เหมือนอีกฝ่ายไม่ได้มีเจตนาร้าย ลู่ฝานจึงตอบอย่างราบเรียบว่า “ลู่ฝาน มาจากสถาบันสอนวิชาบู๊”
หยวนเลี่ยอึ้งไป แล้วพูดว่า “สถาบันสอนวิชาบู๊ ไม่เคยได้ยินมาก่อน สหายไม่ใช่คนเขตเยี่ยนเหรอ”
ลู่ฝานประหลาดใจเล็กน้อย จู่ๆ เขาหัวเราะแล้วพูดว่า “ไม่ใช่ ฉันมาจากเขตตงหวา”
หยวนเลี่ยนพูดด้วยความตกใจ “เขตตงหวาเหรอ ฉันเคยได้ยิน เหมือนจะเป็นเขตที่ใหญ่มากเขตหนึ่ง นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเจอคนเขตอื่น สหายก็ไปร่วมการคัดเลือกเหมือนกันสินะ ขึ้นมาคุยกันดีกว่าไหม”
หยวนเลี่ยเชิญลู่ฝานขึ้นมาบนเรือทันที ลู่ฝานยิ้มบางๆ ขณะกำลังจะปฏิเสธ ผู้หญิงอีกคนที่อยู่ข้างๆ พูดว่า “หยวนเลี่ย ทำไมนายแต่เชิญใครก็ไม่รู้ขึ้นเรือล่ะ เขตเล็กๆ แบบเขตตงหวา จะเทียบกับเขตเยี่ยนของเราได้เหรอ นายพูดไร้สาระกับเขาทำไม”
อีกคนหัวเราะแล้วพูดว่า “นานทีจะได้เจอคนเขตอื่นไง แม้เป็นนักบู๊เขตเล็กๆ แต่ทำความรู้จักกับเขตอื่นไว้สักหน่อย ก็ไม่มีอะไรผิดนิ เฝิงอิ่ง เธอไม่ต้องมาขวาง สหาย ฉันชื่อเซี่ยงจู้ ขึ้นมาคุยกันไหม”
ลู่ฝานกวาดตามองทั้งสามคน เป็นชายสองคน หญิงหนึ่งคน ผู้ชายอ้วนคนหนึ่ง ส่วนอีกคนผอม คนหนึ่งเตี้ย คนหนึ่งสูง เซี่ยงจู้ตัวใหญ่มาก หน้าตาดูน่ากลัว
ส่วนผู้หญิงที่ชื่อเฝิงอิ่ง ยังดูสวยนิดหน่อย แต่ก็แค่นิดหน่อยเท่านั้น
ลู่ฝานพูดว่า “ไม่ต้องขึ้นเรือหรอก เราคุยกับแบบนี้แหละดีมากแล้ว ฉันว่าทั้งสามคนควบคุมเรือลำนี้ได้อย่างเชี่ยวชาญ คงรู้ว่าสิ่งที่เดินทางผ่านมิติพวกนี้ใช้ยังไง ช่วยบอกหน่อยได้ไหม”
ลู่ฝานถามคำถามสำคัญที่ตัวเองอยากรู้
เฝิงอิ่งได้ยินคำถามของลู่ฝาน ความดูหมิ่นบนใบหน้าเพิ่มขึ้นอีก
หยวนเลี่ยอึ้งเล็กน้อย หลังจากนั้นหัวเราะเสียงดัง แล้วพูดว่า “ฮ่าๆ สหายลู่ฝาน นายไม่รู้แม้กระทั่งการควบคุมสิ่งที่เดินทางผ่านมิติ แต่กล้าเข้ามาในอุโมงค์ข้ามมิติ นายนี่……เก่งเกินไปแล้ว”
จู่ๆ หยวนเลี่ยไม่รู้จะหาคำไหนมาบรรยายการกระทำของลู่ฝาน แต่เมื่อเห็นเขาหัวเราะเหมือนจะตาย ลู่ฝานทำได้เพียงยิ้มกระอักกระอ่วน
เซี่ยงจู้ที่ชวนลู่ฝานขึ้นมาบนเรือ ตอนนี้แววตาเขามีความดูถูก ไม่พูดอะไรมากอีก มีเพียงหยวนเลี่ยที่พูดด้วยสีหน้าตื่นเต้นว่า “อันที่จริงง่ายมาก ไม่ว่าจะเป็นสิ่งอากาศธาตุแบบไหน ล้วนใช้พลังปราณหรือไม่ก็พลังชี่ควบคุม ใส่พลังของนายเข้าไป มันจะเคลื่อนตัวตามใจนาย นายจะให้มันหยุดมันก็หยุด”
ลู่ฝานส่งเสียงตอบรับ ทำท่าคารวะหยวนเลี่ย เพื่อแสดงความขอบคุณ
หยวนเลี่ยส่ายหน้าไปมาแล้วพูดว่า “เรื่องเล็กน้อย อันที่จริงในอุโมงค์ข้ามมิติ จะหยุดหรือไม่หยุดก็ได้ โดยเฉพาะคนที่เดินทางบนถนนเส้นใหญ่ไปเมืองหลวงเหมือนพวกเรา ปล่อยให้สิ่งที่เดินทางผ่านมิติล่องลอยไปก็พอแล้ว เมื่อถึงจุดหมาย มันจะหยุดเอง”
ลู่ฝานฟังไม่ค่อยเข้าใจ จึงถามว่า “ถนนเส้นใหญ่ จุดหมาย หมายความว่ายังไง”
หยวนเลี่ยพูดว่า “อุโมงค์ข้ามมิติด้านล่างตัวเราคือถนนใหญ่ไง เหมือนกับถนนหลวง ถนนใหญ่แบบนี้ไปแค่เมืองหลวงเท่านั้น นายจินตนาการเมืองหลวงเป็นค่ายกลขนาดใหญ่ก็ได้ พลังฟ้าดินทั้งประเทศอู่อาน ถูกมันดูดมา และกลายเป็นเส้นทางขนาดใหญ่แปดเส้นทาง เราอยู่ในหนึ่งเส้นทางนั้น เมื่อถึงเมืองหลวง อุโมงค์ข้ามมิติจะหายไป ก็เท่ากับถึงจุดหมายแล้วไม่ใช่หรือไง”
ลู่ฝานพยักหน้าเข้าใจ ที่แท้หลักการแบบนี้นี่เอง
เมื่อพูดแบบนี้ อุโมงค์ข้ามมิติ คล้ายถนนหลวงที่ผู้มีความสามารถตั้งใจสร้างออกมาอยู่นิดหน่อย
ลู่ฝานมองอุโมงค์ข้ามมิติขนาดใหญ่ด้านล่าง พลังฟ้าดินที่มากจนสูดเข้าไปทีเดียว สามารถทำให้ท้องแตกตายได้ ลู่ฝานตกใจมาก ผู้มีความสามารถแบบไหนกันถึงสามารถทำได้ระดับนี้