ก่อนหน้านั้นภายใต้แรงกดดันที่แข็งแกร่งของเย่เซิ่งเทียน ทำให้พวกเขาต้องยอมจำนน
แต่ตอนนี้หลี่ซื่อกรุ๊ปถูกตรวจสอบและอายัดแล้ว นี่เป็นข้ออ้างที่พวกเขาระเบิดออกมา
ต้องการใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ เพื่อยึดตำแหน่งผู้นำตระกูล
ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถยึดมาได้ แต่การที่ให้หลี่เฟิงเป็นผู้นำตระกูลคนใหม่ของตระกูลหลี่ก็ได้
หลี่เฟิงเป็นคนที่อ่อนแอไม่เด็ดขาด ไม่มีความกล้าหาญและควบคุมได้ง่าย ซึ่งสอดคล้องกับสิ่งที่พวกเขาต้องการ
และช่วงเวลานี้ หลี่เฟิงกำลังเคลื่อนไหว โดยแอบรวมตัวกับครอบครัวต่าง ๆ เพื่อยึดอำนาจ และแต่ละครอบครัวก็ถือโอกาสสนับสนุนหลี่เฟิง เพราะว่าหลี่เฟิงควบคุมง่าย
ซึ่งพวกเขาได้รับสัญญาและผลประโยชน์มากมายจากหลี่เฟิง
ดังนั้น หลี่เผิงเฉิงหลานชายของหลี่กั๋วเฉียงจากบ้านสามเป็นฝ่ายพูดโจมตีก่อน
เมื่อสมาชิกของบ้านสามพูดโจมตี สมาชิกของบ้านสองฉวยโอกาสกล่าวเสริมว่า “ถูกต้อง หวางซี พวกเราไม่ได้พุ่งเป้าไปที่คุณ พวกเรารู้ว่าคุณมีความสามารถ แต่ที่นี่คือเมืองโมตู เพราะอย่างไรคุณก็มาจากเมืองเล็ก ๆ ถ้าพูดน่าเกลียดหน่อย เมืองเฉียนถังเทียบกับเมืองโมตูแล้ว ถือว่าเป็นแค่ชนบท สำหรับที่นี่แล้วความสามารถแค่นั้นของคุณยังไม่เพียงพอ และคุณไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนเองไปล่วงเกินใคร นี่หมายความว่าคุณยังไม่มีความสามารถเพียงพอใช่หรือไม่? พวกเราไม่ได้พุ่งเป้าไปที่คุณ พวกเราแค่รู้สึกว่าคุณไม่เหมาะสมที่จะบริหารหลี่ซื่อกรุ๊ปอีกต่อไปแล้ว”
เมื่อมีคนพูดนำ คนที่เหลือต่างก็พูดว่า “ถูกต้อง ในเมื่อคุณเป็นผู้บริหารหลี่ซื่อกรุ๊ป คุณควรให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ของหลี่ซื่อกรุ๊ปเป็นหลัก และไม่ควรให้ความสำคัญกับชื่อเสียงของตนเองเป็นหลัก ตอนนี้คุณกำลังให้ความสำคัญกับเรื่องเล็กน้อยกว่า แล้วจะให้พวกเราเชื่อใจคุณอีกครั้งได้อย่างไร”
มีคนกล่าวตำหนิอีกว่า “ผมได้ยินมาว่าการที่หลี่ซื่อกรุ๊ปถูกตรวจสอบและอายัด เป็นเพราะคุณปฏิเสธคำเชิญเต้นรำของคุณชายซ่งในงานบุคคลหัวกะทิเมื่อวาน และคุณตบหน้าคุณชายซ่ง แล้วยังพูดจาหยาบคาย จนทำให้เกิดความหายนะนี้ ถ้าทุกคนเป็นเหมือนคุณ แล้วตระกูลหลี่จะพัฒนาจนเติบโตถึงทุกวันนี้ได้อย่างไร? ถ้าคนที่บริหารหลี่ซื่อกรุ๊ปเป็นเหมือนคุณ แล้วหลี่ซื่อกรุ๊ปจะยังมีอนาคตอีกหรือไม่?”
บางคนกล่าวด้วยความมั่นใจว่า “ผมขอพูดคำพูดที่ไม่น่าฟังหน่อย ถึงแม้ว่าพวกเราตระกูลหลี่ ตระกูลไป๋และตระกูลซ่ง จะถูกเรียกว่าสามยักษ์ใหญ่แห่งเมืองโมตู แต่ความเป็นจริงแล้วทุกคนรู้ว่าตระกูลซ่งเป็นตระกูลแข็งแกร่งที่สุด ภูมิหลังของตระกูลซ่งยิ่งใหญ่เสียดฟ้า แล้วยังมีตระกูลเก่าแก่คอยสนับสนุนอยู่ พวกเราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของตระกูลซ่งเลย และการที่คุณชายซ่งเชิญคุณ มันเป็นการให้เกียรติคุณแล้ว ตอนนี้หลี่ซื่อกรุ๊ปถูกตรวจสอบและอายัด ไม่ต้องถามก็รู้ว่าต้องเป็นฝีมือของคุณชายซ่ง!”
ยังมีบางคนกล่าวด้วยน้ำเสียงแปลก ๆ “ฮึ่ม! เสแสร้งจริงจังเพื่ออะไร? ทุกคนต่างก็รู้เรื่องสกปรกของคุณ ไปนอนเป็นเพื่อนคุณชายซ่งคืนหนึ่งแล้วจะเป็นอะไรไปล่ะ? มันก็ไม่ได้ทำให้คุณเสียหายสักหน่อย!”
คนพวกนี้พูดน่าเกลียดมาก และความหมายของพวกเขานั้นชัดเจนมาก พวกเขาคิดว่าหวางซีไม่ควรปฏิเสธคุณชายซ่ง และควรไปนอนกับคุณชายซ่งหนึ่งคืน
คนของตระกูลหลี่ยังไม่รู้ว่าข้างนอกเกิดอะไรขึ้น เพราะข่าวการเสียชีวิตของซ่งหยวนลี่ถูกควบคุมให้รู้แค่วงแคบ ๆ เท่านั้น ซึ่งมีคนรู้เรื่องนี้จริง ๆ ไม่มาก
ตระกูลซ่งยังไม่ได้ประกาศ เพียงแต่เผยแพร่ในหมู่คนวงในเท่านั้น
และตระกูลหลี่ยังไม่ทราบข่าวดังกล่าว ซึ่งแสดงให้เห็นว่าคนเหล่านี้ถูกปิดกั้นข่าวเพียงใด ขณะเดียวกันก็แสดงว่าพวกเขานี้โง่เขลาเพียงใด
ตอนที่หลี่ซื่อกรุ๊ปถูกตรวจสอบและอายัด พวกเขาตื่นตระหนกมาก และไม่มีอารมณ์ที่จะไปสอบถามเรื่องนี้
หากพวกเขามีวิสัยทัศน์มากกว่านี้หน่อย พวกเขาคงจะตรวจสอบข่าวของบริษัทหัวหยวนได้นานแล้ว ซึ่งเวลาผ่านมานานแล้ว แต่พวกเขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับบริษัทหัวหยวนเลย พวกเขาแค่อาศัยการคาดเดาจากสิ่งที่เห็น ดูถูกเหยียดหยามและเยาะเย้ยหวางซี
แสดงให้เห็นว่าพวกเขานั้นโง่เขลาเพียงใด
หวางซีกัดฟันและไม่พูดอะไรสักคำ
คนเหล่านี้นอกจากซ้ำเติมคนอื่นแล้ว ยังทำอะไรเป็นไหม??
ตอนนี้ตระกูลหลี่อยู่ในภาวะวิกฤติ ทุกคนควรร่วมกันเพื่อฟันฝ่าสถานการณ์ที่ยากลำบากนี้ไปด้วยกัน
แต่คนเหล่านี้กลับรู้แค่จะแย่งชิงอำนาจและผลประโยชน์เท่านั้น ซึ่งน่าเศร้าใจจริง ๆ
ท่านรอง หลี่กั๋วเหว่ยและท่านสาม หลี่กั๋วเฉียงไม่ได้พูดอะไร แต่พวกเขาสองคนขยิบตาให้หลี่เฟิง
