“ถอยเร็ว!”
กู่เหอกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา และรีบถอยไปหลายสิบเมตร
คนที่เหลือต่างก็หลบเลี่ยง ดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดผวา
เทพบู๊ต่อสู้กัน แค่ผลพวงของแรงกดดันเพียงอย่างเดียว ก็สามารถบดขยี้พวกเขาให้ตายได้!
โดยปกติแล้วถึงแม้ว่าเทพบู๊จะปล่อยพลังออกมากดดัน แต่เป็นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
และเมื่อเทพบู๊สามคนต่อสู้กัน ไม่มีทางที่จะควบคุมแรงกดดัน บวกกับรัศมีสังหารที่อยู่บนร่างกายของพวกเขา และความผันผวนของพลังจิต คนที่แดนต่ำกว่าระดับเซียนบู๊ ถ้าไม่ตายก็จะได้รับบาดเจ็บสาหัส!
บูม ๆ ๆ ๆ!
ถึงแม้ว่ากู่เหอจะเตือนทันเวลา แต่บางคนถอยช้าไปหนึ่งก้าว ทันใดนั้นพวกเขาก็ถูกบดขยี้ตายด้วยแรงกดดันที่มองไม่เห็น แล้วร่างกายของพวกเขาก็ระเบิดเหมือนประทัด
ร่างกายของกู่ฉิงฉิงสั่นไปทั้งตัว เธอรู้ว่าลุงที่อยู่ข้างเย่เซิ่งเทียนนั้นแข็งแกร่งมาก แต่นึกไม่ถึงว่าเขาจะแข็งแกร่งขนาดนี้ จนแม้แต่ปู่หวังและปู่หลิวร่วมมือกันแล้ว ก็แค่เสมอกันเท่านั้น
“เขายั้งมือไว้แล้ว!”
สีหน้าของกู่ชวนขาวซีด และกล่าวกับกู่เหอเบา ๆ “ท่านหวังกับท่านหลิวร่วมมือกัน ถึงจะสามารถต่อสู้เสมอได้ อย่างน้อยเขาต้องเป็นเทพบู๊ระดับสองดาว! ความแข็งแกร่งและพลังเลือดของเทพบู๊สองดาว ไม่ใช่สิ่งที่เป็นเทพบู๊ระดับหนึ่งดาวสามารถเทียบได้ ถึงแม้ว่าท่านหวังกับท่านหลิวร่วมมือกัน แต่เมื่อเวลาผ่านไปนาน เกรงว่าพวกเขาอาจจะพ่ายแพ้!”
กู่เหอใบหน้าเหลี่ยม คิ้วหนาและตาโต ดูแล้วเหมือนคนซื่อ ๆ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความกังวล และตะโกนเสียงดัง “เย่เซิ่งเทียน ที่นี่คืออาณาเขตของตระกูลกู่ แกกล้ามาทำอะไรตามใจชอบเหรอ? แกคิดว่าตระกูลกู่เหมือนตระกูลซ่งเหรอ? ให้คนของแกหยุดเดี๋ยวนี้ แล้วตระกูลกู่จะสามารถปล่อยให้แกมีชีวิตรอด มิเช่นนั้น พวกเราจะทำลายล้างตระกูลของแก!”
สีหน้าของกู่ชวนเต็มไปด้วยความกังวลและกล่าวว่า “พี่ใหญ่ ทำเช่นนั้นไม่ได้! ตอนนี้เทพบู๊สองคนของตระกูลกู่ต่อสู้กับลูกน้องของเย่เซิ่งเทียนและเสมอกัน คุณยังคิดไม่ออกหรือว่ามีอะไรอยู่ในนั้น? พลังที่เย่เซิ่งเทียนปล่อยออกมาเมื่อสักครู่นั้นไม่ธรรมดา ชั่วพริบตาเดียวก็สามารถฆ่าเซียนบู๊ได้! แล้วพลังของเขานั้นจะแข็งแกร่งเพียงใด? และพวกเราไม่จำเป็นต้องล่วงเกินคนที่แข็งแกร่งขนาดนี้เพื่อตระกูลซ่ง ถ้ายั่วยุจนเย่เซิ่งเทียนโกรธขึ้นมาแล้วลงมือเอง แล้วพวกเราจะทำอย่างไรล่ะ?”
กู่เหอที่เป็นคนซื่อ ๆ อุทานว่า “ห๊ะ? แล้ว..แล้วตอนนี้ควรจะทำอย่างไรดี? ผมควรแสดงความแข็งกร้าวไหม? น้องชวนเอ๊ย เมื่อสักครู่คุณบอกให้ผมแข็งกร้าว ตอนนี้คุณก็บอกผมว่าอย่าทำให้เซิ่งเทียนโกรธ คุณต้องการให้ผมทำอย่างไรกันแน่? หรือคุณมาเป็นผู้นำตระกูลเองเลยดีไหม?!”
กู่ชวนรู้สึกโมโหมาก อยากจะฆ่าคนไร้ประโยชน์อย่างกู่เหอให้ตายไปเลย
เมื่อก่อนเขารู้สึกว่าให้คนไม่เอาไหนอย่างกู่เหอเป็นผู้นำตระกูล มันง่ายต่อการควบคุม แต่นึกไม่ถึงว่าเมื่อถึงเวลาเช่นนี้แล้วมันจะทำให้เรื่องราวแย่ลง!
“พี่ใหญ่ ผมหมายความว่าอย่าเพิ่งทำให้เขาโกรธ เพื่อดูว่าเป้าหมายของเย่เซิ่งเทียนคืออะไร การวิเคราะห์เมื่อสักครู่ของผมเป็นเพียงการเดาคร่าว ๆ เท่านั้น ตอนนี้ฝั่งเย่เซิ่งเทียนยังยั้งมือไว้ไมตรี หมายความว่ายังมีที่ว่างสำหรับการเจรจา”
กู่ชวนอดทนต่อความอยากจะตบกู่เหอให้ตาย และอธิบายด้วยความอดทน “การที่เย่เซิ่งเทียนมาตระกูลกู่คราวนี้ คงไม่ใช่มาหาเรื่องหรอก อาจเป็นเขามีข้อเรียกร้องอื่น ๆก็ได้”
“หรือจะให้อารองออกมาจัดการเย่เซิ่งเทียน? ผมไม่เข้าใจความซับซ้อนที่อยู่ในนั้นจริง ๆ คุณก็รู้ว่าผมไม่มีพรสวรรค์ทางด้านนี้เลย”
สีหน้าของกู่เหอเต็มไปด้วยความลำบากใจ และดวงตาไร้เดียงสาเต็มไปด้วยความคับข้องใจที่ทำความผิด
คนไม่เอาไหน!
คนไม่เอาไหนที่ไร้ประโยชน์!
กู่ชวนรู้สึกโมโห “ผมบอกคุณกี่ครั้งแล้วว่าตอนนี้พ่อของผมไม่สามารถออกมาได้ เขาเป็นไพ่ตายของตระกูลพวกเรา และการที่เปิดเผยไผ่ตายออกมาตอนนี้มันไม่ใช่เรื่องดี ผมหมายความว่าคุณยับยั้งเย่เซิ่งเทียนก่อน แล้วหยั่งเชิงว่าเขามีข้อเรียกร้องอะไร”
กู่เหอพยักหน้าและกล่าวว่า “ผมเข้าใจแล้ว”
เขาเดินไปข้างหน้า รู้สึกถึงแรงกดดันจากการต่อสู้ของเทพบู๊สามคนที่อยู่ตรงหน้า ซึ่งทำให้เขารู้สึกตกใจ เขาจึงรีบถอยหลังไปสามก้าว ซ่อนตัวอยู่หลังกู่ชวนและตะโกนว่า “เย่เซิ่งเทียน ผมชื่อกู่เหอเป็นผู้นำตระกูลกู่ บอกให้คนของคุณหยุด คุณมีข้อเรียกร้องอะไรก็สามารถบอกออกมาได้ ตระกูลกู่สามารถตอบสนองคุณได้ พวกเราจะไม่ต้องต่อสู้กันอีก ตอนนี้ไผ่ตายของตระกูลกู่ยังไม่ปรากฏตัวออกมา มิเช่นนั้นคุณต้องตายโดยไร้ที่ฝังอย่างแน่นอน”
“แก!!”
กู่ชวนรู้สึกโกรธแล้วสะบัดกู่เหอออกไป คนไร้ประโยชน์ เปิดเผยไพ่ตายของตระกูลกู่ออกมา การพูดแบบนี้มันไม่แตกต่างอะไรกับการขอความเมตตา! !
แม่งฉิบหาย!
คนไร้ประโยชน์!
ไม่มีประโยชน์ตามที่คาดไว้แม้แต่น้อย ซึ่งการเป็นหุ่นเชิดนั้นเป็นประโยชน์มากที่สุดของเขาแล้ว!
กู่ชวนกล่าวเสียงดัง “เย่เซิ่งเทียน พี่ใหญ่ของผมหมายความว่าพวกเราทั้งสองฝ่ายไม่จำเป็นต้องเป็นศัตรูเพราะตระกูลซ่ง พวกเรามานั่งคุยกัน เปลี่ยนจากการต่อสู้เป็นสันติภาพ คุณเป็นคนที่รู้จักแยกแยะผิดชอบชั่วดีและกล้ามางานแต่งงานของฉิงเอ๋อร์ ถ้ามีเรื่องอะไร พวกเราสามารถพูดคุยกันได้”
เย่เซิ่งเทียนกล่าวช้า ๆ ว่า ”คุณเป็นใคร? ”
กู่ชวนกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ผมคือกู่ชวนแห่งตระกูลกู่!”
เย่เซิ่งเทียนพ่นลมออกมาอย่างเย็นชา ”คุณเป็นตัวอะไร ให้กู่เหอเป็นคนออกมาเจรจา”