Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 1186 อย่างเจ้า ก็คู่ควรเรียกว่ามกุฎด้วยหรือ

ตอนที่ 1186 อย่างเจ้า ก็คู่ควรเรียกว่ามกุฎด้วยหรือ

การฝึกตนมาหลายวันทำให้หลินสวินเหมือนถอดรยางค์เปลี่ยนกระดูก รากฐานมรรคราชันในตัวก็เสถียรขึ้นอีกขั้น

เขาในตอนนี้เงาร่างสูงโปร่ง ยืนอยู่บนยอดเขาเพียงลำพัง ชั่วประเดี๋ยวเดียวก็เต็มไปด้วยกลิ่นอายหลุดพ้นเหนือธรรมดา ประหนึ่งเมฆคล้อยบนขอบฟ้า

นี่ก็คือคุณประโยชน์ของศิลาต้นกำเนิด

ไอวิญญาณในแดนอัคคีทักษิณเดิมก็เข้มข้นหาใดเทียบอยู่แล้ว ยังมีศิลาต้นกำเนิดช่วยเสริมการฝึกปราณ เพียงไม่กี่วันก็เทียบเท่ากับการฝึกปราณหลายเดือนในสมัยก่อน!

“เทพมารหลิน ความตายมาเยือนแล้วเจ้ายังกล้าคุยโวไม่ละอาย นี่สะกดคำว่าตายไม่เป็นจริงๆ ใช่ไหม”

พวกเมิ่งอิงหวาต่างเดือดดาลยากทนได้

ตอนนี้เวินเอ้าไห่กลับมาแล้ว ทำให้พวกเขาหาคนพึ่งพิงได้ ความอัปยศและความแค้นที่สั่งสมอยู่ในใจมาหลายวันจึงปะทุออกมาในตอนนี้

“พวกเจ้าทำให้ข้าผิดหวังเกินไปแล้ว ในเมื่อเลือกยอมสยบ ก็ต้องตระหนักว่าเป็นข้าเป็นทาส แต่ตอนนี้กลับกลับไปกลับมา หรือเป็นเพราะข้าเมตตาเกินไป”

หลินสวินทอดถอนใจเบาๆ

เมตตา?

พวกเมิ่งอิงหวาแค้นจนกัดฟันกรอด หลายวันมานี้พวกเขาถูกบีบให้ขุดแร่ ได้รับการดูถูกเหยียดหยามอย่างที่สุด นี่ยังเรียกเมตตาหรือ

“เทพมารหลิน แน่จริงก็มาสู้กันสักตั้ง!”

เสียงสวบดังขึ้น เวินเอ้าไห่ทะยานขึ้นไปบนฟ้า ยืนทระนงบนยอดเมฆ ไอสังหารคับฟ้าถาโถมไปทั่วกาย ผมยาวปลิวไสว

สภาพอากาศแปรเปลี่ยน ห้วงอากาศปั่นป่วนในทันใด

พลานุภาพของระดับมกุฎราชันสำแดงออกมาจนหมดสิ้นในขณะนี้

“ทำไมจะไม่กล้า”

หลินสวินเหยียบชือน้ำแข็งที่ขดตัว ค้ำให้ตัวเขาทะยานขึ้นฟ้าไปอย่างรวดเร็ว เงาร่างสูงโปร่งยืนตระหง่านกลางทะเลเมฆ ราวภูผาสูงเด่นอันไม่อาจสั่นคลอน

“ศิษย์พี่เวิน ต้องฆ่าไอ้สวะนี่ให้ได้!”

บนภูเขาทุกคนร้องเสียงดังตื่นเต้น สายตาที่มองหลินสวินเจือไปด้วยความเคียดแค้น

“วางใจได้ ข้าจะทำให้มันตายอย่างไม่น่าดู”

เวินเอ้าไห่สูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง สีหน้าเย็นชา พูดชัดถ้อยชัดคำ สำแดงไอสังหารปอดฟ้าคลุมดินออกมา

สวบ!

ชั่วพริบตาเงาร่างของเขาก็หายไปจากที่เดิม

เร็วเหมือนลมพายุ ไปมาไร้เงา!

ดวงตาดำของหลินสวินหดรัดทันใด เงาร่างหลบหนีตามจิตใต้สำนึก

ฉับ!

คมดาบวายุดุดันหาใดเทียบสายหนึ่งไหววูบผ่านไป ตัดเส้นผมตรงริมหูปอยหนึ่งของหลินสวิน ห้วงอากาศด้านหนึ่งถูกตัดออกเป็นรอยแยกตรงแน่วเส้นหนึ่งเหมือนผืนผ้า

ว่องไวนัก!

หลินสวินประหลาดใจ จิตต่อสู้ในใจปะทุออกมา

นี่นับได้ว่าเป็นการต่อสู้กับคู่ต่อสู้ในระดับเดียวกันครั้งแรกตั้งแต่เขาบรรลุระดับมกุฎราชันมา

หลินสวินตั้งตาคอยนักว่า ในระดับนี้คู่ต่อสู้จะต้านทานได้หรือไม่

ฉัวะ! ฉัวะ! ฉัวะ!

ชั่วพริบตากลางห้วงอากาศเต็มไปด้วยคมดาบวายุดุดันไร้รูปนับพันนับหมื่น รวดเร็วอัศจรรย์เหมือนสายฟ้า ไปมาไร้ร่องรอย ดุจพายุคลั่งเต็มท้องฟ้าม้วนตลบทะเลเมฆ

เหนือห้วงอากาศรอยแยกที่น่าตื่นตระหนกสายแล้วสายเล่าตัดกันไปทั่ว ชั้นเมฆทั่วสารทิศล้วนเหมือนเศษกระดาษที่ถูกฉีกแหลกปลิวว่อน

และตั้งแต่เริ่มจนจบ เพียงเห็นได้รางเลือนว่าเงาร่างของเวินเอ้าไห่นั้นไหววูบแล้วหายไป ไม่อาจจับกุมไว้ได้เหมือนผีสาง

ไม่เพียงว่องไว ยังดุดันถึงที่สุดด้วย!

มีคมดาบวายุโฉบออกมาเป็นครั้งคราว ไถผืนดินให้เป็นคูน้ำมหึมาที่ลึกจนไม่อาจหยั่งถึงสายแล้วสายเล่า หินผาแหลกสลาย

ตัวหลินสวินอยู่ท่ามกลางบริเวณนั้น ฉับพลันทันใดเหมือนอยู่ท่ามกลางพายุฝนบ้าคลั่งกว้างไกล มีแต่คมดาบวายุที่ดุดันจนสามารถทำให้อกสั่นขวัญแขวน

ในระหว่างนี้ เขาหลบหนีอยู่ตลอด ลองเล็งเป้าเงาร่างของเวินเอ้าไห่

ทว่าความเร็วของเวินเอ้าไห่ช่างน่าตื่นตะลึง เงาร่างเคลื่อนไหวว่องไว เดี๋ยวผลุบเดี๋ยวโผล่

ชั่วไม่กี่อึดใจคล้ายทั่วทิศเต็มไปด้วยเงาร่างของเขา แต่เมื่อเข้าไปจับกลับพบว่านั่นเป็นเพียงรอยเงาเท่านั้น!

มหามรรคสลาตันบูรพาใต้!

ลม มีอยู่ทุกที่ ไม่มีที่ใดเข้าไปไม่ได้

ยามอ่อนโยน พัดผ่านหน้าก็ไม่รู้สึก

ยามดุดัน สามารถพลิกภูเขาคว่ำสมุทร ก่อให้เกิดพายุล้างโลกได้!

ไม่ต้องสงสัยว่านี่เป็นมกุฎมรรคาของเวินเอ้าไห่ ที่เสาะหาก็คือร่างกายดั่งพายุสลาตัน ลอยสูงไร้ร่องรอย

ฟึ่บฟั่บๆ!

แม้หลินสวินจะหลบหนีเต็มที่ อาภรณ์บนร่างก็ยังคงถูกปัดโดนและฉีกออก

ส่วนในสายตาของพวกเมิ่งอิงหวา เพียงรู้สึกว่าดวงตาไม่พอดู เห็นได้เพียงว่าในท้องฟ้ามีแต่คมดาบวายุกับเงาร่างของเวินเอ้าไห่ไปทุกหนแห่ง

ด้านหลินสวินก็เหมือนอยู่กลางทะเลคมวายุ แม้เคลื่อนย้ายไปมา แต่กลับถูกกักขังไว้อย่างแน่นหนาไม่อาจสลัดพ้น

นี่ทำให้พวกเขาฮึกเหิม ส่งเสียงโห่ร้องให้กำลังใจเวินเอ้าไห่ขึ้นมา

“สะใจนัก! สะใจจริงๆ มหามรรคสลาตันบูรพาใต้ของศิษย์พี่เวินช่างมีอานุภาพพิศวงสุดหยั่งจริงๆ สามารถทำให้ฟ้าดินอับสีได้!”

“ตอนนี้ข้าเพียงกังวลว่าเทพมารหลินนั่นจะถูกฆ่าตายได้ง่ายเกินไปหรือไม่เท่านั้นแล้ว!”

และเหนือเวิ้งฟ้าเวินเอ้าไห่ก็หัวเราะเสียงดัง “หลินสวิน เป็นมกุฎราชันเหมือนกัน แต่ทำไมเจ้ากลับอ่อนแอปานนี้ คงไม่ใช่ว่าไม่ได้บรรลุระดับมกุฎราชันจริงๆ กระมัง”

เดิมทีเขายังระแวดระวัง ถึงอย่างไรตอนอยู่ระดับกระบวนแปรจุติหลินสวินก็มีพลังต่อสู้เย้ยฟ้าที่สามารถกวาดล้างคนรุ่นเดียวกันได้ แข็งแกร่งหาใดเทียบจริงๆ คิดดูแล้วหลังจากเลื่อนเป็นระดับมกุฎราชัน พลังต่อสู้ต้องไม่แย่นัก

ไหนเลยจะคิดว่ากลับอ่อนแอเช่นนี้ แม้แต่เงาร่างของตนยังเล็งไว้ไม่ได้!

ฉึบ!

คมดาบวายุสายหนึ่งปัดโดนคอของหลินสวินอย่างเฉียดฉิว อีกนิดเดียวก็จะอันตรายถึงชีวิต

แต่หลินสวินกลับสีหน้าเรียบเฉยไม่ตระหนก ดวงตาดำลุ่มลึกและเฉยชา

ตั้งแต่เริ่มจนจบเขาไม่ได้โจมตีกลับไปจริง ยามหลบหนีก็ถูกข่วนให้เป็นแผลเป็นครั้งคราว

ถึงกับต้องยอมรับว่าอย่างน้อยในด้านความเร็ว เวินเอ้าไห่ก็มีข้อได้เปรียบที่ภูมิใจได้ ขนาดเขายังด้อยกว่าบ้าง

แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะถูกกำราบแล้ว!

ตอนนี้สาเหตุที่เขาเอาแต่หลบหนี ก็เพียงเพราะอยากดูสักหน่อยว่าพลังต่อสู้ของเวินเอ้าไห่ผู้นี้มีจุดที่ไม่ธรรมดาหรือไม่กันแน่เท่านั้น

นี่เป็นท่าทีสอดส่องและเสาะหาอย่างหนึ่ง มองเวินเอ้าไห่เป็นเป้าหมายศึกษา ใช้สิ่งนี้มาพิสูจน์มกุฎมรรคาของตัวเอง

“อ่อนแอไปหรือ ในเมื่อเป็นเช่นนี้เหตุใดจนตอนนี้เจ้าถึงเอาชนะข้าไม่ได้สักทีล่ะ” หลินสวินยิ้มเย้ยหยันเอ่ยปาก ถากถางอย่างไม่ปิดบัง

ทันใดนั้นพวกเมิ่งอิงหวาก็อึ้งไป ก็จริง กระทั่งตอนนี้แม้หลินสวินจะถูกกักไว้ ดูเหมือนสะบักสะบอม แต่กลับไม่ได้บาดเจ็บอย่างเป็นรูปธรรมแต่อย่างใดเลย

นี่ก็ดูออกจะไม่ชอบมาพากลเสียแล้ว

ขณะเดียวกันเวินเอ้าไห่สีหน้าอึ้งค้างเล็กน้อย ก่อนยิ้มเหี้ยมแล้วพูดทันทีว่า “งั้นหรือ เช่นนั้นข้าก็จะให้เจ้าได้เปิดหูเปิดตาว่าอย่างไรเรียกว่าสิ้นหวัง!”

ตูม!

เสียงยังไม่ทันเงียบลง คมดาบวายุเต็มฟ้าพลันส่งเสียงอึกทึกครึกโครม ชั่วขณะเดียวเท่านั้นคมดาบวายุทุกสายก็แปรสภาพเป็นพายุ

พายุนับหมื่นนับพันลูกผุดขึ้น ฉีกห้วงอากาศสิบทิศให้แหลกละเอียด ภาพเช่นนั้นคล้ายจะบดขยี้โลกนี้ให้ว่างเปล่า!

นี่เป็นการโจมตีที่น่ากลัวถึงที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย เป็นท่าไม้ตายของเวินเอ้าไห่ แม้เพียงมองดูอยู่ไกลๆ ก็ทำให้พวกเมิ่งอิงหวารู้สึกได้ถึงความกริ่งเกรงอันใหญ่หลวงยากบรรยาย

ประหนึ่งจิตวิญญาณกำลังจะถูกฉีกแหลกไปด้วย เกิดความรู้สึกเจ็บปวดในดวงตา

นี่ทำให้พวกเขาร้องด้วยความตื่นตะลึง ในใจยิ่งฮึกเหิม ด้วยการโจมตีนี้เทพมารหลินจะต้านทานอย่างไรไหว ดูท่าจะต้องถูกฉีกทึ้งให้เป็นผุยผงแล้วกระมัง

ดวงตาดำของหลินสวินเปล่งประกายขึ้นมา เขาสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง ไม่ลังเลอีกต่อไป ทันทีที่เงาร่างของเขาปรากฏขึ้นก็พลันชกหมัดหนึ่งออกไป

เมื่อหมัดนี้ปรากฏออกมา ฟ้าดินดุจผืนผ้าใบวาดภาพ ยุบตัวลงทันใด กระแสยุ่งเหยิงนับหมื่นพันถูกกลืนกิน หลอมรวมเข้าไปในพลังหมัด

ท่ามกลางความคลุมเครือ ภาพฟ้าดินถล่มทลาย หยินหยางพลิกกลับก็ปรากฏขึ้น

ปึง!

พายุลูกแล้วลูกเล่าถูกพลังหมัดกระแทกให้แตกออกอย่างจัง ละอองแสงปั่นป่วนที่ปลิวว่อนถูกทำลายลงจนหมดสิ้นไม่มีเหลือ

“นี่…”

พวกเมิ่งอิงหวาที่กำลังตื่นเต้นอยู่แข็งทื่อไปทั้งตัว หน้าเปลี่ยนสีอย่างฉับพลัน นี่มันเป็นไปได้อย่างไร

ก่อนหน้านี้เทพมารหลินนั่นยังถูกกักไว้เหมือนลูกไก่ในกำมืออยู่เลย ตั้งแต่เริ่มจนจบล้วนไม่มีกำลังโจมตีกลับ

แต่ตอนนี้ ทันทีที่ออกโจมตีกลับน่ากลัวปานนี้!

“แย่แล้ว!”

ใจเวินเอ้าไห่เกร็งกระตุกขึ้นทันที เงาร่างเคลื่อนไหวฉวัดเฉวียนไม่ว่างเว้น ปะทุออกมาโดยสมบูรณ์ ประหนึ่งแปลงกายเป็นพายุปั่นป่วนเชี่ยวกรากที่ม้วนตลบนิรันดร์กาล แข็งกร้าวถึงที่สุด

ตูม!

หมัดที่หลินสวินระเบิดออกมายังถูกสลายไปอยู่ดี

แต่นี่ไม่ได้ทำให้เวินเอ้าไห่ดีใจแต่อย่างใด กลับกันเขาทำหน้าฉงน สังเกตเห็นความไม่ชอบมาพากล

ราวกับว่าหลินสวินในตอนนี้เพิ่งเริ่มต่อสู้กับตนอย่างจริงจัง ส่วนก่อนหน้านี้ เขาไม่ได้สนใจการจู่โจมของตนมาโดยตลอด!

“ฆ่า!”

เวินเอ้าไห่ร้องเสียงยาว แสงมรรคทั้งร่างคำรามดัง ดุจดั่งพายุที่เคลื่อนที่กระจายไปทั่วทั้งจักรวาล ไม่อาจมองเห็นเงาร่างของเขาได้อย่างชัดเจน

ส่วนหลินสวินก็ไม่ออมมืออีก เริ่มโจมตีกลับในตอนนี้!

โฮก!

ชือน้ำแข็งทะยานไปในอากาศ ชูคอส่งเสียงคำราม เกี่ยวกระหวัดรอบกายหลินสวิน ขับเน้นให้เขาเหมือนเทพบงการมังกร แสงมรรคทั้งร่างไหวเคลื่อน แจ่มจรัสราวดวงอาทิตย์ที่สาดส่องเจิดจ้าเพียงดวงเดียว

พลังหมัดสะท้านฟ้าสะเทือนดินปะทุขึ้น ทุกหมัดล้วนแข็งแกร่งเกินต้านทาน กลืนกินสรรพสิ่ง ทำลายล้างพลังในห้วงอากาศโดยรอบไปสิ้น

พายุลูกใหญ่เหล่านั้นกลับถูกพลังหมัดน่าหวาดหวั่นนั่นกลบจนสิ้นเหมือนเศษกระดาษ

ปึง!

ร่างของเวินเอ้าไห่ถูกพลังหมัดสายหนึ่งกวาดโดนโดยไม่ทันตั้งตัว

ชั่วพริบตานั้นเขายังสงสัยว่าถูกมือของเทพมารตบเจ้าอย่างจัง ร่างกายเจ็บปวดรวดร้าวยากทนได้ กระอักเลือดออกปากและจมูก

“เจ้า…” เขาเกรี้ยวกราด สีหน้าคล้ำเขียว

แต่ไม่ทันที่เขาจะพูดอะไรออกมาก็ต้องหลบหนีเต็มกำลัง โคจรพลังในกายตนถึงจุดสูงสุด

ต่อให้เป็นเช่นนี้เวินเอ้าไห่ก็ยังรู้สึกใช้พลังไม่ได้ดั่งใจ ถูกกดข่มโดยสิ้นเชิงเหมือนเดิม ทุกที่มีแต่พลังหมัดที่สามารถทำลายจักรวาลได้ ดุดัน อหังการ ทำลายได้ทุกอย่าง

ปึงๆๆ!

เพียงครู่เดียวเท่านั้นบนร่างของเขาก็ไม่รู้ว่าถูกพลังหมัดกี่ลูกซัดโดน หนังเปิดเนื้อเหวอะ กล้ามเนื้อกระดูกต่างรับไม่ไหว มีร่องรอยฉีกขาดปรากฏขึ้นหลายแห่ง เจ็บปวดจนเขากระอักเลือดไม่หยุดหย่อน

“เป็นไปไม่ได้!”

พวกเมิ่งอิงหวาหน้าเปลี่ยนสีโดยสมบูรณ์แล้ว ตกตะลึงเกินธรรมดา

ตอนนี้ในสายตาของพวกเขา เวินเอ้าไห่ก็เหมือนฟางที่ตกลงไปในเหวลึกแห่งหนึ่ง พลังหมัดทั่วสารทิศซัดมาเหมือนภูเขาถล่มทะเลคำรน แทบจะถูกกลบจนมิดแล้ว!

ทุกอย่างดูน่าเหลือเชื่อ

ก่อนหน้านี้หลินสวินต่างหากที่ถูกกักขัง ไร้กำลังโต้กลับ ทำไมชั่วพริบตาทุกอย่างถึงเปลี่ยนไปแล้ว

สมองพวกเมิ่งอิงหวาสับสนงงงวย มือเท้าเย็นเฉียบ นี่ไม่ได้หมายความว่าเมื่อกี้หลินสวินไม่ได้ใช้พลังที่แท้จริงเลยหรือ

“เป็นไปไม่ได้! ขอบเขตมกุฎเหมือนกัน เหตุใดพลังต่อสู้ของเจ้าถึงแข็งแกร่งปานนี้” เหนือเวิ้งฟ้าเวินเอ้าไห่ได้รับบาดเจ็บสาหัสแล้ว ผมเผ้ากระเซอะกระเซิง หน้าบวมเป่งจมูกเขียวคล้ำ รอยหมัดประทับไปทั้งตัว อนาถยิ่งนัก

เพียงแต่เมื่อเทียบกับสิ่งนี้ ที่เขาหวาดผวายิ่งกว่าก็คือเป็นขอบเขตมกุฎเหมือนกัน แต่ต่อหน้าหลินสวิน เขากลับมีความรู้สึกไร้กำลังอย่างบอกไม่ถูก

เหมือนกับอีกฝ่ายเป็นภูเขาลูกใหญ่สูงตระหง่านลูกหนึ่ง ส่วนตนเป็นมดที่กำลังเขย่าภูเขาตัวหนึ่ง ดูเล็กจ้อยและอ่อนแรงนัก!

นี่ทำให้เวินเอ้าไห่ไม่อาจยอมรับได้โดยสิ้นเชิง

เดิมนึกว่าเมื่อบรรลุระดับมกุฎราชัน ยังไม่ต้องพูดถึงการผงาดผยองเหนือคนรุ่นเดียวกัน อย่างน้อยก็ต้องมีรากฐานพลังที่ไม่หวั่นกลัวคู่ต่อสู้ใดๆ

จะคิดได้อย่างไรว่าตอนนี้กลับถูกเทพมารหลินกำราบโดยสมบูรณ์ในเวลาเพียงชั่วพลิกฝ่ามือ!

สวบ!

หลินสวินไม่ให้โอกาสเวินเอ้าไห่ได้หายใจก็พุ่งไปแล้ว พลังหมัดราวสายฟ้า ตวัดแขนกระแทกออกไปดังปึง ตัวเวินเอ้าไห่ก็ถูกกระแทกลงไปจากกลางอากาศเข้าอย่างจัง

ตัวเขากระแทกพื้นจนเกิดหลุมใหญ่หลุมหนึ่งเหมือนอุกกาตก้อนหนึ่ง ผืนดินสั่นสะเทือนไปชั่วครู่ ฝุ่นควันตลบอบอวล

“อย่างเจ้า ก็คู่ควรเรียกว่ามกุฎด้วยหรือ” หลินสวินยืนตระหง่านมองเหยียดหยันลงมาจากฟ้าสูง น้ำเสียงเรียบเฉย

——

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท