Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 1003 กลายเป็นผุยผง
ตูม!
มีสายฟ้าอันใหญ่หลายๆอัน พุ่งใส่เย่เซิ่งเทียนกับวิญญาณหอคอย
“ฉันโกรธมากๆ! กดทับลงไปเดียวนี้!”
วิญญาณหอคอยระเบิดโซ่ที่มัดอยู่บนร่างกายออกมา เขาควบคุมหอผนึกปีศาจและกดทับเหล่าจู่ตระกูลเซียวอย่างต่อเนื่อง
แต่ในเวลานี้ เย่เซิ่งเทียนก็รวบรวมไฟเทพสามลมปราณได้แล้ว เขารีบปล่อยไฟเทพสามลมปราณพุ่งไปที่หอผนึกปีศาจ
“ไปตายซะเถอะ!”
เย่เซิ่งเทียนคำรามออกมา ไฟเทพสามลมปราณเริ่มแผดเผาทันที
“ไม่!”
เทพคนนั้นเริ่มหวาดกลัว เพราะหอผนึกปีศาจมีไฟแผดเผาแล้ว
ด้านในเจดีย์ มีโซ่สีดำจำนวนมากๆมัดเขาเอาไว้
ไฟเทพสามลมปราณแผดเผาและทำให้พลังทิพย์ของหอผนึกปีศาจปะทุออกมา ทำให้ชั้นที่หนึ่งเริ่มทำงานและมีรูปปั้นสัตว์เทพค่อยๆมีชีวิต
“อ๊าก——”
ด้านในเจดีย์มีเสียงกรีดร้องของเทพองค์นั้นกับเหล่าจู่ตระกูลเซียวดังขึ้น หอผนึกปีศาจหมุดตัวตลอดเวลา ทำให้ชั้นที่หนึ่งมียันต์สีทองปรากฏอย่างต่อเนื่อง มันเหมือนกับเปลวไฟ ทำให้พลังแผดเผาของไฟเทพสามลมปราณพุ่งสูงขึ้น
เวลาผ่านไป เสียงกรีดร้องที่ดังมาจากในเจดีย์ก็เบาลง เหล่าจู่ตระกูลเซียวกับเทพองค์นั้นโดนแผดเผาและตายอยู่ในเจดีย์
เมื่อมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ทำให้เย่เซิ่งเทียนหวาดกลัวจนตัวสั่น หอผนึกปีศาจอันนี้มีประวัติความเป็นมายังไงกันแน่?
ก่อนหน้านี้ตัวเองรอดชีวิตออกมาได้ มันเป็นปาฏิหาริย์ชัดๆ
ถ้าครั้งนั้นหอผนึกปีศาจปลดปล่อยพลังออกมาจริงๆ ตัวเองคงโดนแผดเผาจนเสียชีวิตภายในหนึ่งวินาทีอย่างแน่นอน
วิญญาณหอคอยพูดด้วยความภาคภูมิใจ:”ไม่ว่าแกจะเป็นเทพหรือมาร เมื่อเข้าไปในเจดีย์ แกก็จะถูกแผดเผาจนกลายเป็นผุยผง”
“เจดีย์เปิดใช้งานได้แล้วเหรอ?”
เย่เซิ่งเทียนดีใจมากๆ ถึงแม้หอผนึกปีศาจจะเหลือแค่สามชั้น แต่มองจากสถานการณ์ในตอนนี้ แม้แต่เทพก็โดนเผาจนเสียชีวิตได้
ถ้าต้องต่อสู้กับไอ้แก่ของสรวงสวรรค์ในอนาคตข้างหน้า พวกเขาก็มีไผ่ตายและความปลอดภัยมากขึ้น
วิญญาณหอคอยเปล่งเสียเย็นชาออกมาและพูด:”ใช้งานได้แค่ชั้นที่หนึ่งเท่านั้น แต่เทพเล็กๆนั้นสามารถเผาให้ตายได้อย่างแน่นอน”
ขณะพูด วิญญาณหอคอยก็เรียกหอผนึกปีศาจกลับมา จากนั้นก็เคาะหอผนึกปีศาจเบาๆ ด้านในเจดีย์ก็มีเศษฝุ่นถูกเทออกมา จากนั้นก็ปลิวออกไป
หลังจากนั้นก็พูดด้วยความเขินอาย:”แต่แกก็ห้ามชะล่าใจ ถึงแม้อีกฝ่ายจะเป็นเทพเล็กๆ แต่เมื่อจิตเทพสามารถลงมายังโลกมนุษย์ได้ เขาไม่ใช่เทพเล็กๆทั่วไปอยู่แล้ว วันนี้แกทำลายจิตเทพอันหนึ่งของอีกฝ่าย มันเท่ากับแกล่วงเกินผิดใจกับอีกฝ่ายแล้ว อนาคตข้างหน้าอีกฝ่ายต้องค่อยหาโอกาสสังหารแกอย่างแน่นอน”
เย่เซิ่งเทียนพูดอย่างไม่ใส่ใจ:”ใครกล้ามาสังหารฉัน ฉันก็จะสังหารมันด้วย ไม่ว่ามันจะเป็นเทพหรือเซียน ถ้ามันกล้ามาจริงๆ ฉันจะสังหารมันให้ตายไปเลย!”
จากนั้นก็เอ่ยปากถาม:”ชั้นที่หนึ่งทำงานได้แล้ว สามารถเผาเทพอาวุโสทั้งห้าของสรวงสวรรค์ได้ไหม?”
วิญญาณหอคอยส่ายหัว:”ยากมากๆ มันทำไม่ได้อยู่แล้ว แกต้องรู้ไว้เรื่องหนึ่ง เทพองค์นี้มาแค่จิตเทพอันเล็กๆเท่านั้น ร่างจริงของเขาไม่ได้มาด้วย ความจำและพลังของฉันก็สูญเสียไปมากมาย ตอนนี้พลังของฉันเหลือแค่หนึ่งในหมื่นเท่านั้น เรื่องสำคัญที่สุดก็คือ ฉันไม่สามารถเปิดใช้งานชั้นต่างๆด้วยตัวเองได้ พลังของแกก็อ่อนแอมากๆ ถ้าแกฝึกฝนถึงแดนเทพแล้ว ถึงแม้ฉันจะเปิดใช้งานได้แค่ชั้นที่หนึ่ง ไม่ต้องพูดถึงเทพอาวุโสทั้งห้าของสรวงสวรรค์เลย แม้แต่เทพจริงๆปรากฏตัว ก็ใช้ชั้นที่หนึ่งเผาอีกฝ่ายให้ตายได้”
เย่เซิ่งเทียนรู้สึกเศร้าเล็กน้อย พูดกันตามตรงเลย เพราะพลังของตัวเองอ่อนแอมากจนเกินไป
เมื่อก่อนตระกูลลี้ลับไม่ปรากฏตัว ตระกูลใหญ่ไม่ปรากฏตัว เขารู้สึกว่าตัวเองฝึกฝนถึงแดนเหนือโลกีย์ก็ไร้คู่ต่อสู้และแข็งแกร่งที่สุดแล้ว
แต่ว่าตอนนี้ เขากลับกลายเป็นคนที่อ่อนแอที่สุด เรื่องนี้ทำให้เขารู้สึกไม่พอใจมากๆ
จู่ๆวิญญาณหอคอยก็ขมวดคิ้วและพูด:”รีบๆจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย เมื่อสักครู่มีจิตเทพปรากฏ มันดึงดูดสายตาของคนจำนวนมาก เรื่องนี้ไม่เป็นผลดีกับพวกเราเลย”
เย่เซิ่งเทียนพยักหน้า เขารีบพุ่งไปด้านนอก ไม่ว่ายังไงเขาก็ต้องฆ่าล้างตระกูลเซียวให้ได้
ตอนนี้การต่อสู้ด้านนอกก็มาถึงช่วงสุดท้ายแล้ว มีจงหยู่กับเย่ว์อิ่นหลงอยู่ตรงนี้ บวกกับคนของตระกูลจงอยู่ด้วย คนสำคัญในตระกูลเซียวก็โดนเย่เซิ่งเทียนสังหารไปหมดแล้ว ทำให้ตระกูลเซียวไม่สามารถต้านรับได้อีก
“เซียวเทียนเฉิงอยู่ไหน?”
เย่เซิ่งเทียนถาม เพราะเซียวเทียนเฉิงต้องตายสถานเดียว!
“มันแผดเผาพลังชีวิตและหนีไป พวกเราหยุดมันไว้ไม่ได้”
จงหยู่รู้สึกอึดอัดใจ เขาคิดไม่ถึงจริงๆว่าเซียวเทียนเฉิงจะแผดเผาพลังชีวิตของตัวเอง ทำให้พลังของอีกฝ่ายพุ่งสูงถึงแดนสะพานเทพชั้นเจ็ด
ทำให้เขาไม่สามารถหยุดอีกฝ่ายได้เลย
“หนีไปแล้วเหรอ?”
เย่เซิ่งเทียนรู้สึกไม่พอใจ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
มีเพียงเซียวเทียนเฉิงหนีไปได้เพียงคนเดียว อนาคตข้างหน้ามีโอกาสสังหารอีกฝ่ายอยู่แล้ว
ตระกูลเซียวโดนฆ่าล้างตระกูล มันเป็นเรื่องดีมากๆ
“ทรัพยากรของตระกูลเซียวละ?”
เย่เซิ่งเทียนเอ่ยปากถาม
จงหยู่รีบเอ่ยปากพูด:”พวกเราจัดเตรียมไว้แล้ว ทำตามข้อตกลงก่อนหน้านี้ พวกเราแบ่งเป็นเจ็ดสิบกับสามสิบเปอร์เซ็นต์ ทรัพยากรเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ของหมอเทวดาหลินอยู่ในนี้”
จงหยู่ยื่นถุงเก็บของอันหนึ่งให้เย่เซิ่งเทียน ด้านในถุงอันนี้มีมิติที่สามารถเก็บของได้ และมันก็เป็นสมบัติล้ำค่าด้วย มีเพียงตระกูลลี้ลับถึงมีสิ่ของพวกนี้
เย่เซิ่งเทียนรับถุงเก็บของเอาไว้ เพราะเขารู้ดีกว่าตระกูลจงไม่กล้าทำอะไรตุกติกกับเขาอย่างแน่นอน
“ไว้เจอกันครั้งหน้า ถ้ามีโอกาสพวกเราก็มาร่วมมือกันอีก ตอนนี้ฉันขอตัวก่อน”
เย่เซิ่งเทียนและคนอื่นๆจากไปอย่างรวดเร็ว