ลู่ฝานไม่พูดอะไร แต่มองฉินอวิ่นเงียบๆ
จู่ๆ ฉินอวิ่นมองไปทางประตูแล้วพูดว่า “ทำไมข้างนอกยังมีคนยืนอยู่อีกคนล่ะ”
ลู่ฝานพูดอย่างราบเรียบว่า “พ่อบ้านของผมเอง”
ฉินอวิ่นพูดว่า “เป็นนักบู๊เหมือนกันเหรอ”
ลู่ฝานพยักหน้า
ฉินอวิ่นกวักมือแล้วพูดว่า “ให้เขาเข้ามาสิ”
เหรินเจียงรีบเดินออกไป พาสิบสามเข้ามาในห้อง
เมื่อสิบสามเข้ามา ก็มายืนอยู่ด้านหลังลู่ฝานอย่างเงียบๆ
ฉินอวิ่นมองสิบสามตั้งแต่หัวจรดเท้าสองสามครั้ง ยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่เลว ดูเหมือนนายเกิดในตระกูลวิถีบู๊สินะ พ่อบ้านนายก็มีความสามารถอยู่บ้าง นั่งสิ นั่งกันให้หมด”
แววตาลู่ฝานวูบไหวเล็กน้อย จากนั้นค่อยๆ นั่งลง
ฉินอวิ่นมองลู่ฝานอย่างแน่วแน่แล้วพูดว่า “ฉันชอบคนมีความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นนักบู๊หรือผู้ฝึกชี่ ขอแค่เป็นคนที่ช่วยฉันได้ ฉันชอบทั้งนั้น ลู่ฝาน นายเป็นนักบู๊ตามมาตรฐาน จิตใจมีวิถีบู๊ ความทะเยอทะยานยิ่งใหญ่ มีความเข้มแข็งห้าวหาญ ฉันชอบคนแบบนาย นายว่าราคาเรื่องการมาทำงานที่จวนฉันสิ เมื่อกี้ที่บอกว่าให้นายเป็นองครักษ์ ฉันแค่ล้อเล่น มีเงื่อนไขอะไรบอกมาได้เลย ฉันเป็นคนใจกว้าง”
ฉินอวิ่นอ้าแขนทั้งสองข้าง มองลู่ฝานด้วยรอยยิ้ม
ในขณะเดียวกัน ฉินอวิ่นก็พูดกับสิบสามว่า “นายก็พูดได้นะ ฉันดูออกว่านายเป็นนักฆ่า”
สิบสามไม่แม้แต่จะกะพริบตา ยืนเงียบๆ อยู่ตรงนั้น เหมือนสาวงามรอบๆ เป็นแค่ความงดงามเพียงภายนอกสำหรับเขา ไม่มีแรงดึงดูดเลยสักนิด
ลู่ฝานพูดว่า “พูดเงื่อนไขอะไรก็ได้จริงเหรอครับ”
ฉินอวิ่นกวักมือ ให้คนเอาเหล้ามาเสิร์ฟ เขาจิบเบาๆ แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “แน่นอนว่าเงื่อนไขอะไรก็ได้ แต่ถ้าเงื่อนไขของนายเกินไป ฉันก็แค่ไม่ตกลง ทำอะไรต้องมีความพอดีไม่ใช่เหรอ ใช่สิ โควตารายชื่อคัดเลือกของนาย ขายให้ฉันสิ ฉันให้ราคาดีกับนายได้นะ นายอยากเป็นหัวหน้าเขตไหม หรืออยากเข้าสถาบันบู๊องอาจ หรือเป็นข้าราชการเล็กๆ ในเมืองหลวง ก็ได้ทั้งนั้น”
จู่ๆ ลู่ฝานคิดว่าคนที่นั่งตรงข้ามตัวเอง ไม่ใช่ไท่จื่อของจักรพรรดิ แต่เป็นพ่อค้าในตลาด
แต่สิ่งที่พ่อค้าคนนี้จะขาย ไม่ใช่สินค้า แต่เป็นประเทศอู่อานทั้งประเทศ
ลู่ฝานส่ายหน้าพูดว่า “ขอโทษด้วยครับ ผมไม่สนใจเรื่องพวกนี้เลย แต่ผมอยากรู้ว่าทำไมไท่จื่อถึงต้องการโควตารายชื่อของผมล่ะครับ”
ฉินอวิ่นพูดว่า “เพราะโควตารายชื่อมีราคามาก ฉันกะจะเหลือไว้ให้คนคนหนึ่ง ถ้านายเอาไป ฉันต้องขาดทุนมากแน่ๆ คงพูดได้แค่ว่านายมาผิดจังหวะ ถ้าเร็วกว่านี้หน่อย ตอนโควตารายชื่อเพิ่งออกมา นายเอาโควตารายชื่อไปฉันก็ไม่ทำแบบนี้หรอก แต่นายมาช้าเกินไป แบ่งโควตารายชื่อได้พอประมาณแล้ว จู่ๆ นายก็โผล่มากะทันหัน นายรู้ไหมว่าคำว่ากะทันหันหมายถึงอะไร คือการที่ทำให้คนคิดไม่ถึง ตั้งตัวป้องกันไม่ทัน”
ฉินอวิ่นทำท่าโอเวอร์สองครั้ง จากนั้นลุกขึ้นยืน ก้มมองลู่ฝานแล้วพูดว่า “ถ้านายยอมให้โควตารายชื่อของตัวเอง จะดีที่สุด”
ลู่ฝานยิ้มบางๆ แล้วพูดว่า “อันที่จริงผมก็ไม่ได้สนใจโควตารายชื่อการคัดเลือกอยู่แล้ว”
ฉินอวิ่นปรบมือหัวเราะ แล้วพูดว่า “งั้นก็ดีมาก นายประกาศถอนตัวต่อหน้าทุกคน ฉันเอาโควตารายชื่อให้คนที่ควรให้ ต่างฝ่ายต่างพอใจ นายต้องการอะไรบอกฉันได้หมด มาที่จวนฉัน ฉันจะให้ตำแหน่งราชการสูงและเงินเดือนมาก รับรองว่านายเลื่อนตำแหน่งอย่างสบาย นายเป็นคนมีอนาคต ส่วนคนอย่างฉัน ฉันบอกไปแล้วว่าฉันใจกว้างมาก ถ้านายไม่มาก็ไม่เป็นไร นายเที่ยวเล่นในเมืองหลวงต่อไปอย่างมีความสุข ฉันให้เหรินเจียงไปเป็นเพื่อนนายได้ จะเมืองหลวง หรือแม้แต่ประเทศอู่อาน นายเที่ยวได้ตามใจชอบเลย”