เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 869
“แดนปราณนอกขั้นสูงสุด!”
หานเฟิงพูดด้วยความตกใจ
ฉู่สิงตกใจจนคางจะหลุดลงมา นี่ต้องกินยาทิพย์ยาวิเศษอะไร วิทยายุทธถึงพุ่งสูงถึงระดับนี้
พละกำลังขนาดนี้ เขาสามารถสู้กับเอี๋ยนชิงเมื่อหนึ่งปีก่อนได้เลย!
ใบหน้าอาจารย์เสวียนคงมีรอยยิ้มสดใส
อาจารย์อู๋โฉวที่อยู่ข้างๆ ถามเบาๆ ว่า “เสวียนคง ดูไม่ออกเลยว่าตอนนี้นายสอนศิษย์เป็นแล้ว”
อาจารย์เสวียนคงตอบว่า “คิดไปคิดมา ยังไงก็ต้องทิ้งอะไรไว้บ้าง เป็นความสามารถของตัวอี้ไป๋เอง สิ่งที่ฉันช่วยเขาได้ก็คงเท่านี้แหละ”
อาจารย์เสวียนคงมองแผ่นหลังอี้ไป๋ รอยยิ้มกว้างขึ้นอีก เขารู้สึกกับตัวแล้วว่าอะไรคือการทุ่มสุดกำลังเพื่อสอนศิษย์
มันเป็นความรู้สึกที่จิตใจเต็มไปด้วยความพึงพอใจ ความสงบอย่างหนึ่ง ความหวังอย่างหนึ่ง
ส่วนอี้ไป๋จะแพ้หรือชนะ ตอนนี้มันไม่สำคัญสำหรับเขาแล้ว
ทางด้านนี้ หานเฟิงสะดุ้งแล้วพูดว่า “เตรียมตัวมาตามคาด ศิษย์พี่ พวกพี่ว่าเราจะอดทนได้ไหม”
ฉู่สิงพูดว่า “ทนไม่ได้อยู่แล้ว ศิษย์น้องหานเฟิง งั้นนายไปสู้รอบแรกละกัน”
ศิษย์พี่ฉู่เทียนยิ้มแล้วพูดว่า “ใช่ นายไปสิ ศิษย์น้องหานเฟิง พอดีเลยเราจะได้เห็นความก้าวหน้าของนายในระยะนี้ด้วย”
หานเฟิงมองทั้งสองคนด้วยใบหน้ากลัดกลุ้ม แล้วพูดว่า “นี่เรียกขี่ช้างจับตั๊กแตนไม่ใช่หรือไง ผมว่าแค่โชว์พลังปราณ เขาก็ยอมแพ้แล้ว”
ขณะนั้นอาจารย์เต้ากวงพูดว่า “ฉู่สิง นายไปสู้รอบแรกเถอะ หานเฟิงรอรับมือคนที่เหลือ การต่อสู้ครั้งนี้ไม่ต้องถึงมือนาย”
ฉู่สิงชี้หน้าตัวเองแล้วพูดว่า “ผมเหรอ อาจารย์เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า”
อาจารย์เต้ากวงยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่ได้เข้าใจผิด นายนั่นแหละ ตอนนี้หานเฟิงแข็งแกร่งกว่านายแล้ว”
ฉู่สิงอ้าปากค้าง พูดอะไรไม่ออกทันที หานเฟิงพูดด้วยสีหน้าได้ใจ “ศิษย์พี่ฉู่สิง บางเรื่องพี่ไม่ยอมรับก็ไม่ได้นะ”
ฉู่เทียนกับศิษย์พี่ใหญ่มองหานเฟิงอย่างตกใจเล็กน้อย
กลับมานานขนาดนี้ พวกเขายังไม่เคยเห็นหานเฟิงลงมือ ไม่รู้เลยว่าพละกำลังของหานเฟิงเพิ่มขึ้นเยอะขนาดนี้
ฉู่เทียนถามอย่างอยากรู้ว่า “ศิษย์น้องหานเฟิง อย่าบอกนะว่านายเข้าสู่แดนปราณชีวิตแล้ว”
หานเฟิงพยักหน้าพูดว่า “แน่นอนอยู่แล้ว”
ศิษย์พี่ใหญ่หัวเราะ เอามือลูบท้องแล้วพูดว่า “เฮ้อ แข็งแกร่งขึ้นทุกรุ่นจริงๆ”
ฉู่สิงมองหานเฟิงนานขึ้นอีก ยังคงไม่อยากเชื่อ
ที่สำคัญคือช่วงนี้เขาไม่ได้หยุดเลย ฝึกวิชาอย่างเอาเป็นเอาตายมาก ทำไมถึงโดนหานเฟิงทิ้งห่างไปได้ล่ะ ขนาดอาจารย์เต้ากวงยังคิดว่าหานเฟิงแข็งแกร่งกว่าเขาด้วย
ฉู่สิงจับกระบี่ยาวไว้ในมือ ยืนหน้าอี้ไป๋ พลังปราณบนตัวถูกใช้ออกมา
สีฟ้าเล็กน้อยปรากฏขึ้นในมือฉู่สิง พลังฟ้าดินรอบๆ เคลื่อนไหวเบาๆ
แดนปราณชีวิตครึ่งก้าว!
ทันใดนั้น ทุกคนรู้ระดับขั้นของฉู่สิงแล้ว
พลังห้าธาตุเข้าสู่ร่างกาย ก้าวออกมาคือปราณชีวิต แต่เห็นได้ชัดว่าฉู่สิงยังขาดอีกหน่อย จึงนับว่าอยู่ในแดนปราณชีวิตเพียงครึ่งก้าว
นักเรียนคณะอื่น พากันส่งเสียงออกมาอย่างตกใจทันที
นักเรียนคณะหนึ่งเดียวไม่ธรรมดาจริงๆ เลือกออกมาเล่นๆ สักคน ล้วนอยู่ในแดนปราณชีวิตได้ครึ่งก้าวแล้ว
แต่อี้ไป๋กลับนิ่งมาก ราวกับทุกอย่างไม่เหนือความคาดหมาย
อี้ไป๋พูดอย่างราบเรียบว่า “เวลาหนึ่งปีนี้ ฉันทำความเข้าใจกระบวนท่าหนึ่ง”
อักษร 16 ตัวปรากฏบนมือฉู่สิง หยินหยางปากว้าปรากฏด้านล่างเท้า เขาพูดเสียงดังว่า “เข้ามาสิ!”
แววตาอี้ไป๋เป็นประกายสว่างวาบ เขาแผดเสียงออกมา
“สายลมจงมา!”
เกิดพายุบ้าคลั่ง ฟ้าดินเกิดการเปลี่ยนแปลง
จู่ๆ กระบี่สี่เล่มในมืออี้ไป๋รวมตัวเป็นหนึ่ง
สายลมพุ่งขึ้นสูง กลายเป็นมังกร
ใช้พลังขับเคลื่อนลม ใช้ลมกลายเป็นกระบี่ ใช้กระบี่กลายเป็นวิญญาณ!