เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 794
รอยยิ้มบางๆ ปรากฏตรงมุมปากของนักปราชญ์ ลู่ฝานไม่รู้ว่าเขาตกใจหรือเยาะเย้ยกันแน่
“นี่น่าจะชัดเจนมากแล้วนะ ภาพที่ผมนึกย้อนไปเมื่อกี้ มีภาพที่ผมเอาป้ายคำสั่งผู้ตรวจการชั้นกลางมาได้ด้วย”
ลู่ฝานขมวดคิ้วพูด ขณะเดียวกันก็แอบคิดในใจ คนของหน่วยองครักษ์เสิ่นหวาแบบนาย ฉันเป็นคนใช้ค่ายกลแยกเรียกมา
นักปราชญ์ผายมือพูดว่า “นายเข้าใจผิดแล้ว ฉันรู้ว่านายเป็นผู้ตรวจการชั้นกลาง แต่ฉันไม่รู้ว่านายคือลู่ฝาน คนที่ได้ป้ายอันนี้ แม้จะมีไม่มาก แต่ก็ไม่น้อย ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร ชื่อนายมีค่ามากกว่าป้ายอันนั้น”
ลู่ฝานมองเขาอย่างไม่เข้าใจ พูดตามตรง ลู่ฝานไม่คิดว่าชื่อตัวเองมีค่าขนาดนั้น
นักปราชญ์ยิ้มแล้วพูดว่า “ดูจากท่าทางนาย คงยังไม่รู้ว่าชื่อนายอยู่บนรายชื่อประเทศแล้ว”
ลู่ฝานถามว่า “รายชื่อประเทศอะไร”
นักปราชญ์มองเขาด้วยสีหน้าประหลาด “ขนาดรายชื่อประเทศนายยังไม่รู้ โอเค เป็นสถานที่เล็กๆ ที่อยู่ห่างไกลจริงๆ นายควรจะออกไปเปิดหูเปิดตาบ้างนะ”
ลู่ฝานไม่โกรธเลยสักนิด เทียบวิทยายุทธกับนักปราชญ์คนนี้ อีกฝ่ายบอกว่าเขาเป็นคนจากเมืองเล็กๆ ก็ถือว่าเกรงใจมากแล้ว
ดูอย่างสุ่ยเชียนโหรวสิ พูดโพล่งออกมาว่าคนกระจอกทันที
“ผู้อาวุโส อธิบายผมหน่อยได้ไหม”
ลู่ฝานมีท่าทางถ่อมตัว
นักปราชญ์ยกเท้าขึ้นมา เกาเท้าพลางพูดว่า “รายชื่อประเทศก็คืออันดับรายชื่อบู๊ของประเทศอู่อานไง ในรายชื่อล้วนเป็นคนอายุน้อยที่มีความสามารถของประเทศอู่อาน ชื่อนายอยู่ในร้อยอันดับแรกเพียงไม่กี่วัน ไม่เลวจริงๆ”
ลู่ฝานตอบรับ แม้ไม่ค่อยเข้าใจ แต่ฟังดูเหมือนสุดยอดมาก
นักปราชญ์พูดต่อ “เรื่องที่เกิดขึ้นในเมืองหยุนไห่วันนี้ ฉันจะรายงานเบื้องบนตามความจริง ถ้านายอยากตัดภาพไหนทิ้ง รีบบอกฉันได้เลย ขืนฉันกลับไปจะไม่ทันนะ เรื่องครั้งนี้ค่อนข้างใหญ่ มารสองสามคนนี้อยู่อย่างสงบมาหลายปี คิดไม่ถึงว่าจะมาที่นี่ โดยเฉพาะหัวใจแห่งความมืด เป็นเรื่องวุ่นวาย นายไม่รู้ว่าหัวใจแห่งความมืดคืออะไรใช่ไหม”
ลู่ฝานส่ายหน้า “คืออะไรเหรอ”
นักปราชญ์หัวเราะแล้วพูดว่า “ไม่รู้ก็ไม่ต้องถาม เรื่องบางเรื่องไม่รู้จะดีที่สุด ดูท่าทางนาย คงไม่จำเป็นต้องตัดภาพอะไรออกไปแล้ว งั้นโอเค ฉันชื่ออีซู ต่อไปถ้าเราได้เจอกันอีก ฉันจะเลี้ยงบะหมี่นาย”
นักปราชญ์เกาเท้าเสร็จ ก็เอามือขึ้นมาดม จากนั้นปัดมือไปมาแล้วลุกขึ้นยืน
ลู่ฝานลุกขึ้นยืนเช่นกัน แล้วถามว่า “ผู้อาวุโสอีซู ผมอยากถามว่าต่อไปควรจัดการอย่างไร มารพวกนั้นจะกลับมาอีกไหม”
นักปราชญ์ครุ่นคิดแล้วพูดว่า “พวกเขาได้ของไปแล้ว อีกทั้งยังบาดเจ็บสาหัส น่าจะไม่กลับมาอีก ส่วนจะจัดการอย่างไร หึหึ ที่นี่น่าจะเป็นถิ่นของนาย คำพูดนายเป็นใหญ่ ฉันจะถามอีกรอบ ไม่มีส่วนที่ต้องการจะลบใช่ไหม”
นักปราชญ์พูดด้วยแววตาเป็นประกาย
ลู่ฝานขมวดคิ้ว ครุ่นคิดอย่างละเอียด ทำไมผู้อาวุโสอีซู เอาแต่พูดเรื่องลบภาพ อย่าบอกนะว่าเรื่องที่ตัวเองฝึกทั้งบู๊และชี่ถูกเปิดเผยแล้ว
ความคิดนี้ผุดขึ้นมา ลู่ฝานจิตใจวูบไหว หลังจากนั้นนึกย้อนกลับไปอย่างละเอียด ลู่ฝานคิดไม่ออกว่าตัวเองเปิดเผยไปตรงไหน ตั้งแต่ต้นจนจบ ถึงเป็นพวกยอดฝีมือที่อยู่ใกล้เข้ามาก ก็ไม่สังเกตเห็น
“เหมือนจะไม่มี”
ลู่ฝานพูดอย่างหวาดระแวง
นักปราชญ์มองลู่ฝาน ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “นายเป็นคนที่น่าสนใจจริงๆ”