บทที่ 248
ลู่ฝานลุกขึ้นยืน แววตาตกใจเล็กน้อย
หลังจากศิษย์พี่หานเฟิงกินยาของเขา ตอนนี้พละกำลังคือแดนปราณนอกอย่างไม่ต้องสงสัย ทำให้ศิษย์พี่หานเฟิงพูดว่า “รับมือยาก” ออกมาได้ พิสูจน์ได้ว่าผู้ชายชื่อหยุนอานบนเวที พละกำลังต้องอยู่ในแดนปราณนอกขึ้นไป
เป็นไปได้ว่าเข้าสู่แดนปราณนอกนานแล้ว จึงทำให้ศิษย์พี่หานเฟิง ไม่มั่นใจว่าจะชนะ
เสียงศิษย์พี่ฉู่สิงดังขึ้นด้านหลัง
“ศิษย์น้องลู่ฝาน ระวังพลังปราณของเขา”
ลู่ฝานมองฉู่สิง ไม่เข้าใจเล็กน้อย
ฉู่สิงไม่ได้พูดอะไรมาก มองลู่ฝานขึ้นไปบนเวที
นักเรียนคณะนานารอบๆ ถึงกับกลั้นหายใจรวบรวมสติ ไม่พูดอะไรสักคำ
นักเรียนใหม่ที่อยากถาม โดนสายตานักเรียนเก่ายั้งเอาไว้ ราวกับว่าถ้าคนพวกนี้พูดมาก จะส่งผลกระทบกับการรับชมของพวกเขา
นักเรียนคณะนานาจำนวนไม่น้อย ไม่คุ้นชื่อหยุนอาน
โดยเฉพาะนักเรียนใหม่ ไม่ค่อยได้ยินชื่อนี้ ถึงกระทั่งที่ไม่เคยเจอคนคนนี้ในคณะ
แต่นักเรียนที่อยู่ในคณะนานาเกินสองปี ล้วนจำชื่อหยุนอานได้เป็นอย่างดี
เพราะชื่อนี้ เป็นเกียรติยศสุดท้ายของคณะนานา
มือพันเงา หยุนอาน
เขาเป็นศิษย์ก้นกุฏิของอาจารย์เสวียนคง เป็นศิษย์พี่ใหญ่ตัวจริงของคณะนานา
สองปีก่อน พละกำลังของเขาถึงแดนปราณนอก ตอนนี้คนที่เอาชนะหยุนอานได้ มีเพียงอันดับต้นๆ ไม่กี่คนของคณะอื่น
เช่น เอี๋ยนชิง เสวียนเฟิง เซียวปิง เฉียวเซวียน
ที่เหลือไม่มีสักคนที่สู้หยุนอานได้ แม้คณะนานาอันดับต่ำมาก นั่นเป็นเพราะนักเรียนคนอื่นอ่อนแอมาก ถ้ามองคนที่มีพละกำลังอันดับต้นๆ ของนักเรียนในคณะต่างๆ หยุนอานสามารถอยู่ในห้าอันดับแรก
ลู่หมิงมองบนเวทีด้วยแววตาตื่นเต้น เอนตัวไปด้านหน้าเล็กน้อย
ในฐานะที่เป็นคนมีชื่อเสียงในคณะนานา แม้เขาเพิ่งเข้ามาในสถาบันได้ปีกว่า แต่เขาเคยได้ยินชื่อของหยุนอาน
ตำนานของคณะนานา ผู้แข็งแกร่งสิบอันดับแรกในรายชื่อบู๊ เมื่อสองปีก่อน ไม่รู้ลู่ฝานจะเอาชนะเขาได้ไหม
สิ่งสำคัญคือ ตอนนี้พละกำลังของลู่ฝานเป็นอย่างไร
ถ้าตอนนี้พละกำลังของลู่ฝานแย่เกินไป หรือไม่ก้าวหน้า เขาจะไปด่าคณะหนึ่งเดียว ให้ลู่ฝานรู้ว่า ในฐานะที่เป็นผู้นำตระกูลลู่คนต่อไป ต้องมีหน้าที่รับผิดชอบมากมายแค่ไหน ไม่ไหวก็ไสหัวไป
อีกด้านหนึ่ง โม่หยุนเฟยยกยิ้มมุมปาก
แม้เขาไม่ค่อยได้ยินชื่อหยุนอานมากเท่าไรนัก แต่เขาเห็นจากท่าทางของสุ่ยอู๋ฉิงและคนอื่น หยุนอานต้องเป็นผู้แข็งแกร่งแน่นอน เป็นนักบู๊ที่แข็งแกร่งกว่าพวกสุ่ยอู๋ฉิง
โม่หยุนเฟยไม่คิดว่าลู่ฝานจะชนะ แม้เขาเห็นการต่อสู้ของลู่ฝานกับเหลิ่งหานคณะหยินหยางแล้ว เหลิ่งหานแพ้อย่างประหลาด ใครจะไปดูออกล่ะ
ครั้งนี้ โม่หยุนเฟยขอดูสักหน่อยว่าลู่ฝานเป็นยังไง
บนเวที ลู่ฝานยืนอยู่ที่เดิม ไม่มีท่าทีจะเอากระบี่หนักออกมา หยุนอานที่อยู่ฝั่งตรงข้ามก็มีเพียงมือเปล่า ไม่มีท่าทีเอาอาวุธอะไรออกมา อีกทั้งดูจากการแต่งกายของเขา เหมือนไม่มีอาวุธอะไร
“การต่อสู้ของหยุนอานคณะนานากับลู่ฝานคณะหนึ่งเดียว เริ่มได้”
ครูเพิ่งพูดจบ มีชุดที่ก่อตัวจากพลังปราณปกคลุมตัวหยุนอานเอาไว้ ลู่ฝานก็ปล่อยปราณชี่ออกมา ก่อตัวเป็นชุดจากปราณชี่
ชุดที่ก่อตัวจากปราณชี่ของลู่ฝานไม่สลายไป เหมือนเสื้อผ้าจริงๆ คลุมอยู่ด้านนอกชุดคลุมบู๊มังกรดำ
แต่ชุดที่ก่อตัวจากปราณของหยุนอานแตกต่างออกไป เหมือนเม่นอย่างไรอย่างนั้น พลังปราณแยกออกจากกัน ทำให้ชุดที่ก่อตัวจากปราณดูจับต้องไม่ได้ เหมือนภาพลวงตา
ลู่ฝานขมวดคิ้วเบาๆ เขาคิดไม่ถึงว่าชุดที่ก่อตัวจากพลังปราณของหยุนอาน จะมีรูปร่างแบบนี้
ชุดที่ก่อตัวจากพลังปราณแบบนี้ เหมือนคนที่ไม่มีพื้นฐานการฝึกฝน ฝึกฝนโดยใช้ยากระตุ้นออกมา แสดงให้เห็นถึงพลังปราณไม่มั่นคง พลังปราณไม่รวมตัวกัน