ลู่ฝานใช้แรงทั้งหมด ในที่สุดก็เอากระบี่ออกมาได้
กระบี่ยาวประมาณสี่ฟุตกว่า กว้างหนึ่งฟุตกว่า ตัวกระบี่หนาและหนัก ไม่มีลวดลาย เห็นภาพหยินหยางเล็กๆ แบบรางๆ บริเวณด้ามกระบี่ เมื่อกระแทกลงบนพื้น ลู่ฝานเห็นพื้นยุบลงไป
นี่เป็นกระบี่ที่ทำจากวัสดุอะไรกัน ถึงหนักได้ขนาดนี้
สายตาของหวูเฉินโดนกระบี่ดึงดูด เขายื่นมือไปคว้า ฝ่ามือเพิ่งสัมผัสโดนตัวกระบี่ หวูเฉินชักมือกลับอย่างรวดเร็ว เหมือนจับโดนสายฟ้า
“หินเต่างูดำทลายชี่!”
หวูเฉินพูดอย่างตกใจ และดูกระบี่เล่มนี้อย่างละเอียด
มีลำแสงอยู่บนมือ หวูเฉินสัมผัสเบาๆ ตรงด้ามกระบี่ ทันใดนั้นมีแสงปรากฏขึ้นบนภาพหยินหยาง
บนตัวกระบี่ มีตัวอักษรลอยขึ้นมา
“กระบี่หนักไม่คม ไหวพริบต้องเรียบง่าย!”
ลู่ฝานโดนตัวอักษรเหล่านี้ดึงดูดเอาไว้ ตัวอักษรขนาดใหญ่ เหมือนกระบี่หนักกระแทกลงบนใจเขา เมื่อมองตัวอักษรเหล่านี้ ลู่ฝานรู้สึกพูดอะไรไม่ถูก มหัศจรรย์มาก ยากที่จะเข้าใจได้
“กระบี่ดี เป็นกระบี่ดีจริงๆ”
หวูเฉินหัวเราะออกมาเสียงดัง
“ลู่ฝาน นายโชคดีจริงๆ แค่กระบี่เล่มนี้ เหนือกว่าอุกกาบาตจิตเย็นเป็นหมื่นเป็นพัน”
ลู่ฝานพูดอย่างไม่เข้าใจ “อาจารย์ กระบี่เล่มนี้ มีอะไรพิเศษเหรอครับ ผมรู้สึกเพียงแค่มันหนักมากเท่านั้น”
หวูเฉินชี้กระบี่แล้วพูดว่า “ถูกแล้วที่รู้สึกหนัก นายดูด้ามกระบี่สิ รู้สึกคุ้นหรือเปล่า”
ลู่ฝานยื่นมือไปสัมผัสด้ามกระบี่ รู้สึกคุ้นจริงๆ
ทันใดนั้น ลู่ฝานนึกออก แล้วพูดอย่างตกใจ “หินผนึกกำลัง!”
หวูเฉินยิ้มแล้วพูดว่า “ถูกต้อง คือหินผนึกกำลัง ด้ามกระบี่สร้างมาจากหินผนึกกำลัง ตัวกระบี่เป็นหินเต่างูดำทลายชี่ วัสดุสองสิ่งที่สร้างยากมาก แต่กลับสร้างออกมาเป็นกระบี่เล่มหนึ่งได้อย่างสมบูรณ์แบบ”
หวูเฉินใช้มือลูบตรงคมกระบี่เบาๆ กระแสลมในมือ ถูกกำจัดจนกระจัดกระจาย
ถ้าเดาไม่ผิด กระบี่เล่มนี้ น่าจะเป็นอาวุธของนักบู๊ขั้นสุดยอดท่านใดท่านหนึ่ง กระบี่หนักไม่คม ไหวพริบต้องเรียบง่าย คำพูดเหล่านี้ คงเป็นวิถีบู๊ของเจ้าของกระบี่เล่มนี้ ลู่ฝาน นายต้องใช้ใจตระหนักถึงมัน ไม่แน่อาจได้อะไรมาก็ได้ อีกอย่างนายก็ไม่มีอาวุธด้วย ต่อไปนายเอากระบี่เล่มนี้
ลู่ฝานอึ้งไป แล้วพูดว่า “กระบี่หนักขนาดนี้ ผมใช้ได้เหรอ”
หวูเฉินยิ้มแล้วพูดว่า “เพราะเดิมทีนายต้องใช้หินผนึกกำลังในการฝึกฝนต่อไป ตอนนี้ฉันคิดว่า กระบี่เล่มนี้ ต้องดีกว่าหินผนึกกำลังที่ฉันสร้างออกมาเยอะมาก ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป นายเอากระบี่เล่มนี้ไปฝึกฝนด้วย เมื่อไรที่นายสามารถใช้กระบี่เล่มนี้ได้ตามใจปรารถนา การฝึกฝนกดดันของนาย คงจะสิ้นสุดลง”
ลู่ฝานรู้สึกว่าบนหน้าผากจะมีเหงื่อไหลออกมา เมื่อกี้เขาลองดูแล้ว น้ำหนักของกระบี่เล่มนี้ ไม่ธรรมดาจริงๆ หินผนึกกำลังที่อาจารย์สร้างออกมา ไม่สามารถเทียบได้เลย
แต่ในเมื่ออาจารย์พูดแบบนี้แล้ว เขาก็ไม่มีเหตุผลให้ถอยเช่นกัน
ลู่ฝานสูดหายใจลึก แล้วพูดว่า “โอเค งั้นผมลองดูละกัน”
หวูเฉินยิ้มแล้วพูดว่า “ดีมาก แต่ก่อนหน้านี้ เอากระบี่มาให้ฉันก่อน ให้ฉันเอาอุกกาบาตจิตเย็น ใส่เข้าไปในด้ามกระบี่ มีอุกกาบาตจิตเย็นอยู่ ประสิทธิภาพการฝึกฝนของกระบี่เล่มนี้ จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้น”
ลู่ฝานพยักหน้าอย่างเข้าใจ หวูเฉินพลิกมือ หยิบกระบี่ขึ้นมา
กระบี่ที่หนักจนน่ากลัว เมื่ออยู่ในมือหวูเฉิน ราวกับไม่มีน้ำหนักเท่าไร ลู่ฝานแอบตกใจเบาๆ ตามคาด พละกำลังของอาจารย์แข็งแกร่งกว่าเขาเยอะมาก ผู้ฝึกชี่ที่มีพละกำลังร่างกายแข็งแกร่งขนาดนี้ ลู่ฝานอยากเห็นจริงๆ ถ้าอาจารย์อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ จะเป็นอย่างไร
ลู่ฝานเอาอุกกาบาตจิตเย็นให้หวูเฉินทั้งหมด และตั้งหม้อไฟบุ๋นเอาไว้ ลู่ฝานเดินมาอีกด้านอย่างสนใจ เริ่มดูอย่างละเอียด ว่าในสมบัติที่กวาดมา ยังมีของอื่นหรือเปล่า
พูดขึ้นมา สมบัติของรังมังกรก็ดูยากจนข้นแค้น นอกจากอุกกาบาตจิตเย็นกับกระบี่หนัก อย่างอื่นล้วนเป็นหินแวววาวระยิบระยับ
หินแวววาวระยิบระยับพวกนี้ ส่วนใหญ่เป็นแร่ที่ใช้ไม่ได้ ส่วนอย่างอื่นยังมีแก้วหินจากสัตว์อสูร รวมไปถึงเหรียญทอง ลู่ฝานหาอยู่นาน ก็ไม่เจอสมบัติอะไรอีก
ว่างไม่มีอะไรทำ ลู่ฝานเอาสุนัขที่นอนนิ่งอยู่บนพื้นขึ้นมา
แม้สุนัขไม่มีแรง แต่ยังจ้องมองลู่ฝาน