เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 818
พระอาทิตย์ค่อยๆ หายไปในหุบเขา เห็นพระอาทิตย์เพียงครึ่งเดียว
หน้าขณะหยินหยางคนเต็มไปหมด ถ้ามองลงมาจากฟ้า จะเห็นคนแน่นขนัดล้อมอยู่ที่นี่ เหลือเพียงรัศมีวงกลมสามสิบเมตรตรงกลาง ลู่ฝานนั่งอยู่ในนั้น
ผู้คนต่างพากันมาอย่างมืดฟ้ามัวดิน
อาจารย์ทั้งเก้าคณะ มีอาจารย์สี่คนมาที่นี่ ตรงกลางคือท่านผอ.กับท่านหม่า
เก้าอี้โต๊ะวางเรียงรายอย่างดี แม้คนรวมตัวกัน แต่ก็แบ่งแยกกันอย่างชัดเจน
กลุ่มคนมองลู่ฝานด้วยแววตาเป็นประกาย นักเรียนที่สร้างปาฏิหาริย์ให้สถาบันสอนวิชาบู๊ พวกเขาอยากเห็นว่าไม่เจอกันสองสามเดือน ลู่ฝานจะเก่งถึงขั้นไหน
“นี่คือลู่ฝานเหรอ ดูเด็กมาก”
ท่านหม่าหัวเราะแล้วเอ่ยขึ้น
ท่านผอ.พูดว่า “อายุน้อยเป็นเรื่องดี ถ้าไม่ใช่เพราะอายุน้อย เขาคงเอาป้ายผู้ตรวจการชั้นกลางมาไม่ได้หรอกครับ”
ท่านหม่าพยักหน้าพูดว่า “ใช่ ตอนนี้คนอายุน้อยเก่งขึ้นเรื่อยๆ นักบู๊ก็เยอะขึ้นเรื่อยๆ แน่นอนว่ามาตรฐานก็สูงตามไปด้วย อายุน้อย พรสวรรค์มากมาย ภายภาคหน้าจะมีอนาคตก้าวไกล”
ท่านผอ.ยิ้มแล้วพยักหน้า อาจารย์บริเวณรอบๆ ได้ยินคำพูดของทั้งสองคน
จู่ๆ พวกอาจารย์แอบรู้สึกประหลาด ผู้ตรวจการชั้นกลางอะไรกัน
ใครได้ป้ายผู้ตรวจการชั้นกลาง
แม้ฟังดูเหมือนพวกเขากำลังพูดถึงลู่ฝาน แต่ตามสัญชาตญาณของพวกอาจารย์ ไม่อยากเชื่อว่าลู่ฝานได้ป้ายผู้ตรวจการชั้นกลาง
นี่เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้!
ในความคิดพวกเขา ถึงแม้ลู่ฝานแข็งแกร่งมาก พรสวรรค์ก็ดี แต่ไม่มีทางเอาป้ายผู้ตรวจการชั้นกลางมาได้
แสงอาทิตย์ยามเย็นส่องลงบนตัวลู่ฝาน
ลู่ฝานค่อยๆ ลืมตาขึ้นช้าๆ
ในแววตาราบเรียบ เหมือนบ่อน้ำลึกที่ก้นบึ้งไม่ไหวติง
ลู่ฝานลุกขึ้นยืน ถือกระบี่หนักไร้คม มองประตูคณะหยินหยางด้วยแววตาเฉยชา เสียงเอะอะรอบๆ หายไปในหูของเขา เสียงฝีเท้าชัดเจนดังเข้ามาในหูเขา
“มาแล้ว!”
ลู่ฝานพูดเบาๆ
ขณะนั้น กลุ่มคนที่แออัดหน้าประตูคณะหลีกทางออก จู่ๆ นักเรียนคณะหยินหยางส่งเสียงตะโกนออกมา
“ศิษย์พี่เอี๋ยนชิง ศิษย์พี่เอี๋ยนชิง”
นักเรียนคณะหยินหยางที่รออยู่นานมาก ในที่สุดศิษย์พี่เอี๋ยนชิงของพวกเขาก็มา
หานเฟิงที่นั่งสะลึมสะลืออยู่อีกด้านตื่นขึ้นมา รีบเช็ดน้ำลายตรงมุมปาก จ้องเอี๋ยนชิงเขม็ง
เอี๋ยนชิงสวมชุดนักบู๊ เหมือนเอี๋ยนชิงจะเปลี่ยนไปจากตอนที่ลู่ฝานเห็นครั้งที่แล้วมาก เขาดูผอมซูบลงไปเยอะ
แก้มยุบลงไป ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่า ลู่ฝานรู้สึกว่าหน้าของเขา ดูไม่เป็นมิตรเท่าไร
เหมือนสวมหน้ากากครึ่งหน้า หน้าด้านซ้ายและด้านขวาดูไม่สมดุล แต่เมื่อมองอย่างละเอียด ก็ดูไม่ออกว่าตรงไหนไม่สมดุล
เอี๋ยนชิงเดินออกมา มองลู่ฝานแล้วยิ้มออกมา
ลู่ฝานพูดว่า “ฉันรอนายนานแล้ว”
เอี๋ยนชิงพูดว่า “อันที่จริงฉันรอนานกว่านาย”
พูดจบ ทั้งสองคนเดินไปข้างหน้าพร้อมกัน ขณะเหลือระยะห่างประมาณสามเมตร ทั้งสองคนหยุดลงพร้อมกัน
เสียงเอะอะทั้งหมดหายไป ทุกคนกลั้นหายใจ รอการต่อสู้ครั้งนี้
ท่านหม่าพูดเบาๆ ว่า “คนหนุ่มคนนี้ดูไม่เลวเหมือนกัน เป็นนักเรียนของสถาบันนายเหรอ”
ท่านผอ.พยักหน้า “ใช่ครับ วิทยายุทธและพรสวรรค์ใช้ได้ แต่จิตใจรุนแรงเกินเหตุ”
ท่านหม่าพูดว่า “จิตใจไม่งดงาม ยากที่จะทรงพลัง ถึงมีพรสวรรค์ก็เปล่าประโยชน์ น่าเสียดาย”