เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1027
“ใช่ เมืองหลวงมีอำนาจใหญ่มากมาย ไปแล้วต้องระวังมาก ฉันว่าลู่ฝานไปแล้วจะหาคนฝึกปรือฝีมือคงไม่ง่าย ฉันได้ยินว่าพวกนักบู๊ที่ชื่อเสียงโด่งดัง ล้วนรักศักดิ์ศรีมาก ถ้าลู่ฝานเรียนรู้อะไรจากพวกเขาได้บ้างก็ดี”
ลู่เฮ่าหรานพูดด้วยรอยยิ้ม
ลู่หาวพยักหน้าพูดว่า “ใช่ครับ เมืองหลวงมียอดฝีมือมากมาย อีกทั้งยังอยู่ภายใต้อำนาจของราชวงศ์ ไม่น่าจะทะเลาะวิวาทกันได้”
ทั้งสองมองหน้ากันแล้วพยักหน้า จากนั้นจึงดื่มชาต่อ
ขณะนี้ทั้งสองไม่ได้สังเกตบนท้องฟ้า
มีเงาคนสามคนปรากฏออกมา!
เท้าเหยียบอยู่บนเมฆสูง ก้มมองเมืองตงหวาทั้งเมือง
คนที่เป็นหัวหน้า คือเซียนบำเพ็ญชี่ตี๋เหรินของจวนไท่จื่อ
“ที่นี่เมืองตงหวาสินะ ไม่ต้องผนึกค่ายกลเคลื่อนฟ้า อีกเดี๋ยวเราต้องอาศัยมันกลับไป”
ตี๋เหรินพูดพลาง ตบฝ่ามือไปทางด้านหลัง ทันใดนั้นรอยแยกมิติหดตัวช้าๆ หยุดนิ่งอยู่อย่างนั้น รอยแยกสีดำขลับ เหมือนรอยแผลบนม้วนภาพฟ้าดิน โหดเหี้ยมน่าเกลียด
เมื่อทำทุกอย่างเสร็จสิ้น ทั้งสามคนลงมาด้านล่าง
ทุกคนที่อยู่ด้านหน้าประตูตระกูลลู่ เห็นแสงสามแสงลงมาจากฟ้าทันที ร่วงลงมาหน้าประตูจวนลู่
ในเวลาเดียวกัน ในเมืองตงหวามีเสียงดังสะเทือนเลือนลั่น เหมือนเสือและมังกรคำราม สะเทือนจนทำให้ทุกคนเจ็บแก้วหู
เจดีย์สูงสี่ด้านที่ประตูเมือง ตอนนี้ดูเหมือนมีแสงสว่างจ้า
ตี๋เหรินมองแวบหนึ่ง สะบัดมือมีแสงออกมาอีกครั้ง
ในลำแสง เหมือนมีป้ายคำสั่งรวมไปกับฟ้าดิน เสียงดังสนั่นหายไปทันที เจดีย์ขาวก็เงียบลง
ทุกคนรีบหลีกทางให้ทั้งสามคน มองทั้งสามคนอย่างตกตะลึง
มาแบบเป็นลำแสง กระตุ้นค่ายกลคุ้มครองเมือง แสดงว่าพละกำลังของสามคนนี้ ต้องอยู่ในแดนปราณฟ้าขึ้นไป!
แต่หลังจากที่พวกเขาปล่อยแสงออกไป ค่ายกลกับเจดีย์ทั้งสี่เงียบลง แสดงให้เห็นอีกว่าทั้งสามคนไม่ใช่ผู้ฝึกชั่วร้ายที่บุกรุกเข้ามาในเมืองตงหวา มีความเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นคนในราชสำนัก!
“จวนลู่!”
ตี๋เหรินมองป้ายจวนลู่ แล้วพูดเสียงเบา
ทั้งสามพยักหน้า ถูกต้อง ที่นี่แหละ!
เดินเข้าไปด้านใน ทั้งสามคนเหมือนเข้าไปในดินแดนไร้ผู้คน
องครักษ์ตระกูลลู่สองสามคนรีบขวางหน้าทั้งสามคนเอาไว้ จากนั้นพูดเสียงดังว่า “นายเป็นใคร กล้าบุกเข้าไปในตระกูลลู่!”
ตี๋เหรินไม่แม้แต่จะมอง ยื่นมือแล้วสะบัด องครักษ์ของตระกูลลู่กระเด็นออกไปเองทันที
แต่นี่ไม่ได้ทำให้องครักษ์ตระกูลลู่หวาดกลัว กลับมีองครักษ์พุ่งเข้ามาอีกเป็นจำนวนมาก
“รีบแจ้งคุณท่านว่ามีคนบุกเข้ามาในตระกูลลู่!”
“ไปแจ้งผู้เฝ้าเมืองจาง ให้เขารีบส่งทหารมา”
“อีกคนไปแจ้งหัวหน้าเขตอี้ว์!”
ลูกหลานตระกูลลู่ตะโกนเสียงดัง
ตี๋เหรินทำเหมือนไม่ได้ยิน เดินเข้าไปด้านในต่อ
“มาขวางไว้!”
เมื่อพวกตี๋เหรินมาถึงลานประลองบู๊ของตระกูลลู่ พวกลูกหลานตระกูลลู่มาขวางทางไว้
ตี๋เหรินเห็นพวกเด็กน้อยขวางทาง เขาขมวดคิ้วเบาๆ แล้วพูดว่า “หลีกไป เรียกพ่อแม่ครูบาอาจารย์ของลู่ฝานออกมา!”
ลู่หงหยู่เดินมาข้างหน้าคนเดียว พูดเสียงดังว่า “นายสามารถเรียกชื่อเจ้าบ้านได้งั้นเหรอ โดนแส้ซะ!”
เมื่อสะบัดแส้ออกมา ตี๋เหรินไม่ขยับสักนิด ใช้แค่พลังชี่คุ้มกันร่างกาย ก็สามารถทำให้ลู่หงหยู่สะเทือนจนกระเด็นออกไปไกล จากนั้นกระแทกลงบนพื้น กระอักเลือดออกมา
ลูกหลานตระกูลลู่ตกตะลึง ตี๋เหรินยิ้มแล้วพูดว่า “เห็นหรือยัง ถ้าไม่อยากตายก็ถอยไปให้หมด!”
เมื่อพูดจบ กลับเห็นสายตาแน่วแน่ของพวกลูกหลานตระกูลลู่ ใบหน้าเด็ดเดี่ยวห้าวหาญ มองเขาด้วยสีหน้าที่เหมือนบ้าไปแล้ว
ต่อมาลูกหลานตระกูลลู่แผดเสียงดังออกมา “ลูกหลานตระกูลลู่ สู้จนตัวตายไม่ยอมถอย!”