เสียงดังกังวานดั่งระฆัง คิดไม่ถึงเลยว่าเสียงของเด็กจะกังวานขนาดนี้
หม้อใบใหญ่มีเสียงดังอื้ออึง เหมือนพื้นสั่นสะเทือนตามไปด้วย
ทันใดนั้น ห้องยาทั้งห้าเขต ผู้ฝึกชี่จำนวนไม่น้อยโดนสะเทือนออกมาจากห้องยา
“ทางฝั่งเจดีย์สีขาวเกิดอะไรขึ้น”
“ไปดูกันเถอะ อย่าบอกนะว่ามีคนกลั่นยาระดับสูงออกมาได้ เพราะการแนะนำของอาจารย์ยาลู่ฝาน”
กลุ่มผู้ฝึกชี่รีบพุ่งไปทางเจดีย์สีขาวอย่างรวดเร็ว
ตอนนี้ไม่มีใครสังเกตเห็นบนฟ้า
มีคนสามคนยืนอยู่นานแล้ว!
พลังฟ้าดินบางๆ หนึ่งชั้นปิดบังตัวทั้งสามคนไว้ คนนอกไม่มีทางมองเห็น เหมือนทั้งสามคนล่องหนอยู่ในอากาศอย่างไรอย่างนั้น
ผู้อาวุโสโม่สีหน้าไม่สบอารมณ์
“เสี่ยวซู ฉันบอกให้ศิษย์ของนายมาประลองด้านยาไม่ใช่เหรอ ทำไมนายถึงหาเด็กมาล่ะ”
ตาเฒ่าซูพูดอย่างนอบน้อมว่า “ผู้อาวุโสโม่ นายคงไม่รู้ว่าเด็กคนนี้ไม่ใช่เด็กธรรมดา แต่เป็นผู้ฝึกชั่วร้ายที่เป็นอาจารย์ยา”
ผู้อาวุโสโม่ขมวดคิ้วพูดว่า “เด็กจะเป็นผู้ฝึกชั่วร้ายที่เป็นอาจารย์ยาได้ยังไง เขาเพิ่งอายุกี่ปีเอง มีความสามารถอะไรถึงได้เป็นอาจารย์ยา ส่วนเรื่องผู้ฝึกชั่วร้าย ฉันเห็นออร่าปีศาจในท้องเขาแค่เล็กน้อยเท่านั้น เฮ่อจง นายรู้ไหมว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น”
เฮ่อจงคำนับแล้วพูดว่า “ผู้อาวุโสโม่ คืออย่างนี้ครับ สิบกว่าวันก่อนหน้านี้ อยู่ดีๆ เด็กคนนี้มานอนอยู่ข้างนอกเจดีย์อย่าง แผลบนตัวสาหัสมาก เหมือนจะถึงแก่ชีวิต นักเรกิในเจดีย์เห็นเขา จึงช่วยเอาไว้ครับ”
ผู้อาวุโสโม่พยักหน้าพูดว่า “ใช้ยาช่วยชีวิตคน คุณธรรมของคน ยิ่งไปกว่านั้นอยู่นอกเจดีย์ยาด้วย หลังจากนั้นล่ะ”
เฮ่อจงพูดต่อ “หลังจากนั้นเมื่อเด็กคนนี้ฟื้นขึ้นมา ผู้ฝึกชี่คนนั้นพบว่าในตัวเขามีออร่าปีศาจ จึงรีบมารายงานพวกเรา หลังจากสอบถามไปสองสามรอบ เด็กที่ชื่ออี้ปู่คนนี้ บอกความจริงที่พ่อเขาเป็นผู้ฝึกชั่วร้าย จากที่เขาพูด พ่อเขาเป็นผู้ฝึกชั่วร้ายที่เป็นอาจารย์ยา ฝึกวิชายาโลหิต ออร่าปีศาจในตัวเขามาจากการกินยาโลหิตตั้งแต่เด็ก ส่วนพ่อของเขาช่วงก่อนหน้านี้ระยะหนึ่งได้กลั่นยาจนตาย เด็กคนนี้ก็บาดเจ็บสาหัส พยายามสุดชีวิตมาตลอดทาง บุกเข้ามาในเจดีย์ยา เขาบอกว่าก่อนพ่อเขาจะตายได้บอกว่ามีเพียงผู้ฝึกชี่ที่นี่ที่จะช่วยเขาได้”
ผู้อาวุโสโม่พูดว่า “ตรวจสอบเรื่องนี้หรือยัง”
เฮ่อจงพยักหน้าพูดว่า “ตรวจสอบแล้วครับ มีเรื่องนี้จริงๆ ครับ พ่อเขาชื่ออี้หง เมื่อ 20 ปีก่อนเป็นผู้ฝึกชี่ที่เจดีย์ยา ต่อมาบังเอิญได้หนังสือกลั่นยาโลหิตมาเล่มหนึ่ง ถอนตัวไม่ขึ้น เข้าสู่วิถีมาร เราตามเคยตามจับอยู่หลายครั้ง แต่จับตัวเขาไม่ได้ ที่แท้เขาหลบอยู่ในเมืองหลวง ห่างจากเจดีย์ยาของเราแค่ถนนเพียงสามเส้น นักพรตใหญ่บำเพ็ญพรตกลางใจเมือง ทำให้เขาซ่อนตัวได้ถึง 20 ปี ครั้งนี้เขาอยากกลั่นยาโลหิตที่แข็งแกร่งให้สำเร็จ แต่ไม่คิดว่าการแว้งกัดเกินขนาด ตัวตายวิถีสูญสลาย”
ชะงักไปครู่หนึ่ง เฮ่อจงพูดเสริมอีกประโยค “ผมส่งคนไปตรวจดูอย่างละเอียดอีกครั้ง พบว่า 20 ปีมานี้ เขาสงบเสงี่ยมเจียมตัวมาตลอด ไม่เคยฆ่าใครสักคน เลือดสดที่ใช้ล้วนเป็นเลือดสัตว์ที่ซื้อมา มากสุดก็คือเลือดตัวเอง”
ผู้อาวุโสโม่ถอนหายใจแล้วพูดว่า “ช่างเป็นคนที่ไร้เดียงสา”
เฮ่อจงพูดว่า “ดังนั้นผมอยากให้เด็กคนนี้อยู่ที่เจดีย์ยา แต่ท่านซูมีความคิดต่าง เราเถียงกันไม่ได้ข้อสรุป เลยทำได้แค่ให้เขาไปอยู่ที่ห้องใต้ดินก่อน ใช่สิ เด็กคนนี้ไม่เพียงแต่สืบทอดเต๋ายาจากพ่อเขา อีกทั้งยังปรับปรุงวิชายาทลายที่พ่อเขาใช้เวลาทั้งชีวิตศึกษาออกมาให้ดีขึ้นด้วยครับ สร้างวิชายาทลายชูวิญญาณออกมาหนึ่งชุด เขามอบวิชายาทลายชูวิญญาณให้พวกเราแล้ว ไว้วันหลังเชิญผู้อาวุโสโม่มาดูครับ”