอารมณ์เล่นกับพวกเขา แต่ตระกูลหลินนั้นก็เข้ามายุ่งกับเธอไม่หยุดหย่อนจนใกล้ถึงขีดจำกัดของเธอ ทำให้เธอทนไม่ไหวแล้ว
ซูฉิงสูดลมหายใจเข้าปอดลึก แล้วก็เรียกหลินเจียวเจียวเข้ามาพบ
“เธอดูเอาเถอะ’
หลินเจียวรับโทรศัพท์มาดูก็รู้จักคนที่อยู่ในคลิป ซึ่งก็พ่อบ้านที่เลี้ยงดูเธอมาตั้งแต่เล็กจนโต
“ทำไมเขาถึง……”
หลินเจียวเจียวไม่อยากจะเชื่อว่า พ่อบ้านจะช่วยพ่อแม่ของเธอทำเรื่องอย่างนี้ได้ ถ้าไม่ใช่เพราะซูฉิงไม่ถือสาเอาเรื่อง เกรงว่าเธอก็คงจะถูกไล่ออกไปนานแล้ว
“ต้องขอโทษด้วยนะคะ ฉันคิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นอย่างนี้”
หลินเจียวเจียวเอ่ยขอโทษซูฉิง เรื่องนี้เป็นฝีมือคนของตระกูลหลิน ยังไงก็เป็นเพราะตระกูลของพวกเธอที่มีปัญหา
“เธอก็รู้จักฉันดีว่าเป็นคนยังไง เรื่องอย่างนี้ในเมื่อฉันรู้เรื่องแล้ว ก็ไม่ปล่อยไปง่ายๆ แน่”
แววตาที่เย็นเยือกของซูฉิงทำให้หลินเจียวเจียวได้แต่พยักหน้า
“ค่ะ ฉันเข้าใจแล้ว”
แววตาเคร่งขรึมของซูฉิง หลินเจียวเจียวก็รู้ได้ทันทีว่าครั้งนี้ซูฉิงจะเอาจริงแล้ว
เพราะคนของตระกูลของคนทำเรื่องผิด หลินเจียวเจียวก็ช่วยไม่ได้
ซูฉิงกลับมาที่ห้องทำงาน และก็จากนั้นเขาก็อัปโหลดภาพวิดีโอของกล้องวงจรปิดและหนังสือสัญญาของ ตระกูลหลิรไปยังโซเชียล ผลปรากฏว่าเพียงไม่นาน โลกโซเชียลก็เกิดกระแสลุกฮือราวกับพายุก็ไม่ปาน
ทันใดนั้นเวยป๋อของตระกูลหลินก็มีคนเข้ามาคอมเมนท์ด่าไม่หยุด คุณนายหลินที่นั่งอยู่ในห้องทำงาน กำลังดูเวยป๋อของตระกูลก็รู้สึกเหนื่อยล้าทั้งใจและกาย
ภายในคืนเดียว เวยป๋อของตระกูลหลินก็ถูกยกเลิกเลิกติดตามเป็นล้าน แม้แต่หุ้นก็ตกด้วย
เพื่อประโยชน์ของตัวเองเลยทำเรื่องย่างนี้กับคนอื่น สุดท้ายก็ต้องได้รับการลงโทษ
ซึ่งทำให้ตระกูลหลินไม่ทันได้ตั้งตัว คิดไม่ถึงว่าซูฉิงจะลงมืออย่างไร้เยื่อใยขนาดนี้ พวกเขายังไม่ทันได้เตรียมตัวเลย
และพอเป็นอย่างนี้ตระกูลหลินที่มีความคิดจะเข้าสู่วงการบันเทิงก็แตกสลาย แม้แต่สตาร์เอนเตอร์เทนเมนท์ก็ไม่สามารถเข้ามาใกล้ได้
ซูฉิงที่เห็นว่าเรื่องนี้จัดการได้แล้วก็ค่อยๆ รู้สึกเบาใจ
อีกด้าน ภายในร้านบาร์
กวนจิ่งสิงที่ถือแก้วเหล้าอยู่ในมือ เมาเหมือนคนใกล้ตาย ใบหน้าแดงก่ำ เขามองแก้วเหล้าที่อยู่ในมือ อยู่ในภวงค์ความคิดของตัวเองเงียบ
เย่ซี………
จากนั้นก็ยกแก้วขึ้นดื่ม ตอนนี้มีแต่ภาพของเย่ซีผุดขึ้นมาในหัวของกวนจิ่งสิงไม่หยุด เขาก้มหน้าลงอย่างรู้สึกเสียใจ
แต่ก็ยังพอมีสติอยู่ เขาไม่ได้พูดชื่อของเย่ซีออกไป เขารู้ว่าถ้าทำย่างนั้นจะยิ่งทำให้คนเข้าใจผิดกัน
เขาเลยแอบมานั่งดื่มเหล้าคนเดียวที่ร้านบาร์
แต่ตรงมุมข้างๆ ที่หวนจิ่งสิงนั่งอยู่นั้นมีใครคนหนึ่งยืนอยู่