เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 915
ทุก ๆ ที่ของที่นี่ต่างก็เป็นทิวทัศน์ที่งดงามเหมือนแดนเทพในโลกมนุษย์
ส่วนลึกของป่าไผ่มีอาคารไม้ไผ่หลังหนึ่ง
ถึงแม้อาคารไม้ไผ่ไม่ใช่ใหญ่มาก แต่เงียบสงบมากคนข้างนอกหาที่นี่เจอยากมาก
ในอาคารไม้ไผ่ ชาหอมกระจายไปทั่ว
ถึงแม้เพียงแค่กั้นม่านลูกปัดอยู่ แต่ยังคงสามารถมองเห็นมีเงาคนหนึ่งอยู่ข้างในอาคารไม้ไผ่
“หัวหน้าสำนัก!”
นอกอาคารไม้ไผ่ คนเสื้อคลุมดำคุกเข่าอยู่ที่นั่นอย่างเคารพ
“หนิงเหลยถิงผู้นำตระกูลของตระกูลหนิงทำให้หัวหน้าสำนักผิดหวัง ได้ถูกลงโทษตายแล้ว!”
“นี่เป็นชิ้นส่วนภาพมกุฎมังกรของตระกูลหนิง ขอให้หัวหน้าสำนักตรวจดู!”
พูดจบ
คนเสื้อคลุมดำควักชิ้นส่วนภาพมกุฎมังกรแผ่นหนึ่งออกมาจากอ้อมกอด
ชิ้นส่วนภาพมกุฎมังกรแผ่นนี้ก็คือหนิงเหลยถิงมอบออกมาก่อนที่จะตายนั่นเอง
หนิงเหลยถิงรู้ ถ้าหากไม่มอบชิ้นส่วนภาพมกุฎมังกรแผ่นนี้ออกมา ไม่เพียงเขาต้องตายทั้งตระกูลหนิงต่างก็ต้องตายตามไปด้วย!
เงาคนข้างในพอสะบัดมือ ชิ้นส่วนภาพมกุฎมังกรในมือของคนเสื้อคลุมดำก็ตกลงในมือของเขาแล้วอย่างอัตโนมัติ
เห็นสภาพการณ์นี้
คนเสื้อคลุมดำพูดต่อ“ถึงแม้หนิงเหลยถิงได้ตายไปแล้วแต่ตระกูลหนิงก็มีหนิงชิงเฉิงมารับตำแหน่งเป็นผู้นำตระกูลคนใหม่ ประกาศเอาหุ้นทั้งหมดของชิงเฉิงกรุ๊ปที่อยู่ในมือของตระกูลหนิงขายต่อให้กับเฟิงเมิ่งกรุ๊ป คุณว่าให้ผมลงมือทำลายตระกูลหนิงหรือเปล่า……”
ไม่รอให้คนเสื้อคลุมดำพูดจบ
เงาคนที่อยู่กลางอาคารไม้ไผ่สะบัดมือแล้ว พูดด้วยเสียงที่แหบแห้ง“ตระกูลหนิงก็เป็นแค่มดเท่านั้น ไม่ต้องใส่ใจมากเกินไป!ฉันได้ยินนายพูด ชิงเฉิงกรุ๊ปคือถูกคนที่มีชื่อว่าหยางเฟิงรับซื้อไป ถูกไหม?” คนเสื้อคลุมดำพยักหน้าพูด“ใช่แล้ว!ได้ยินว่าหยางเฟิงคนนี้ก็เป็นคุณชายที่ถูกทอดทิ้งของตระกูลหยาง ถูกตระกูลหยางไล่ออกไปเมื่อห้าปีก่อน!”
“อ๊ะ?”
ทันใดนั้นฝ่ายตรงข้ามก็มีความสนใจแล้ว ถามว่า“ยืนยันได้ไหม?”
คนเสื้อคลุมดำลังเลเล็กน้อย พูด“ผมไม่สามารถยืนยันได้หนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ชั่วคราวแต่สามารถยืนยันได้ หยางเฟิงคนนี้มีความเกี่ยวข้องที่หลุดไม่พ้นกับตระกูลหยาง”
“ฮึ ๆ !”
ฝ่ายตรงข้ามหัวเราะเบา ๆ เสียงหนึ่ง พูดสบาย ๆ ว่า“ฐานะของหยางเฟิงคนนี้ฉันต้องการรู้ นายให้คนไปสอดแนมสักหน่อย”
“ถ้าหยางเฟิงคนนี้มีผลกระทบต่อแผนการของฉันแล้ว งั้นก็ฆ่าเขาซะ!”
ตอนที่พูดประโยคนี้น้ำเสียงของฝ่ายตรงข้ามยังคงเย็นชามาก
เหมือนไม่ใช่ฆ่าคนหนึ่ง แต่เป็นฆ่าหมาตัวหนึ่ง
“ยังมีตระกูลหลงเงียบนานมากไปแล้ว ถึงเวลาให้พวกเขาขยับบ้างแล้ว”
“ตระกูลหยางนี้ เมื่อห้าปีก่อนฉันปล่อยพวกเขาไปครั้งหนึ่ง!คิดไม่ถึงยังไม่รู้จักสงบเงี่ยมเจียมตัว!”
“ในเมื่อเป็นอย่างนี้งั้นก็ให้ตระกูลหลงไปสอดแนมตระกูลหยางสักหน่อยก่อน ฉันอยากจะดูตระกูลหยางนี้จะสามารถโชคดีเหมือนกับห้าปีก่อนหรือเปล่า?”
“ครับ!”
คนเสื้อคลุมดำพูดเสียงดัง ในพริบตาก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
เงาคนนั่นที่อยู่กลางอาคารไม้ไผ่ ท่าทางที่ชงชาเป็นธรรมชาติรู้สึกไม่ถึงกลิ่นไอการฆ่าบนตัวของเขาแม้แต่นิด
“ฉันวางเกมหมากรุกมาสิบปีแล้ว ใครต่างก็อย่าคิดที่จะทำลาย!”
“ใครกล้าขวางทางฉัน ฆ่าไม่ละเว้น!”
ซู่ ๆ ๆ !
ลมอ่อน ๆ พัดผ่านเป็นระยะ ม่านมุกดังแกร๊ง ๆ
เงาคนนั่นที่อยู่กลางอาคารไม้ไผ่ได้หายไปแล้ว เหมือนไม่เคยปรากฏตัวมาอย่างนั้น
……
ตระกูลหยาง
วันนั้นร่องรอยของตระกูลหนิงและตระกูลหยุนสองตระกูลล้อมโจมตีตระกูลหยางได้กระจายหายไป
ศพได้ฝังลงไปนานแล้ว
เลือดสดบนพื้นก็ถูกเช็ดล้างสะอาด
แต่โลกไม่มีกำแพงที่ไม่ระบายลม
ตระกูลหนิงตระกูลหยุนสองตระกูลมหาเศรษฐีล้อมโจมตีตระกูลหยางด้วยกัน
ผลคือหยางติ่งเทียนใช้คนเดียวสู้ศัตรูสองคน และหนิงเหลยถิงกับหยุนตงหยางสองคนไม่มีผลสำเร็จใด ๆ และกลับมา
ตอนนี้หนิงเหลยถิงจู่ ๆ ตายกระทันหัน
หยุนตงหยางก็ประกาศไม่รับแขก
นี่ทำให้ทุกคนยิ่งแปลกใจมากต่อพลังของหยางติ่งเทียน