Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 594 เข้าสู่หน่วยกล้าตาย
ด้วยคำสั่งของหยางทาว คนของเจ็ดตระกูลเก่าแก่ถูกจับกุมทั้งหมด
คนพวกนี้ตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ
ตอนนี้เซียนบู๊ที่คุกเข่าอยู่บนพื้น ร่างกายของพวกเขาสั้นไปหมด และเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“พวกแกยังต้องการจัดการเจ้าเทพอีกไหม?”
เมื่อมองเซียนบู๊สิบกว่าคนเหล่านี้ หยางทาวรู้สึกเกลียดชังเป็นอย่างยิ่ง
ถ้าหากคนเหล่านี้อยู่ในสนามรบ พวกเขาจะเป็นจุดแข็งของประเทศต้าเซี่ย
ผู้แข็งแกร่งเซียนบู๊สิบกว่าคน ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ไหนก็เป็นการดำรงอยู่ที่ไม่ควรมองข้าม
แต่ตอนนี้พวกเขาเต็มใจที่จะเป็นสุนัขรับใช้ของเจ็ดตระกูลเก่าแก่!
ต้องรู้ว่าแม้แต่ในหอมังกรเทพที่เย่เซิ่งเทียนเป็นคนก่อตั้ง ก็มีผู้แข็งแกร่งเซียนบู๊ไม่มากนัก อย่างมากสุดก็ไม่เกินสิบคน
แต่ตระกูลเก่าแก่ผู้ดีมีมากขนาดนี้ และนี่เป็นเพียงความแข็งแกร่งเพียงผิวเผินเท่านั้น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของตระกูลเก่าแก่ผู้ดี!
และนี่ก็เป็นสาเหตุที่หยางทาวไม่ได้เคลื่อนไหวมาโดยตลอด เพราะเมื่อเขาแตกหักกับตระกูลเก่าแก่ผู้ดีแล้ว ต้าเซี่ยจะต้องพบกับความหายนะ!
ผู้แข็งแกร่งเซียนบู๊สิบกว่าคนที่คุกเข่าอยู่บนพื้นไม่พูดอะไรสักคำ
พวกเขารู้ดีว่าตนเองยากที่จะหนีพ้นแล้ว ตอนนี้พวกเขาต้องการตายอย่างรวดเร็วเท่านั้น!
พวกเขาทั้งหมดได้รับการบ่มเพาะความสามารถจากเจ็ดตระกูลเก่าแก่ และพวกเขาก็จงรักภักดีต่อเจ็ดตระกูลเก่าแก่ ถึงแม้พวกเขาจะเป็นปัญญาชน แต่ความจริงแล้วพวกเขาก็ไม่ต่างไปจากทหารกล้าตาย
ตระกูลที่มีอายุหาสิบปีเป็นตระกูลคนรวย ส่วนตระกูลที่มีอายุหนึ่งร้อยปีขึ้นไปถึงจะกลายเป็นตระกูลผู้ดี หลังจากสืบทอดมาห้าร้อยปีถึงจะเป็นตระกูลเก่าแก่!
เจ็ดตระกูลเก่าแก่สืบทอดมาเป็นเวลาห้าร้อยกว่าปีแล้ว และสะสมพลังอำนาจมาเป็นเวลาหลายร้อยปี สามารถจินตนาการถึงพลังอันน่าสะพรึงกลัวนี้ได้
ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่แต่ละตระกูลเก่าแก่จะส่งเซียนบู๊สองคนออกมาพร้อมกัน
“ดูเหมือนว่าเจ็ดตระกูลเก่าแก่จะแตกหักกับต้าเซี่ยแล้วใช่ไหม? ไม่ต้องการแม้แต่เส้นตายและเกียรติแล้ว? ยังคิดที่จะลงมือทำร้ายเจ้าเทพ พวกแกช่างใจกล้าจริงๆ!”
หยางทาวไม่มีความหวังกับเจ็ดตระกูลเก่าแก่อีกต่อไปแล้ว การที่เจ็ดตระกูลเก่าแก่เข้ามาแทรกแซงการแข่งขันทักษะทางการแพทย์วันนี้ ซึ่งทำให้หยางทาวหมดความอดทนแล้ว
“ขุนหลวง ถึงแม้พวกเราตายก็ไม่น่าเสียดาย พวกเราได้รับบุญคุณจากตระกูลตั้งแต่ยังเด็ก ดังนั้นคุณฆ่าพวกเราเถอะ”
มีคนกล่าวเบา ๆ
“ฆ่าพวกแกเหรอ? มันจะทำให้พวกแกสบายเกินไป!”
หยางทาวพ่นลมออกมาอย่างเย็นชา มองไปที่เย่เซิ่งเทียน และกล่าวว่า “เซิ่งเทียน ให้นายเป็นคนจัดการคนพวกนี้! ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เซียนบู๊สิบกว่าคนรู้สึกสิ้นหวังทันที!
สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดคืออยากตายแต่ตายไม่ได้!
สิ่งที่พวกเขากลัวที่สุดคือการตกไปอยู่ในมือของเย่เซิ่งเทียน!
ทันใดนั้นมีคนเอาฝ่ามือสับไปที่ศีรษะของตนเอง พยายามจะฆ่าตัวตาย
แต่เย่เซิ่งเทียนเร็วกว่าเขา และควบคุมเขาทันที
เย่เซิ่งเทียนกล่าวอย่างเย็นชา “การที่เจ็ดตระกูลเก่าแก่บ่มเพาะความสามารถพวกคุณออกมาสิบกว่าคนนั้นมันไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ผมจะให้พวกคุณเข้าสู่หน่วยกล้าตาย เพื่อให้พวกคุณได้ชดใช้ความผิด! ตอนนี้ชายแดนของประเทศถูกล้อมรอบด้วยกองกำลังที่แข็งแกร่ง พวกคุณคิดว่าผมจะปล่อยให้พวกคุณตายหรือ?”
มีคนกล่าวด้วยความโมโหว่า “ฆ่าได้แต่หยามไม่ได้ เจ้าเทพ ความแข็งแกร่งของพวกเราสู้คุณไม่ได้ ทำไมคุณถึงต้องดูหมิ่นพวกเรามากขนาดนี้ด้วย!”
เพี๊ยะ!
จ้าวกั๋วจู้ตบหน้าเขา “ดูหมิ่น? พวกแกคู่ควรเหรอ? การที่ให้พวกแกเป็นสมาชิกของหน่วยกล้าตาย เป็นเพียงแค่การใช้คนที่ไร้ประโยชน์อย่างพวกแกเท่านั้น พวกแกว่าตนเองเป็นตัวอะไร? กล้าที่จะพูดต่อหน้าเจ้าเทพของประเทศต้าเซี่ยอีก? แกมีสิทธิ์ที่จะพูดเหรอ?”
ถึงแม้ว่าจ้าวกั๋วจู้และเย่เซิ่งเทียนจะอยู่ในระดับเดียวกัน แต่ตอนนี้เขาเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเย่เซิ่งเทียน
เจ้าเทพของต้าเซี่ย ที่มีพลังการต่อสู้เป็นอันดับหนึ่งในโลก พูดไร้สาระกับคนเหล่านี้ นั่นเป็นความอัปยศของเย่เซิ่งเทียน!
เย่เซิ่งเทียนโทรไปหาเวินเฉิน สั่งสองสามประโยค แล้วให้ผู้แข็งแกร่งเซียนบู๊สิบกว่าคนนี้เข้าสู่หน่วยกล้าตายของหอมังกรเทพ
สีหน้าของผู้แข็งแกร่งเซียนบู๊สิบกว่าคนหมองหม่น เหลือเพียงความสิ้นหวังเท่านั้น
ถ้าพวกเขาเข้าสู่หน่วยกล้าตายของหอมังกรเทพแล้ว พวกเขาไม่มีโอกาสแม้แต่จะหลบหนีด้วยซ้ำ