เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 527
“เด็ดเดี่ยว เมื่อถึงตอนนั้นฉันอยากเด็ดหัวนายด้วยมือฉันเอง คงเป็นเรื่องที่สะใจมาก”
กวนหานยกยิ้มโหดเหี้ยมตรงมุมปาก
มีเกล็ดน้ำแข็งล้อมรอบอยู่บนนิ้ว ดอกเกล็ดหิมะสีฟ้าเบ่งบานอยู่ในมือเขา ในกลีบดอกเป็นเส้นๆ เหมือนเลือด
กวนหานค่อยๆ เอาดอกไม้มาวางหน้าลู่ฝาน
เมื่อเห็นภาพนี้ ผู้อาวุโสในที่นี้สีหน้าเปลี่ยนไป ขนาดหัวหน้าเขตอี้ว์ยังมีความเย็นชาฉายอยู่ในแววตา
“บัวโลหิต คิดไม่ถึงว่ากวนหานจะเอาบัวโลหิตออกมาในงานวันเกิดคุณอี้ว์ เขาบ้าไปแล้วเหรอ”
“เบาๆ หน่อย บัวโลหิตปรากฏออกมา อสูรรายล้อมรอบกาย ลู่ฝานไปล่วงเกินอะไรกวนหาน ทำไมเจอหน้าก็ใช้บัวโลหิตทันที”
“ไม่จบไม่สิ้น ไม่จบไม่สิ้นแน่นอน จะเกิดเรื่องแล้ว!”
……
ลู่ฝานหยิบดอกไม้ขึ้นมา ดอกบัวเย็นยะเยือกดูงดงามมาก เป็นผลงานศิลปะชิ้นหนึ่งชัดๆ
นี่แสดงว่าพละกำลังของกวนหานอยู่ในระดับแดนปราณชีวิตขึ้นไป ไม่ใช่แดนปราณชีวิตขั้นต้น เขาหยุดอยู่ที่แดนปราณชีวิตมาเป็นเวลานานแล้ว
แต่พละกำลังของเขา ไม่เกินแดนปราณชีวิตขั้นกลางแน่นอน
ดอกบัวดอกนี้ใสมาก แต่ไม่มีเขตวิถีบู๊อยู่ หมายความว่ากวนหานยังไม่ถึงแดนปราณชีวิตขั้นปลาย ที่สามารถใช้พลังของห้าธาตุได้ตามใจปรารถนา
แม้พละกำลังแบบนี้จะแข็งแกร่ง แต่ไม่ใช่ว่าลู่ฝานจะสู้ไม่ได้
ขณะนั้นเจดีย์เสวียนเก้ามังกรที่อยู่ในตัวลู่ฝานพูดว่า “เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ ให้ฉันเล่นงานเขาไหม พละกำลังของเขาแข็งแกร่งมาก ถึงตอนนั้นฉันกลัวว่าเจ้านายจะเสียเปรียบ”
ลู่ฝานพูดว่า “แกเล่นงานเป็นด้วยเหรอ ใช้วิธีเล่นงานยังไง”
เจดีย์เสวียนเก้ามังกรพูดว่า “ง่ายมาก ก็ใช้พลังของเจ้านาย วางค่ายกลกระดูกเท้าเล็กๆ นอกตัวเขาแบบไม่ให้รู้ตัว แค่เขาไม่สังเกตมัน เวลาหนึ่งคืน ค่ายกลกระดูกเท้าจะดูดพลังของเขา จากนั้นจะซึมเข้าไปที่ตันเถียนของเขา หลังจากนั้นรอตอนที่สู้กับเขา เราจะระเบิดค่ายกลทันที ความรู้สึกนั้น โอ๊ย แค่คิดก็สะใจแล้ว”
รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าลู่ฝาน เขาพูดในใจว่า “งั้นก็ทำสิ”
ลู่ฝานใช้แรงเล็กน้อย บีบดอกบัวในมือจนแตกกระจาย พลังวิญญาณพุ่งออกมาจากมือเขา ทำให้สีหน้าของกวนหานเปลี่ยนไปเล็กน้อย พลังนี้ทำให้เขารู้สึกถูกคุกคาม ขณะเดียวกันไอเย็นพุ่งจากท้ายทอยของเขาออกมาทางหน้าผาก
กวนหานรู้สึกผิดปกติเล็กน้อย แต่ไม่พบว่ามีความผิดปกติใดๆ
ภาพลวงตาเหรอ หรือวิชาพิเศษ
กวนหานมีรอยยิ้มบนใบหน้า มองลู่ฝานนิ่งๆ เหมือนมองคนตาย
ในที่นี้ ต้วนผิงเอาชนะคนหนุ่มมีฝีมือไปสิบกว่าคน ต่อหน้าของทุกคน
คนพวกนี้ไม่มีใครสักคนที่เป็นคู่ต่อสู้ที่เหมาะสมของต้วนผิง ต้วนผิงที่ได้ใจ มีรอยยิ้มมั่นใจบนใบหน้า พูดเสียงดังว่า “ยังมีใครอีก”
เมื่อพูดเช่นนี้ จู่ๆ ต้วนผิงมองไปทางลู่ฝาน แล้วพูดเสียงดังว่า “คุณชายลู่ฝาน มาสู้กันสักหน่อยไหม”
อะไรที่เรียกว่าดีใจจนเหลิง ต้วนผิงคือตัวอย่างที่ดีที่สุด
ลู่ฝานเงยหน้ามองเขาแวบหนึ่ง ไม่อยากสนใจเขาสักนิด
เมื่อเทียบกับกวนหาน ผลการฝึกตนของต้วนผิงต่ำจนน่าเวทนา แค่แดนปราณนอกขั้นสูงสุด ตอนอยู่ในสถาบันสอนวิชาบู๊ ลู่ฝานซัดไปหลายคนแล้ว จะกลัวคนอย่างต้วนผิงไปทำไม
ถ้าพูดถึงเรื่องอาจารย์ หรือเคล็ดวิชา ลู่ฝานถูกปั้นมาจากยอดฝีมือแดนปราณฟ้าสองคน ก็ไม่ได้แย่สักนิด
ลู่ฝานนั่งอย่างสงบอยู่ตรงนั้น ไม่มีท่าทีจะลุกขึ้น