“ขอบคุณความเข้าใจของประธานหวาง ขอบคุณความเข้าใจของประธานหวาง”
อู๋เฟิงกล่าวอย่างตื่นเต้น
การที่เจ้าเทพให้หวางซีรับหุ้นไว้หมายความว่าอย่างไร? นั่นก็หมายความว่า จากนี้ไปตระกูลอู๋ก็จะอยู่ภายใต้คำสั่งของเจ้าเทพ
ตระกูลอู๋อยากจะพัฒนาขยายกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ ใครกล้ากดขี่!
ไม่ต้องพูดถึงในประเทศ ต่อให้จะอยู่ในระดับนานาชาติ ด้วยอานุภาพแห่งรัศมีของเจ้าเทพ จะเป็นต้องมีทรัพย์สินมากมายหลั่งไหลเข้าสู่ตระกูลอู๋อย่างแน่นอน!
ลงทุนน้อยแต่ได้กำไรมหาศาล!!
นี่ต่างที่เป็นการลงทุนน้อยแต่ได้กำไรมหาศาล!!
นี่ต่างหากถึงเป็นการลงทุนที่ดีที่สุด!!
สำหรับกองทุนที่หวางซีบอกว่าจะจ่ายเพิ่มให้ในอนาคต เขาก็ถือซะว่าไม่ได้ยิน
“ไม่มีอะไรก็ไปเถอะ”
เย่เซิ่งเทียนพูดอย่างหงุดหงิด
ถูกหวางซีจ้องมองอย่างโหดๆแวบหนึ่ง หมอนี่ไม่รู้จักมนุษยสัมพันธ์เลยจริงๆ ก็ท่าทีแบบนี้ คนอื่นเขาใครยังจะยินดีร่วมลงทุนกับบริษัทหัวหยวน?
ต้องคุยกับเขาดีๆ เปลี่ยนนิสัยนี้ หลีกเลี่ยงทำให้คนอื่นไม่พอใจ
“ประธานอู๋ เซิ่งเทียนไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น คุณอย่าได้เข้าใจผิด ถ้าคุณไม่มีอะไรแล้ว พวกเราสองสามีภรรยาเลี้ยงอาหารคุณสักมื้อนะ จากนี้ไปพวกเรายังต้องร่วมลงทุนกันอีกมากมาย”
หวางซีรีบพูดอธิบาย ก็กลัวว่าคนซื่อบื้ออย่างเย่เซิ่งเทียนทำให้หนทางแคบลง
มีเพื่อนมากมายและหนทางมากมายในธุรกิจ นายทำให้คนขุ่นเคืองใจมาก ใครจะจะพานายเจริญไปด้วย?
อู๋เฟิงตกใจ นายหญิงเจ้าเทพจะเลี้ยงข้าวตัวเอง?
นี่เกินไปแล้ว จะให้นายหญิงเจ้าเทพเลี้ยงได้ยังไง!
เขารีบพูดว่า: “ประธานหวาง คุณช่วยเหลือผมมากมายขนาดนี้ ผมควรเลี้ยงครับ ผมควรเลี้ยง จะทำให้คุณสิ้นเปลืองได้ยังไง”
เย่เซิ่งเทียนพูดอย่างเย็นชา: “ทำไม กลัวว่าภรรยาของฉันจะเลี้ยงข้าวมื้อหนึ่งไม่ไหวเหรอ?”
อู๋เฟิงกลัวจนไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร อยากตบปากของตัวเองสักสองทีจริงๆ ตัวเองมีสิทธิ์อะไรไปเลี้ยงข้าวเจ้าเทพและนายหญิงเจ้าเทพ
“พูดไม่เป็นนายก็พูดให้น้อยลง”
หวางซีจ้องมองเย่เซิ่งเทียนอย่างไม่สบอารมณ์ และอธิบายอย่างรวดเร็วว่า: “ประธานอู๋ คุณอย่าใส่ใจเลยค่ะ เขาก็ซื่อบื้อ พูดไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่ อาหารมื้อนี้ฉันเลี้ยงคุณดีกว่าค่ะ”
“ครับๆๆๆ คุณจัดการ คุณจัดการเลยครับ”
อู๋เฟิงพูดอย่างต่อเนื่อง ครั้งนี้ไม่กล้าพูดจาส่งเดช
เย่เซิ่งเทียนไม่ได้คัดค้านอะไร
แต่ว่า อาหารมื้อนี้เป็นมื้อหนึ่งที่ทรมานมากที่สุดที่อู๋เฟิงเคยทานมา
เขาจิตใจพะว้าพะวังไม่เป็นสุข เป็นระเบียบเรียบร้อยเหมือนเด็กนักเรียนประถม ก้นก็นั่งลงบนเก้าอี้เพียงเล็กน้อย เป็นคนคารวะเหล้าให้กับเย่เซิ่งเทียนและหวางซีก่อน แต่ก็ไม่กล้าคารวะเหล้าบ่อยๆ
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ หวางซียังเป็นคนคารวะเหล้าให้กับเขาก่อนด้วย เกือบทำให้เขาตกใจแทบตาย และรีบพูดว่า: “ประธานหวาง ผมดื่มแล้ว เชิญคุณตามสบาย เชิญคุณตามสบายครับ”
เดิมทีเขาก็ดื่มเหล้าเก่งมาก แต่ว่าตอนนี้ดื่มไปสี่ห้าแก้ว ก็เมาในทันที พูดจาลิ้นก็พันกัน
หลังจากที่ทานเสร็จ หวางซีพูดว่า: “คาดไม่ถึงว่าประธานอู๋จะดื่มไม่เก่งกว่าฉัน ฉันยังไม่เมาเลย”
เย่เซิ่งเทียนพูดหยอกล้อว่า: “นั่นนะสิ เธอเป็นเทพเจ้าแห่งไวน์ของครัวครอบเรา”
“ไปให้พ้น”
หวางซีเตะขาเย่เซิ่งเทียนหนึ่งที ชี้นิ้วแตะไปที่คาง และพูดจาแปลกๆว่า: “ฉันรู้สึกว่าประธานอู๋แปลกๆ ดื่มเหล้าก็ไม่สนุก เหมือนราวกับผู้หญิง นายว่าคนเจ้าเล่ห์อย่างเขา ทำแบบนี้หมายความว่ายังไงกันแน่? ไม่ใช่ว่ามีความคิดอื่นนะ? ถ้าอยากประจบสอพลอเกาเจี๋ยและเลขาเวิน ไปหาพวกเขาโดยตรงก็ได้แล้ว ทำไมต้องผ่านฉันด้วย”
เย่เซิ่งเทียนพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “เธอน่ะ ไม่ต้องเดามั่วๆ ให้ความกล้าเขาหนึ่งพันเท่า เขาก็ไม่กล้ามีความคิดอื่น”
ขณะที่หวางซีกำลังจะพูด หลันรั่วรั่วก็โทรศัพท์เข้ามา และพูดว่า: “พี่ซี แย่แล้ว ทางตระกูลหมิงบอกว่า พวกเราแอบตัดขั้นการทำงานแล้วลดวัสดุ ตึกที่สร้างเสร็จได้ถล่มลงมา พวกเขาได้ส่งจดหมายทนายมา จะฟ้องเราแล้ว”
“อะไรน่ะ!!”
หวางซีตกตะลึง