บทที่ 233
ดวงตาสองข้างของหานเฟิงกลายเป็นสีทอง มีเสียงมังกรคำรามดังขึ้นรอบๆ
ศิษย์พี่หานเฟิงปล่อยพลังปราณออกมา ก่อตัวเป็นรูปร่างมังกรสีทองห้าเล็บด้านหลังเขา
แม้มังกรทองจะเบาบาง ดูเลือนรางมาก แต่พลานุภาพของมังกรไม่ธรรมดาเลย
“วิชาฝึกร่างหยางแท้!”
ลู่ฝานนึกออกแล้ว ตอนเขาอยู่ในหอคอยฝึกฝน เขาช่วยศิษย์พี่หานเฟิงเอาเคล็ดวิชาบู๊ระดับทิพย์ขั้นสูงมาหนึ่งเล่ม ตอนนี้ศิษย์พี่หานเฟิงคงใช้เคล็ดวิชาบู๊เล่มนั้นสินะ
ไม่พูดก็ไม่ได้ ดูเหมือนเก่งกาจมากเลย
“ปราณมังกรคุ้มกันกาย!”
หานเฟิงแผดเสียงออกมาเบาๆ ฮวาหยู่รู้สึกว่าโดนพลังแข็งแกร่งดันเขาออกไป
เซถอยหลังไปสามก้าว สีหน้าฮวาหยู่เปลี่ยนไปทันที
ให้ตายเถอะ พลังปราณของไอ้หมอนี่ ไม่ด้อยไปกว่าเขาเลย!
หานเฟิงปล่อยพลังปราณบนตัวออกมา พุ่งไปถึงแดนปราณในขั้นสูงสุด
ลู่ฝานยิ้มบางๆ แค่เวลาไม่กี่เดือนเท่านั้น ศิษย์พี่หานเฟิงก้าวหน้าขึ้นมาก!
ศิษย์พี่ใหญ่พูดอยู่ข้างๆ “ผลของการฝึกพิเศษออกมาแล้ว แม้หานเฟิงขี้เกียจไปหน่อย แต่ผลนับว่าไม่เลว”
ฉู่เทียนพูดต่อ “อืม ต่อไปต้องเพิ่มความแข็งแกร่งในการฝึกฝนให้เขาเยอะขึ้น ศักยภาพของเขาไม่น้อยเลย”
อาจารย์เต้ากวงที่อยู่ข้างๆ พยักหน้าเบาๆ ทั้งสามคนหัวเราะพร้อมกัน
ถ้าหานเฟิงรู้ว่าสิ่งที่ตัวเองแสดงออกมาเมื่อครู่ ทำให้ตัวเองได้รับการฝึกพิเศษต่อไป ไม่รู้เขาจะหัวเราะหรือร้องไห้
แต่ตอนนี้หานเฟิงกำลังอยู่ในความตื่นเต้น
เขาพลิกฝ่ามือ กระบี่ฟ้าครามลอยขึ้นมา หมุนวนอยู่บนหัวเขา
กระบวนท่านี้คือการใช้ปราณลงบนกระบี่ ทำให้เห็นระดับความสามารถของเขา
สีหน้าอาจารย์ซิงยวนเปลี่ยนไป อย่าบอกนะว่าคือกระบวนท่านั้น
เป็นไปไม่ได้ ศิษย์คณะหนึ่งเดียวฝึกกระบวนท่านั้นสำเร็จเหรอ นั่นเป็นเคล็ดวิชาบู๊ระดับดินเชียวนะ!
“ชิงสวรรค์ ทำลายผืนดิน ฟันเทพมาร!”
หานเฟิงยื่นมือเปล่าออกมา กระบี่ฟ้าครามหายไปทันที
วินาทีต่อมา เสียงคำรามดังขึ้น ปราณกระบี่นับไม่ถ้วนปกคลุมทั้งหอคอย
สายตาของทุกคนถูกบดบังเอาไว้ เห็นเพียงแสงกระบี่อันน่ากลัวมากมาย
นักเรียนด้านล่าง โดนกดดันจนถอยหลังกรูด ในแสงกระบี่อันน่ากลัว เห็นเพียงสีหน้าเคร่งขรึม และท่วงท่าอันสง่างามของหานเฟิง
ปราณกระบี่ออกมา ฟ้าดินสลาย
สุดท้ายแสงกระบี่ทั้งหมดระเบิดออกมา
ในแสงกระบี่ ฮวาหยู่ปลิวลงมาจากหอคอย
แม้เขามีเคล็ดวิชาบู๊มากแค่ไหน รวมถึงมีผลการฝึกตนปราณในขั้นสูงสุด แต่เมื่ออยู่ภายใต้กระบวนท่านี้ของหานเฟิง เขาดูอ่อนแอเป็นอย่างมาก
ทันใดนั้น แม้แต่นักเรียนยอดฝีมือของคณะอื่น ก็ยังมีสีหน้าตกตะลึง
แม้แต่พวกเขาก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองจะรอดปลอดภัย จากกระบวนท่านี้ได้หรือเปล่า
เอี๋ยนชิงมองจนเหม่อ แล้วพูดพึมพำว่า “นี่คือนักเรียนของคณะหนึ่งเดียวเหรอ”
เขาไม่อยากเชื่อเลย ทำไมคณะหนึ่งเดียวมีเคล็ดวิชาบู๊น่ากลัวขนาดนี้ แม้แต่เขายังรู้สึกถึงพลานุภาพข่มขวัญ
ปราณกระบี่ค่อยๆ หายไป กระบี่ฟ้าครามกลับไปอยู่ในมือหานเฟิงอีกครั้ง
“สะใจ ไม่ได้สู้อย่างสะใจแบบนี้นานมากแล้ว!”
หานเฟิงลูบผมตัวเองหนึ่งครั้ง หัวขาดได้ เลือดออกได้ แต่ผมเสียทรงไม่ได้
กระบวนท่านี้คงเรียกความสนใจจากนักเรียนหญิงได้ไม่น้อย
เขากวาดตามองไปรอบๆ พบว่านักเรียนหญิงทุกคน มองเขาอย่างหวาดผวา ไม่มีใครมองเขาอย่างหลงรักเลยสักคน
เฮ้อ ดูเหมือนยังใช้ไม่ได้
หานเฟิงครุ่นคิด สงสัยท่าทางยังเท่ไม่พอ ค่อยกลับไปศึกษาอีกรอบ
ฮวาหยู่กระอักเลือดออกมา บนตัวเต็มไปด้วยรอยแผลจากกระบี่สยดสยอง
ครูสองสามคนรีบเข้ามา รักษาอาการบาดเจ็บของฮวาหยู่ สีหน้าที่พวกเขามองหานเฟิง เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง