อี้ไป๋เอากระบี่เล่มที่สองออกมา กระบี่ยาวสีแดงเพลิง มีแสงสีเลือดไหลวนอยู่บางๆ
เอามือทั้งสองข้างจับกระบี่ อี้ไป๋ยืนด้วยท่าประหลาด
“ดาวตกอเวจีสังหาร!”
พลังปราณพลุ่งพล่าน อี้ไป๋รวมดรรชนีกระบี่เป็นหนึ่งเดียว พุ่งไปทางลู่ฝาน
กระบี่สองเล่ม เหมือนลำแสงสองดวง มาถึงด้านหน้าในพริบตา
ลู่ฝานหรี่ตาลง จากนั้นสะบัดกระบี่หนักช้าๆ
ขัดขวาง ท่าแยกข้าง หมุนตัวโจมตี
ตั้งกระบี่ ตวัดขึ้น หมุนวนกระบี่
การเคลื่อนไหวของลู่ฝานไม่เร็ว เทียบกับอี้ไป๋ ที่กลายเป็นลำแสงสองดวง เรียกได้ว่าการเคลื่อนไหวของเขา ช้าจนทนดูไม่ได้ ราวกับว่าอีกเดี๋ยว จะโดนลำแสงสองดวงนั้น ฟันจนเป็นชิ้นๆ
แต่ที่น่าแปลกใจ เสียงกระบี่กระทบกัน ดังขึ้นมา
ลู่ฝานไม่เป็นอะไรเลย
พวกศิษย์ที่สายตาดี มองออกว่า ทุกการเคลื่อนไหวของลู่ฝาน สามารถต้านทานการโจมตีของอี้ไป๋ได้ อีกทั้งยังสามารถโจมตีกลับอย่างน่ากลัวด้วย บีบจนอี้ไป๋ต้องเปลี่ยนการเคลื่อนไหว
ฉู่เทียน ฉู่สิง และหานเฟิง ยืนมองอย่างอึ้งๆ
พวกเขาดูออกว่า นี่มันการเคลื่อนไหว ตอนที่ลู่ฝานเบื่อๆ แล้วถือสมุดฝึกในตอนเช้าไม่ใช่เหรอ
การเคลื่อนไหวชุดนี้ สามารถใช้แบบนี้ได้ด้วย เหลือเชื่อจริงๆ
ทันใดนั้น หานเฟิงพูดว่า “ฉันจำได้ว่า การเคลื่อนไหวต่อไปของศิษย์น้องลู่ฝานคือ……”
เห็นได้ชัดว่าฉู่สิง ฉู่เทียน เป็นคนความจำดี สองคนพูดออกมาพร้อมกันว่า “หรือว่าจะเป็น ไม้ตาย”
ทั้งสามมองหน้ากัน สีหน้ามีความตกตะลึง
เสียงดังหลายสิบครั้งผ่านไป ลู่ฝานไม่เป็นอะไรเลย แต่เป็นอี้ไป๋ ที่ค่อยๆ กลับร่างเดิม นี่คือการที่พลังปราณ ไม่สามารถยืนหยัดต่อไปได้
การเคลื่อนไหวของลู่ฝานไม่เร็ว ใช้ปราณชี่ไปน้อยมาก
พลังฟ้าดินรอบๆ เติมเต็มให้เขาอย่างต่อเนื่อง ความสามารถในการดูดซับของร่างกาย บวกกับการช่วยเหลือของอุกกาบาตจิตเย็น กับแหวนของตระกูล ปราณของเขาฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว ถึงขนาดที่ว่านักบู๊ปราณนอกทั่วไป ยังสู้ไม่ได้ เขาหวังว่าอีกฝ่ายจะต่อสู้กับเขาต่อไป
แต่ดูเหมือนว่าอี้ไป๋ฝืนไม่ไหวแล้ว ทันใดนั้น ลำแสงกระบี่ทั้งสองของอี้ไป๋หยุดลง เอากระบี่ยาวอีกเล่มออกมาจากข้างหลัง และโยนใส่ลู่ฝาน
แสงกระบี่ล้อมเอาไว้ ลู่ฝานยกกระบี่ขึ้นมาขวางไว้ อย่างไม่สะทกสะท้าน
ตอนนี้เขาชอบกระบี่หนักไร้คมเล่มนี้ขึ้นเรื่อยๆ ตัวกระบี่ใหญ่ เหมือนโล่ป้องกันและโจมตีได้ ทำให้เขาไม่กลัวการโจมตีแบบนี้เลย
กระบี่ที่อี้ไป๋โยนมากระแทกกับกระบี่หนักไร้คม จนประกายไฟกระเด็นออกมา และหล่นลงบนพื้น
แต่ต่อมา ลู่ฝานรู้สึกแปลกๆ จึงขมวดคิ้วเบาๆ
ตอนกระบี่นี้ร่วงลงพื้น พลังปราณที่อยู่บนกระบี่ ไม่ได้จมลงไปในพื้นดิน
ฟึ่บๆๆ หนามสามอันพุ่งขึ้นมาบนพื้น เกือบแทงโดนฝ่าเท้าลู่ฝาน
ลู่ฝานสะบัดกระบี่ ตัดหนามดินที่พุ่งขึ้นมาจากพื้น ยาวประมาณสิบนิ้วออกไป ตอนนี้ อี้ไป๋โผล่อยู่บนหัวของเขา
เขาดึงกระบี่เล่มสุดท้ายออกมา กัดไว้ที่ปาก
“ค่ายกลกระบี่ไม้ตาย!”
กระบี่สี่เล่ม มีแสงสว่างขึ้นมาพร้อมกัน ลู่ฝานสัมผัสได้ว่าพลังฟ้าดินรอบๆ เปลี่ยนไปทันที
สถานการณ์แบบนี้ รู้สึกเหมือนตอนที่เขาใช้พลังฟ้าดิน ก่อตัวเป็นวัตถุ
คิดไม่ถึงว่า กระบี่ทั้งสี่เล่มของอี้ไป๋ เป็นผลงานชิ้นเอกของผู้ฝึกชี่ กระบี่สี่เล่มเป็นหนึ่งเดียว ท่าไม้ตายที่เคลื่อนไหวพลังฟ้าดิน
ลำแสงรูปร่างจันทร์ครึ่งเสี้ยวสามดวง ร่วงลงมาจากฟ้า พลังฟ้าดินข้างกาย กักขังรอบตัวเอาไว้ เป็นลักษณะของท่าไม้ตายจริงๆ
แต่ตอนนี้ ลู่ฝานกลับหัวเราะออกมา
พลังฟ้าดินแค่นี้ จะกักขังเขางั้นเหรอ น่าขำจริงๆ
ตอนนี้กระบี่หนักของลู่ฝาน พุ่งขึ้นไปบนฟ้า
หานเฟิงพูดเสียงดังว่า “ฮ่าๆ กระบวนท่านี้จริงด้วย”
ฉู่สิง ฉู่เทียน เห็นดังนั้น ก็หัวเราะออกมา
ปราณชี่พุ่งออกมาจากกระบี่ของลู่ฝาน แทงไปตรงกลางลำแสงรูปจันทร์เสี้ยวทั้งสามดวง เป็นตรงกลางที่กระบี่ทั้งสามเล่มซ้อนทับกันพอดี
จุดนี้เป็นจุดโจมตี ที่แข็งแกร่งที่สุด แต่ในสายตาของลู่ฝาน มันเป็นจุดที่ทำลายทั้งหมดได้
ลมปราณเหมือนมังกรพุ่งขึ้นไป กระบี่หนักหมุนวน เหมือนลมหมุน
กระบวนท่านี้ ลู่ฝานใช้วิชากระบี่หมุน ในวิชากระบี่ขั้นพื้นฐาน และเป็นสิ่งที่เขาค้นพบ หลังจากศึกษามานาน เป็นท่าโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุด
ตู้ม!
พลังปราณพร้อมกับสายลมรุนแรง แผ่ขยายไปทั่ว ตรงกลางที่ทั้งสองต่อสู้กัน พลังแผ่ออกมา ทำให้ต้นไม้บริเวณรอบๆ ล้มลงหมด
นักเรียนที่พละกำลังแย่ โดนลมพัดจนล้มระเนระนาด ไม่สามารถลืมตาขึ้นมาได้
ผ่านไปนาน ทุกอย่างจึงกลับมาสงบเหมือนเดิม
ในฝุ่นตลบอบอวล เงาคนสองคน ยืนประจันหน้ากัน
ลมพัดเอาฝุ่นออกไป
ลู่ฝานเก็บกระบี่หนักอย่างสุขุม อี้ไป๋ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม สีหน้าตกตะลึง หนังตากระตุก มองลู่ฝานแล้วพูดว่า “กระบวนท่านี้ เรียกว่าอะไร”
ลู่ฝานคิดแล้วพูดว่า “วิชากระบี่หนัก มังกรเหิน”
อี้ไป๋พูดพึมพำ “มังกรเหิน เป็นชื่อที่ดี ฉันจำไว้แล้ว”
พูดจบ มีเลือดออกมาจากอกอี้ไป๋ เขาล้มคว่ำลงบนพื้น
ศิษย์คณะนานาเงียบสนิท ยืนอึ้งอยู่ที่เดิม
ลู่ฝานกำลังจะเดินกลับ แต่ปราณชี่บนตัวสว่างวาบอยู่สองสามครั้ง
นี่เป็นลางที่ปราณชี่จะก้าวหน้า
ลู่ฝานรีบนั่งลงบนพื้น เริ่มซึมซับพลังฟ้าดินอย่างบ้าคลั่ง