เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 553
ผ่านไปสองวัน ท้องฟ้าแจ่มใส
ลานประลองบู๊ทิศตะวันออกกลางเมืองตงหวา วันนี้เต็มไปด้วยผู้คน
“รีบมาดูเร็ว วันนี้มีการต่อสู้เป็นตาย ถ้าพลาดไม่มีโอกาสอีกแล้วนะ!”
เจ้าหน้าที่ของลานประลองบู๊ เรียกคนที่เข้ามาดู เข้าไปในลานประลองตามลำดับ ยุ่งจนปลีกตัวไม่ได้
ตรงทางเข้ามีป้ายใหญ่ดึงดูดสายตา
“คุณชายกวนผู้ไร้เทียมทานเผชิญหน้ากับลู่ฝานนักกระบี่ผู้ห้าวหาญ!”
ป้ายขนาดใหญ่ตั้งตระหง่าน ตัวอักษรใหญ่จนมองเห็นได้จากไกลๆ
ป้ายลวกๆ แบบนี้ ยังดึงดูดสายตาคนจำนวนมากได้
หานเฟิงที่ยืนอยู่ในกลุ่มคน เห็นป้ายแล้วจะหัวเราะออกมา
หานเฟิงพูดเบาๆ กับลู่ฝานที่อยู่ข้างๆ “ศิษย์น้องลู่ฝาน ป้ายนี้มีความเฉพาะตัวมาก นักกระบี่ผู้ห้าวหาญ ฉายานี้ไม่เลวนะ ถ้าต่อไปนายไม่ใช้ก็ให้ฉันสิ”
ลู่ฝานขี้เกียจสนใจหานเฟิง เขาดึงหมวกให้ต่ำลงมา
ตอนมากลัวคนอื่นจำได้ ลู่ฝานจึงปลอมตัวเล็กน้อย ไม่งั้นเขาคงออกจากสวนหอมปาฟางไม่ได้
ไม่รู้ใครป่าวประกาศเรื่องที่เขาต่อสู้เป็นตายกับกวนหานวันนี้
ตอนนี้คนรู้ไปทั่วเมืองตงหวา ลานประลองบู๊ทิศตะวันออก ไม่มีการนัดสู้ที่ไม่จำเป็นตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว
ปกติที่นี่เป็นสถานที่นัดสู้ของนักบู๊ที่มีชื่อเสียงของเมืองตงหวา และเป็นสถานที่ที่ทำให้คนตายได้ ซึ่งมีไม่มากในเมืองตงหวา แค่เซ็นเอกสารความเป็นตายก่อนสู้เท่านั้น
ลานประลองบู๊ดูมีพลังมาก แค่ประตูเข้าออกก็มีแปดทาง แค่จ่ายหนึ่งเหรียญเงินก็เข้าได้ มาตรฐานการเก็บเงินเหมือนที่ศิษย์พี่หานเฟิงทำ
ลานประลานบู๊ขนาดใหญ่สูงประมาณสามสิบเมตร มีรูปสลักอยู่เต็มไปหมด
เมื่อเพ่งมองดู เห็นภาพและชื่อคนมากมาย ดูเหมือนจริงมาก
ศิษย์พี่หานเฟิงดูพลางพูดว่า “อักษรที่สลักพวกนี้ ล้วนเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง ซึ่งออกมาจากลานประลองบู๊ ศิษย์น้องลู่ฝาน ฉันแน่ใจว่าหลังจากวันนี้ ชื่อของนายจะปรากฏอยู่บนกำแพงเหมือนกัน”
ลู่ฝานมองแค่ไม่กี่ครั้ง ไม่ได้สนใจอะไร
ขณะนั้น จู่ๆ แถวข้างหน้าหยุดลง ได้ยินเจ้าหน้าที่ลานประลองบู๊ พูดเสียงดังว่า “พอแล้วๆ ไม่มีที่นั่งแล้ว”
ทันใดนั้น คนที่ยังอยู่ด้านนอกตะโกนขึ้นมา
“เกิดอะไรขึ้น ลานประลองบู๊ใหญ่ขนาดนี้ ไม่มีที่นั่งได้ไง”
“เหรียญเงินแค่เหรียญเดียวน้อยไปใช่ไหม ฉันให้สองเหรียญเงิน ให้ฉันเข้าไป ฉันจะดูว่าคุณชายกวนจะจัดการไอ้เด็กมาใหม่ลู่ฝานยังไง”
“ให้ที่ยืนกับฉันก็พอ ฉันจะดูว่าคุณชายลู่จะสร้างปาฏิหารย์ยังไงอีก”
“ฉันให้หนึ่งเหรียญทอง รีบปล่อยเข้าไป”
……
เสียงตะโกนต่างๆ นานาดังขึ้น
ลู่ฝานกับหานเฟิงมองหน้ากัน รีบเบียดไปด้านหน้า
ใช้ความสามารถของทั้งสองคน เบียดกลุ่มคนที่แน่นขนัดจนมาถึงด้านหน้าสุด
ผู้ดูแลลานประลองบู๊โบกมืออย่างอวดดี “ไม่มีที่แล้วๆ พวกนายยืนฟังเสียงข้างนอกก็พอแล้ว ถ้าโวยวายอีกจะไล่แล้วนะ!”
ลู่ฝานเดินเข้ามาพูดกับผู้ดูแลปากจัดว่า “พี่ชาย คนอื่นเข้าไม่ได้ แต่ฉันต้องเข้าไป”
พี่ชายคนนี้มองลู่ฝานอย่างประเมิน พูดอย่างดูหมิ่นว่า “นายเป็นใคร ทำไมฉันต้องให้นายเข้าไปด้วย ถึงนายเอาเงินตบหน้าฉัน ฉันก็ไม่ให้นายเข้าไป”
เขาเพิ่งพูดจบ ศิษย์พี่หานเฟิงโยนเหรียญเงินเป็นกำใส่หน้าพี่ชายคนนั้น “ให้เข้าได้หรือยัง”