เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 813
บนถนน นักเรียนคณะหยินหยางดูน้อยมาก ตอนนี้คนจำนวนมากฝึกอยู่ที่ลานประลองบู๊
เพราะไม่มีชื่อเสียงเป็นอันดับหนึ่งในบรรดาคณะ ช่วงนี้มีนักเรียนจำนวนมากออกจากคณะหยินหยาง หนึ่งในนั้นคือฮ่วนเย่ว์ ที่มีชื่อเสียงที่สุดไปคณะหนึ่งเดียว อีกทั้งหยู่ซินไปคณะฟ้าร้อง บวกกับค่ายกลหยินหยางที่หายไป ทำให้ทั้งคณะหยินหยางเกือบยุบลงไป
ยังดีที่หลังผ่านไปไม่กี่วัน เอี๋ยนชิงออกมาจากเขา เอาชนะอู๋เหวย ศิษย์พี่ใหญ่ของคณะหนึ่งเดียว อีกทั้งยังเข้าสู่แดนปราณชีวิต หลังจากนั้นเอี๋ยนชิงกำเริบเสิบสาน ไปท้าประลองยอดฝีมือทั้งหมดของสถาบันอื่น อีกทั้งยังเอาชนะได้หมด ตั้งแต่นั้นก็ทำให้คณะหยินหยางที่สั่นคลอน กลับมามั่นคงอีกครั้ง
ได้รับความฮึกเหิมจากเอี๋ยนชิง นักเรียนคณะหยินหยางที่เหลือ พากันกระตุ้นตัวเองให้ปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น ไม่เอาแต่เดินเล่นพูดคุย เริ่มฝึกเคล็ดวิชาบู๊กันอย่างเต็มกำลัง
สำหรับพวกเขา ขอแค่ศิษย์พี่เอี๋ยนชิงยังอยู่ ยังไงคณะหยินหยางก็จะเอาที่หนึ่งกลับมาไม่ช้าก็เร็ว ตอนนี้แค่ความพ่ายแพ้เล็กน้อยเท่านั้น
“พี่หลี่ วันนี้กระบี่เกลียวคลื่นของพี่พัฒนาขึ้นอีกแล้ว ดูเหมือนอีกไม่นาน คงได้ยกระดับขึ้นอีกขั้น”
“เฮ้อ ยังคงไม่เพียงพอ เรามาอีกสักรอบไหม”
“สู้ขนาดนี้ ไม่กลัวบาดเจ็บเหรอ”
“กลัวอะไรกับบาดเจ็บ ศิษย์พี่เอี๋ยนชิงบาดเจ็บสาหัสขนาดนั้น เกือบพิการ แค่ไม่กี่วันก็อาการดีขึ้น อีกทั้งยังพัฒนาขึ้นอีกด้วย คนคณะหยินหยางของเราคือฆ่าไม่ตาย พลังแบบว่ายิ่งทรมานยิ่งแข็งแกร่ง รอให้วิชากระบี่ของฉันสมบูรณ์แบบ ฉันจะต้องฆ่าคณะหนึ่งเดียวให้ได้ ทำให้ลู่ฝานอ้อนวอนขอชีวิตภายใต้กระบี่ฉัน”
“ห้าวหาญมาก คณะหนึ่งเดียวนับประสาอะไร โชคดีชนะเราได้แค่ครั้งเดียว ให้พวกเขาได้ใจไปก่อน ผมก็ฝึกเคล็ดวิชาบู๊เหมือนกัน เชื่อว่าเมื่อวิชากระบี่ของพี่หลี่ถึงขั้นสมบูรณ์ ผมก็น่าจะได้อะไรบ้าง เมื่อถึงตอนนั้นจะได้ตามศิษย์พี่เอี๋ยนชิงไปฆ่าคณะหนึ่งเดียว ซัดให้พวกเขาลุกขึ้นมาไม่ได้อีก”
นักเรียนคณะหยินหยางสองคนพูดจาฉะฉาน นักเรียนอีกคนข้างๆ ได้ยินคำพูดของพวกเขา ก็เดินเข้ามา “พี่หลี่ พี่โจวพูดถูกต้องมาก ตอนนั้นผมจำภาพที่หลังจากนักเรียนคณะหนึ่งเดียวสองคนนั้นพุ่งเข้ามาคณะหยินหยางอย่างเสียสติ ก็โดนศิษย์พี่เอี๋ยนชิงซัดล้มลงกับพื้นได้ ถ้าไม่ใช่เพราะคนที่ชื่อฉู่เทียนหนีเร็ว แบกศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเขาไป ไม่งั้นพวกเขาต้องตายหน้าประตูคณะหยินหยางของเราแน่นอน”
“ใช่ๆ ฉันจำได้ พูดขึ้นมาศิษย์พี่ใหญ่ของคณะหนึ่งเดียว เป็นเจ้าอ้วนคนหนึ่ง”
“เจ้าอ้วนตามแบบฉบับ อ้วนไร้ประโยชน์”
“อ้วนเหมือนหมู เหมือนหมูตัวนึงชัดๆ”
“ถ้าไม่ใช่หมู จะมาพุ่งมาท้าประลองกับคณะหยินหยางของเราเหรอ ฮ่าๆ”
กลุ่มคนเริ่มเอาอู๋เหวยมาพูดเป็นเรื่องตลก ขณะนั้นมีคนหนึ่งวิ่งอย่างแตกตื่นเข้ามาจากประตู
“ศิษย์พี่ทุกท่าน แย่แล้ว คนคณะหนึ่งเดียวมาอีกแล้ว”
ประโยคเดียว ทำให้คนทั้งลานประลองบู๊หยุดการกระทำ
“คนไหนจากคณะหนึ่งเดียว”
คนสองสามคนถามขึ้นพร้อมกัน
“เหมือนจะเป็นลู่ฝาน!”
เมื่อได้ยินคำว่าลู่ฝาน คนที่พูดเมื่อสีหน้าเปลี่ยนไปทันที เหมือนจะมีเหงื่อไหลออกมาจากหน้าผาก
ชื่อนี้เหมือนฝันร้ายของพวกเขา ทุกคนที่ผ่านการจัดอันดับของสถาบันเมื่อไม่กี่เดือนก่อน ไม่มีใครที่ไม่รู้ว่าชื่อนี้หมายถึงอะไร
“เขากลับมาแล้ว! ใช่สิ เทศกาลเซ่นไหว้ประจำปีจบลงแล้ว เขาควรกลับมาแล้ว เขากลับมาก็มาท้าประลองคณะหยินหยางเลยเหรอ! แบบนี้จะยอมไม่ได้ พวกเราไปสั่งสอนเขาเถอะ”
ทุกคนโมโห ในที่สุดพวกลูกศิษย์คณะหยินหยางโยนความหวาดกลัวทิ้งไป แล้วก้าวออกไปข้างนอก
แต่ขณะนั้น เสียงหนึ่งดังก้องคณะหยินหยาง
“เอี๋ยนชิง ไสหัวออกมา!”