Mars เจ้าสงครามครองโลก – บทที่ 771 มาเป็นลูกบุญธรรมของฉันเถอะ

Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่771 มาเป็นลูกบุญธรรมของฉันเถอะ
ก่อนหน้านี้ร้านอินเทอร์เน็ตถูกพวกเฮียโก่วเคลียร์หน้างานหมดแล้ว เถ้าแก่ก็ทำได้เพียงแอบมองอยู่ด้านหลัง

ภาพฉากเมื่อครู่นี้ทำให้เขาตกใจแทบแย่แล้ว กลุ่มคนอย่างเฮียโก่วโหดเหี้ยมมากจริงๆ เกือบจะทุบตีสองพ่อลูกให้ตายแล้ว

แต่ทว่าวัยรุ่นคนนี้ที่มาตอนหลังก็โหดเหี้ยมเช่นกัน ต่อยหวงเหมาและเฮียโก่วจนหน้าบวมจมูกฟกช้ำไม่เหมือนคนปกติทั่วไป ปูดบวมเหมือนกับหัวหมูยังไงอย่างนั้น

วัยรุ่นคนนี้เป็นใครกัน สุดยอดเกินไปแล้วหรือเปล่า？

แต่ว่าเฮียโก่วเป็นคนของท่านสามนะ คิดไม่ถึงว่าวัยรุ่นคนนี้จะกล้าให้เฮียโก่วโทรเรียกท่านสามมา รนหาที่ตายหรือไง？

เขาก็อยากดู วัยรุ่นคนนี้จะสุดยอดแค่ไหน

เย่เซิ่งเทียนสงบนิ่ง แต่ว่าหวงเหมาที่อยู่ข้างๆนั้นตื่นตระหนกอย่างมาก ทำไมไอ้หมอนี่ยังไม่หนีอีก？

ท่านสามมาแล้วนะ

ขบวนรถของท่านสามมาถึงแล้ว เย่เซิ่งเทียนไม่แม้แต่จะมองสักแวบหนึ่ง

ในเวลานี้เฮียโก่วเหมือนสุนัขพันธุ์ปั๊กเลย ก็ขาดแค่ไม่ได้คุกเข่าลงไปเลียเท้าท่านสามเท่านั้น

เขาโน้มตัว เปิดประตูรถด้วยพฤติกรรมที่เยี่ยงสุนัข พูดกระซิบกระซาบอะไรบางอย่าง แถมยังมองไปยังเย่เซิ่งเทียนแวบหนึ่ง เผยสายตาที่ชั่วร้ายออกมาจากนัยน์ตา

ท่านสามพยักหน้าแล้ว เสแสร้งเป็นค้ำไม้เท้า แต่ไม่ได้มีประโยชน์มากสักเท่าไหร่

มีอันธพาลใส่สูทสีดำสิบกว่าคนลงมาจากรถที่ตามหลังมา แต่ละคนต่างก็โกนหัวล้าน ใส่แว่นตาดำ ร่างกายแข็งแรงกำยำ หน้าตาดุร้าย ติดตามหลังท่านสามอย่างพวกผีห่าซาตาน

ก็เหมือนกับภาพฉากที่แก๊งขวานซิ่งปรากฏตัวใน《คนเล็กหมัดเทวดา》ของโจวซิงฉือ ราวกับกลุ่มเมฆดำทะมึนกดทับมาแล้ว

เย่เซิ่งเทียนยังไม่ได้พูดอะไร ออร่าของท่านสามก็ทำให้หวงเหมาตกใจฉี่ไหลแล้ว คุกเข่าลงพื้นพร้อมพูดว่า “ท่านสาม ไม่เกี่ยวกับฉันนะ ฉันทำไปเพื่อมีชีวิตอยู่รอด เฮียโก่ววางแผนทำร้ายฉันก่อน”

ท่านสามมองเขาแวบหนึ่ง ไม่พูด ชายร่างกำยำที่อยู่ด้านหลังคนหนึ่งเดินเข้ามาตบหน้าหวงเหมาดังเปรี๊ยะๆๆๆ พูดว่า “ชีวิตของแกเป็นของท่านสาม อาโก่วเป็นพี่ใหญ่ของแก สิ่งที่สำคัญที่สุดในการทำงานในกลุ่มอิทธิพลมืดคือความภักดี อาโก่วให้แกทำอะไรก็ทำอันนั้น คิดไม่ถึงว่าแกจะกล้าหักหลังพี่ใหญ่ของแก ฉันว่าแกไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว”

พูดจบ ยกเข่าขึ้นมา จะตีเข่าไปที่หน้าของหวงเหมา

นี่ถ้าหากชนเข้าแล้ว หากหวงเหมาไม่ตายก็ต้องกลายเป็นคนปัญญาอ่อน

แต่ในเวลานี้ ชายร่างกำยำคนนี้ลอยออกไปเลย กระแทกลงใต้เท้าของท่านสามอย่างหนักหน่วง

เย่เซิ่งเทียนลงมือแล้ว！

“เด็กน้อย ความเร็วใช้ได้เลยนะ เคยฝึกมาสินะ？”

ท่านสามเอียงปาก คนข้างๆคนหนึ่งรีบยื่นซิการ์มาให้มวนหนึ่ง อีกคนจุดไฟ

ท่านสามสูดลมหายใจเข้าลึก หลังจากนั้นคนๆนั้นที่ยื่นบุหรี่ให้รีบเอาซิการ์ออก ท่านสามพ่นควันโขมงออกมา พูดอย่างเชื่องช้าว่า “ดูความเร็วเมื่อกี้ของแกแล้ว เป็นผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้คนหนึ่ง ฉันท่านสามเป็นคนที่รักและหวงแหนบุคคลที่มีพรสวรรค์ ขอเพียงแค่คุกเข่าโขลกศีรษะให้ฉันสามครั้ง ยอมรับผิด ฉันรับแกเป็นลูกบุญธรรมของฉันได้ ขอเพียงแค่เป็นลูกบุญธรรมของฉัน อยู่ในเมืองเฉียนถัง แกทำอะไรตามอำเภอใจเลยได้ทั้งนั้น ไม่มีใครกล้าแตะต้องแก”

อะไรนะ？

ท่านสามคิดอยากจะรับไอ้หมอนี่เป็นลูกบุญธรรมเหรอ？

เมื่อฟังคำนี้ ใจของเฮียโก่วก็เต้นดังตุบๆๆๆทันที ถ้าไอ้หมอนี่กลายมาเป็นลูกชายบุญธรรมของท่านสาม งั้นไม่เอาตัวเองถึงตายเลยเหรอ？ควรจะทำยังไงดี？

จะต้องยับยั้งเขา

เฮียโก่วรีบพูดว่า “ท่านสาม ไอ้หมอนี่ทำลายเส้นทางทำเงินของคุณ แถมยังด่าทอคุณด้วย……”

ยังไม่ทันพูดจบ ลูกน้องที่อยู่ข้างๆคนหนึ่งตบลงบนหน้าของเฮียโก่ว พูดอย่างนิ่งๆว่า “ท่านสามพูดอยู่ แกจะพูดแทรกอะไร”

ท่านสามไม่แม้แต่จะมองเฮียโก่วเลยสักแวบเดียว จ้องมองเย่เซิ่งเทียนพร้อมพูดต่อว่า “เด็กน้อย คิดอยากจะสุดยอดกว่าฉันมันไม่ง่ายขนาดนั้น ความอดทนของฉันมีจำกัด ตอนนี้ไม่ตอบตกลง งั้นก็ไม่ใช่แค่เรื่องที่คุกเข่าลงโขลกศีรษะสามครั้งแล้ว”

เมืองเฉียนถังมีคนที่ไม่พยายามที่จะก้าวหน้านี่เยอะจริงๆ

เย่เซิ่งเทียนพูดติดตลกว่า “คุณแน่ใจเหรอ ว่าอยากจะเป็นพ่อบุญธรรมของฉัน？”

นัยน์ตาของท่านสาม เปล่งประกายแสง “เป็นเด็กน้อยที่ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีจริงๆ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นก็หักแขนขาเขาแล้วกัน”

เฮียโก่วดีใจ ไม่นึกเลยว่าไอ้หมอนี่จะไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี กล้าปฏิเสธท่านสาม เป็นลูกบุญธรรมของท่านสาม นี่เป็นโอกาสที่ใครหลายคนเรียกร้องล้วนแต่ไม่ได้รับ？พูดอย่างตื่นเต้นทันทีว่า “เด็กน้อย แกนี่รนหาที่ตายจริงๆ คิดไม่ถึงว่ากล้าปฏิเสธท่านสาม ในเมืองเฉียนถัง ไม่เคยมีใครกล้าปฏิเสธข้อเรียกร้องของท่านสามมาก่อนเลย！”

เขาเพิ่งจะพูดจบ เย่เซิ่งเทียนก็วาร์ปตัวปรากฏต่อหน้าของเขาทันที บีบคอของเฮียโก่ว พูดอย่างเยือกเย็นว่า “เดิมทีคิดจะเว้นชีวิตที่ไร้ค่าของแกไว้ ดูเหมือนว่าไม่จำเป็นแล้ว”