Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 803 เขาเป็นคนล้างโคตรตระกูลโจว
เย่เซิ่งเทียนยังคงสงบ ไม่ทำอะไรตระกูลฉินในทันที
ถ้าไม่สามารถกำจัดตระกูลฉินที่แท้จริงได้ ลำพังแค่กำจัดหุ่นเชิด ไม่มีประโยชน์อะไรหรอก ในทางกลับกันจะเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่นเสียมากกว่า
สิ่งที่ต้องทำในตอนนี้ก็คือ รีบค้นหาตำแหน่งที่อยู่อาศัยของตระกูลฉินที่แท้จริงว่าอยู่ที่ไหน
เห็นได้ชัดว่า ฉินหู่ไม่รู้เรื่องนี้
“ขอแค่นายอย่าฆ่าฉัน ฉันจะยอมให้ความร่วมมือนายทุกอย่างเลย”
ฉินหู่ตกใจกลัวจนขากางเกงทั้งสองข้างเปียกไปหมด
เย่เซิ่งเทียนล้วงเอายาเม็ดหนึ่งออกมา แล้วให้ฉินหู่กลืนลงไป พลางกล่าวอย่างเย็นชาว่า“ทางที่ดีอย่าคิดตุกติกล่ะ ไม่อย่างงั้นยานี่จะทำให้แกตายทั้งเป็น ไม่มีใครสามารถช่วยแกได้”
ฉินหู่รีบพยักหน้า เขาเคยเห็นมาแล้ว เย่เซิ่งเทียนไม่ได้ทำอะไรมากนัก เขาก็ทำให้บอดี้การ์ดตายทั้งหมด
“คุณเย่คะ แบบนี้ไม่ค่อยดีมั้งคะ?มันมีผลต่อชื่อเสียงของคุณ……”
หลี่เสี่ยวปิงพูดอย่างเป็นกังวล
ในใจของเธอ ภาพลักษณ์ของเย่เซิ่งเทียนสดใสและแข็งแกร่งเสมอ ตอนนี้เย่เซิ่งเทียนกลับใช้ยามาข่มขู่ฉินหู่ สิ่งนี้ทำให้เธอรับไม่ได้
ภาพลักษณ์ไอดอลของเธอพังทลายลงในชั่วพริบตา
เย่เซิ่งเทียนกล่าวอย่างเรียบเฉยว่า“เย่เซิ่งเทียนคนอย่างผมทำอะไร จำเป็นต้องอธิบายให้คนอื่นฟังด้วยหรอ”
หลี่เสี่ยวปิงตกตะลึง จากนั้นก็รู้สึกตัว เย่เซิ่งเทียนเดินมาจุดนี้ได้ ไม่รู้ว่าผ่านการสมรู้ร่วมคิดและทรยศหักหลังมามากแค่ไหน
ถ้าฉินหู่แสร้งให้ความร่วมมือล่ะ?
แต่ตนเองกลับใช้วิธีสกปรก ไม่มีข้าวกิน ทำไมไม่กินเนื้อแทนล่ะ
หลี่เสี่ยวปิงหน้าแดงก่ำ พูดเสียงเบา“คุณเย่คะ ขอโทษนะคะ ที่ฉันเข้าใจคุณผิด”
เย่เซิ่งเทียนไม่สนใจ
ทางที่เขาเดินมาทั้งหมด ไม่รู้ต้องผ่านอะไรมามากแค่ไหน บางคนมองว่าเขาเป็นบุคคลที่ได้สร้างคุณูปการให้แก่ประเทศชาติ บางคนก็มองว่าเขาเป็นจอมมารร้าย
และเขาก็ไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไร
“ไปเรียกพ่อของแกมา”
เย่เซิ่งเทียนมองไปที่ฉินหู่
ฉินหู่ตกตะลึง จากนั้นก็รีบคุกเข่าลงทันที“คุณเย่ครับ อย่าฆ่าพ่อผมเลยนะครับ ผมเป็นคนล่วงเกินคุณ มันไม่เกี่ยวอะไรกับพ่อผมนะครับ”
“ฉันไม่ทำอะไรเขาหรอก แค่มีเรื่องอยากจะถามเขาหน่อย”
เย่เซิ่งเทียนไม่ต้องการทำอะไรกับหุ่นเชิดของตระกูลฉิน
“ได้ครับๆ”
ฉินหู่รีบโทรหาฉินโจงพ่อของเขาทันที
ผ่านไปไม่นาน ฉินโจงก็รีบเดินออกมา
เมื่อมองเห็นสีหน้าซีดเผือดของลูกชาย เขาก็รู้ได้ทันทีว่าเกิดเรื่องไม่ชอบมาพากล เขากำลังจะกวักมือเรียกคน แต่เย่เซิ่งเทียนก็กล่าวอย่างเรียบเฉยขึ้นมาว่า“ฉินโจง ขึ้นรถคุยกันหน่อยสิ ถ้าผมคิดที่จะลงมือ คุณก็สู้ไม่ได้หรอก ต่อให้คุณเรียกคนทั้งตระกูลฉินมา ก็ไม่พอให้ผมฆ่าหรอก”
ฉินโจงตกใจ ไอ้หมอนี่เป็นใคร?ช่างจองหองยิ่งนัก
แต่เมื่อเห็นสายตาของลูกชาย เขาจึงไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม เขาขึ้นรถมาแล้วถามด้วยเสียงเย็นชาว่า“นายเป็นใคร?ฉันจะบอกอะไรนายไว้นะ ตระกูลฉินของฉัน ไม่ได้ล่วงเกินได้ง่ายๆนะ”
เย่เซิ่งเทียนไม่ได้สนใจเขา แล้วหันกลับไปพูดกับหลี่เสี่ยวปิงว่า“คุณหลี่ครับ คุณกับคุณชายใหญ่ฉินออกไปก่อนนะครับ ผมมีเรื่องจะคุยกับเจ้าบ้านตระกูลฉินหน่อย”
หลี่เสี่ยวปิงรู้สึกสงสัย ไม่รู้ว่าที่เย่เซิ่งเทียนมาตระกูลฉินเพื่ออะไรกันแน่ แต่ก็ไม่กล้าถามอะไร แล้วลงรถไปกับฉินหู่สองคน
เมื่อลงมาจากรถ ฉินหู่ก็พูดขอร้องอ้อนวอนว่า“เสี่ยวปิง ฉันผิดไปแล้ว ช่วยฉันคุยหน่อยเถอะ ให้เขาปล่อยฉันไป จากนี้ไปฉันจะไม่มายุ่งเกี่ยวอะไรกับเธออีกต่อไปแล้ว”
หลี่เสี่ยวปิงหัวเราะแล้วกล่าวว่า“คุณชายฉิน ก่อนหน้านั้นฉันบอกคุณแล้วใช่ไหม คุณเย่ไม่ใช่คนที่คุณจะล่วงเกินได้ แต่คุณก็ไม่ฟัง ฉันจะทำอะไรได้ล่ะ ฉันก็เป็นแค่นักแสดงคนหนึ่งเท่านั้นเอง ฉันไม่มีค่าอะไรในสายตาของคุณเย่หรอกนะ คุณเย่ให้บอกคุณว่าให้ความร่วมมือ คุณก็ทำไปเถอะ ทางที่ดีบอกกับพ่อคุณด้วยนะว่า ถ้าคุณเย่ต้องการอะไร คุณก็รีบตอบตกลงเท่านั้นเอง”
หลี่เสี่ยวปิงครุ่นคิดแล้วกล่าวว่า“เชื่อฉันเถอะ คุณเย่ไม่ใช่บุคคลที่พวกคุณจะล่วงเกินได้ ทั่วทั้งต้าเซี่ยคนที่สามารถล่วงเกินคุณเย่ได้ แทบไม่มีเลย”
ไม่มีจรืงๆ
เมื่อครั้งที่คุณเย่ทะเลาะกันอย่างใหญ่โตใน แม้แต่ขุนหลวงคนพวกนั้นยังยืนอยู่ข้างคุณเย่เลย สุดท้ายอดีตจอมพลไม่สามารถหาคำอธิบายได้ ในทางกลับกันเขายังลงโทษคนของตระกูลเย่อีกด้วย
เพื่อที่จะทำให้ฉินหู่รับรู้ถึงความหนักหนาของเรื่องนี้ หลี่เสี่ยวปิงจึงพูดย้ำเสียงแข็งว่า“ไม่ใช่แค่ต้าเซี่ยนะ รวมถึงต่างประเทศด้วย”
ฉินหู่กลืนน้ำลายดังเอือก แล้วพูดอย่างระมัดระหว่างว่า“เสี่ยวปิง ตกลงคุณเย่เป็นใครกันแน่?”
หลี่เสี่ยวปิงพูดด้วยสีหน้าตึงเครียดว่า“อย่าไปสืบตัวตนของคุณเย่เด็ดขาด คุณแค่ต้องรู้ไว้ว่าคนที่เป็นปริปักษ์กับคุณเย่ มันผู้นั้นต้องตาย ตระกูลโจวที่เป็นตระกูลอันดับหนึ่งในเจียงหนานเก๋ามากใช่ไหม?แต่ก็ถูกคุณเย่ล้างโคตรไปแล้วล่ะ”
ฉินหู่ตกใจจนเข่าอ่อนนั่งลงกับพื้น พลางพูดอย่างตะกุกตะกักว่า“คะ คนที่ล้างโคตรตระกูลโจว ชะ ใช่ครับคุณเย่?”
หลี่เสี่ยวปิงพยักหน้า
ฉินหู่ตบที่หน้าของตัวเองสองที แล้วกล่าวว่า“กูมันโง่ขริงๆ ตกลงไปล่วงเกินใครเข้าว่ะเนี่ย!”