ชั้นสี่ของหอคอยฝึกฝน ลู่ฝานกับหานเฟิงไม่รู้สถานการณ์ข้างนอกเลย ยังคงพยายามปีนขึ้นไป
“เคล็ดวิชาบู๊สูงสุดของชั้นสองคือระดับคนขั้นสูง เคล็ดวิชาบู๊สูงสุดของชั้นสามคือระดับทิพย์ขั้นต่ำ ชั้นสี่คือระดับทิพย์ขั้นกลาง ศิษย์น้องลู่ฝาน แค่ขึ้นไปชั้นห้า เราจะมีโอกาสได้เคล็ดวิชาบู๊ระดับทิพย์ขั้นสูง ไปกันเลย!”
หานเฟิงตะโกนออกมาเสียงดัง พยายามเดินขึ้นไปอย่างสุดชีวิต แทบจะใช้ทั้งมือทั้งเท้า
เมื่ออยู่ตรงนี้ ขั้นบันไดบ้าๆ ที่มีอักษรยันต์เหล่านี้ ยิ่งเดินลำบากขึ้นเรื่อยๆ ทุกก้าวที่เหยียบลงไป รู้สึกเหมือนโดดดูดไว้บนแผ่นหิน ยกเท้าไม่ขึ้นเลย ไม่เพียงแค่นั้น บันไดหินแต่ละขั้น ยังมีม่านแสงอันแข็งแกร่ง ขวางทางด้านหน้าเอาไว้
ม่านแสงสูงเป็นสามสิบเมตร กว่าจะใช้พลังปราณทำลายไปได้ ม่านแสงนี้ ยังกลายเป็นพลังอันบ้าคลั่ง กระเพื่อมออกไป โจมตีลงบนตัวพวกเขา
เมื่อขึ้นบันไดหินแต่ละขั้น ต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมาก มือทั้งสองข้างของลู่ฝาน เหมือนลอยได้ โจมตีอย่างสุดชีวิต
เขาจำเป็นต้องเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เพราะม่านแสงเหล่านี้กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ ถ้าเขาช้าเพียงนิดเดียว ก็จะโดนม่านแสงบีบเอาไว้อีกครั้ง
หมัดถล่มเขา!
ตอนนี้ลู่ฝานเอากระบี่หนัก เก็บเข้าไปในแหวนแล้ว แบกกระบี่หนักปีนขึ้นไปในตอนนี้ ไม่ต่างจากหาเรื่องให้ตัวเองลำบาก
ลู่ฝานใช้กายทองไฟอาบ แต่ละหมัดของลู่ฝานต้องระเบิดพลังอันแข็งแกร่ง ทันใดนั้นปราณชี่ แปรเปลี่ยนเป็นพลังปราณ 20 เท่า ทำให้เขามีพลานุภาพพลุ่งพล่าน พุ่งไปข้างหน้าเรื่อยๆ ขั้นบันไดที่ขึ้นไปชั้นห้าธรรมดาๆ ไม่สามารถขวางเขาเอาไว้ได้!
หานเฟิงยังคงสะบัดกระบี่ฟ้าครามอย่างเอาเป็นเอาตาย ตอนจัดการนักเรียนคนอื่นข้างนอก เขาไม่สามารถใช้วิชากระบี่ชิงสวรรค์ แต่ที่นี่ เขาสามารถใช้ได้อย่างสบายๆ
แต่ละกระบี่ที่ฟันออกไป สามารถฟันม่านแสงไปเป็นแถบ กัดฟันฝืนไม่ให้พลังที่กระเพื่อมบีบเอาไว้ หานเฟิงสู้อย่างเอาเป็นเอาตายต่อไป ลู่ฝานจงใจเดินให้ช้าลงหน่อย ให้หานเฟิงตามเขาทัน มีเขากำจัดม่านแสงด้านหน้าให้ ศิษย์พี่หานเฟิงลดความกดดันไปได้เยอะ บางครั้งใช้ช่วงที่ม่านแสง กำลังจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม ตามลู่ฝานขึ้นไปได้หลายขั้น
ทั้งสองขึ้นบันไดหินหลายร้อยขั้น แต่ยังไม่ถึงชั้นห้าสักที เปลวไฟสีม่วงที่อยู่ไม่ไกลสามารถยื่นมือขึ้นไปหยิบได้ แต่ลู่ฝานกับหานเฟิงไม่สนใจสักนิด
หลังจากปีนบันไดหินร้อยกว่าขั้น มีประตูปรากฏขึ้นตรงหน้า เมื่อก้าวเข้าไป ทุกสิ่งตรงหน้ากว้างใหญ่
หานเฟิงทรุดลงนั่งหน้าประตู นับนิ้วดูเวลา แล้วพูดว่า “ประมาณครึ่งชั่วยามแล้ว เหนื่อยแทบตาย แค่ขึ้นบันไดหิน ฉันก็เกือบตายแล้ว ศิษย์น้องลู่ฝาน เรารีบหาเคล็ดวิชาบู๊เถอะ”
ลู่ฝานพยักหน้า ทั้งสองเพ่งสายตามอง เห็นว่าชั้นห้าไม่ต่างจากสี่ชั้นด้านล่างเท่าไร หุ่นสีเงินขนาดใหญ่ยืนอยู่ตรงกลาง มีเปลวเพลิงสีดำลอยอยู่บนหัว
หานเฟิงมองอยู่ข้างๆ เมื่อหาแท่นหินเจอ จึงอ่านออกเสียงว่า “ชั้น 5 อัคคีทุคติ”
ลู่ฝานกวาดตามองไปทั่วชั้นห้า ทันใดนั้น ลู่ฝานเห็นด้านล่างของหุ่นสีเงิน มีนักเรียนอยู่สองคน
สองคนนี้เคลื่อนไหวร่างกายรวดเร็ว กำลังพยายามจับเปลวไฟที่ลอยไปมา แต่ทุกครั้งที่เขาจับ จะโดนอัคคีทุคติสีดำเผาจนสั่นไปทั้งตัว จนต้องปล่อยไป
นักเรียนสองคน เป็นชายหนึ่งคน หญิงหนึ่งคน สีหน้าไม่สู้ดีมาก
ทั้งสองหันมามองลู่ฝานกับหานเฟิง และไม่สนใจอีก
“เริ่มเถอะ ศิษย์น้องลู่ฝาน เลือกเก็บของที่ดี ถ้าไม่ใช่ระดับทิพย์ขั้นสูง ก็ไม่เอา!”
ลู่ฝานพยักหน้า เคล็ดวิชาบู๊ระดับทิพย์ขั้นสูงต้องไม่เลวอย่างแน่นอน เพราะเคล็ดวิชาบู๊ที่ตระกูลลู่ของเขาถ่ายทอด แค่ระดับทิพย์ขั้นต่ำเท่านั้น
สายตาลู่ฝาน จ้องไปที่ลูกไฟทุคติกลางอากาศ เทียบกับชั้นหนึ่ง ลูกไฟที่ลอยไปมาพวกนี้ ใหญ่กว่าเยอะ ความเร็วก็เร็วกว่ามากด้วย ไม่ได้จับง่ายขนาดนั้น
หานเฟิงทนไม่ไหว จึงลงมือก่อน เด้งตัวขึ้นไป มือของหานเฟิงเหมือนฟ้าแลบ จับลูกไฟสีดำเอาไว้อย่างรวดเร็ว
“ฮ่าๆ ได้เคล็ดวิชาบู๊มาแล้ว!”
หานเฟิงหัวเราะเสียงดัง ฝ่ามือล้วงเข้าไปในลูกไฟ คลำเคล็ดวิชาบู๊ด้านในเล่มหนึ่ง
แต่ยังไม่ทันเอาเคล็ดวิชาบู๊ออกมา หานเฟิงรู้สึกถึงความเจ็บปวดจนถึงหัวใจ เกิดขึ้นที่ฝ่ามือ ขณะเดียวกันพลังรุนแรงของเปลวไฟ ผลักเขาจนกระเด็นออกมา
หานเฟิงเบิกตาโต ร้องโอดครวญ นอนแผ่หลาอยู่บนพื้น
ผู้หญิงกับผู้ชายที่อยู่ข้างๆ หัวเราะพรืดออกมา
ผู้ชายพูดด้วยแววตาดูหมิ่นว่า “ปัญญาอ่อน เคล็ดวิชาบู๊ที่มีอัคคีทุคติปกป้อง จะเอามาได้ง่ายขนาดนั้นเหรอ”
ลู่ฝานรีบเดินเข้ามา มองศิษย์พี่หานเฟิงแล้วพูดว่า “ไม่เป็นไรใช่ไหม”
ศิษย์พี่หานเฟิงมองฝ่ามือตัวเอง ถึงมีพลังปราณปกป้องอยู่ ก็โดนเผาจนแดงเป็นแถบ
“ไม่เป็นไรๆ เปลวเพลิงนี้ ไม่ให้คนเอาเคล็ดวิชาไป”
ลู่ฝานหัวเราะ “อาจเป็นเพราะวิธีของพี่ไม่ถูกต้อง ให้ผมลองดูหน่อย”
พูดพลาง ลู่ฝานเด้งตัวขึ้น คว้าลูกไฟดำที่ลอยไปมา แล้วลงมาบนพื้น ลู่ฝานจับเอาไว้แน่น ไม่มีท่าทีว่าจะปล่อยมือ
ผู้หญิงกับผู้ชายที่อยู่ข้างๆ เบิกตาโตทันที